เหรียญทองโอลิมปิก 1 สมัย พร้อมกับเหรียญทองแดงอีก 1 สมัย, เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2 สมัย, แชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์สูงสุดตลอดกาล (นับรวมทั้งฝ่ายหญิงและชาย) 12 สมัย ที่เจ้าตัวครองร่วมกับ ลี แดฮุน ของเกาหลีใต้ในเวลานี้ รวมไปถึงแชมป์โลก 2 สมัย, เหรียญทองซีเกมส์ 4 สมัย และเหรียญทอง กีฬาม.โลก อีก 3 ครั้ง ผลงานดังกล่าว ทำให้ไม่มีใครต้องสงสัยในความสามารถของ พาณิภัค

สิ่งที่ทำให้ "เทนนิส" มีวันทุกวันนี้ได้ ก็ต้องบอกว่าเกิดจากความรักและความทุ่มเท แม้ในช่วงแรกของการเริ่มต้นกีฬาเทควันโด จะไม่ได้มาจากความชอบ แต่เกิดขึ้น เพราะเล่นตามพี่ชาย แต่เมื่อได้เล่น ได้ซ้อม และลงแข่งขันแล้ว เริ่มสนุกและชอบกีฬาเทควันโด

เจ้าตัวเล่าว่า ช่วงแรกที่ลงแข่งขันตอนเด็กๆ ก็มักจะไม่ค่อยชนะใคร และทุกครั้งที่แพ้ก็ผิดหวังและร้องไห้ แต่ทุกคนในครอบครัวก็ให้กำลังใจเสมอมา กระทั่งช่วงวัย 11 ขวบ มีโอกาสได้สัมผัสชัยชนะ ด้วยการคว้าเหรียญทอง ในแมตช์ระดับภาคใต้

ชัยชนะดังกล่าวถือเป็นการจุดประกายไปสู่ความสำเร็จในเส้นทางสายเทควันโดของเจ้าตัว อย่างไรก็ตามความพยายาม ความมุ่งมั่น และศรัทธาที่ไม่เคยหมดไป ต่อแพ้กี่ครั้ง หรือเจออุปสรรคใดๆ ก็คือตัวแปรสำคัญเช่นกันทำให้เจ้าตัวก้าวมาเป็นนักเทควันโดที่ประสบความสำเร็จสูงสุด

แม้จะสานความฝันให้ตัวเองสำเร็จ ทั้งการคว้าแชมป์โลก คว้าเหรียญทองโอลิมปิก หรือเหรียญทองเวิลด์กรังด์ปรีซ์ได้สำเร็จ แต่อีกสิ่งที่เป็นความฝันของเจ้าตัว ก็คือ การเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ กีฬาเทควันโด ที่เธอรัก

มุ่งมั่นและลงมือทำในที่สุด พาณิภัค ทำได้จริงและสามารถเปิดโรงเรียนสอนเทควันโดเป็นชื่อของตัวเองได้สำเร็จ โดยใช้ชื่อว่า "Panipak Taekwondo" ซึ่งตั้งอยู่ที่โครงการ Little Walk กรุงเทพกรีฑา ชั้น 2 โดยเปิดสอนทั้งในรูปแบบคลาสนักกีฬา, คลาสเทควันโดสำหรับผู้ใหญ่, คลาสเทควันโดสำหรับเด็ก รวมไปถึงโยคะ

"เทนนิส" เปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยามว่า "Panipak Taekwondo" เพิ่งเปิดตัวทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 หลังเปิดทางการไป ก็มีคนสนใจมาสมัครและถามกันเยอะทีเดียว แต่ตอนนี้คลาสเรียนยังไม่เต็มยิม ซึ่งใครที่สนใจที่จะออกกำลังกาย หรือเรียนศิลปะการต่อสู้เพื่อใช้ป้องกันตัวเอง Panipak Taekwondo มีคลาสเปิดสอน

"เทนนิส" ยังเผยด้วยว่า การทำธุรกิจโรงเรียนสอนเทควันโด ทำให้ตัวเองโตขึ้นเหมือนกัน เพราะต้องคิดและวางแผนด้านต่างๆ  ซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบกับการเป็นนักกีฬา ตนมองว่าต่างกันค่อนข้างมาก เพราะนักกีฬามีหน้าที่แค่ฝึกซ้อม ซ้อมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำให้เต็มที่ตอนแข่งขัน เพื่อโอกาสคว้าเหรียญรางวัล ส่วนการทำธุรกิจ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เราเป็นเจ้าของกิจการ มีหลายเรื่องที่ต้องคิดและทำ ไล่ทำตั้งแต่การหาโค้ช หาครูสอน ซึ่งต้องคอยสกรีน ซึ่งก็รวมไปถึงการบริหารจัดการรายรับ-รายจ่าย ก็ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับตน อย่างไรก็ตาม ตรงจุดนี้ก็ได้หุ้นส่วน รวมถึงครอบครัวมาช่วย และคอยให้กำลังใจมาตลอด

"อย่างมาเปิดที่นี่ หนูก็พยายามหาโค้ชและครูที่มีความสามารถค่ะ ก็มาได้รุ่นน้องที่เรียนอยู่ที่จุฬาฯ มาช่วยเป็นครูประจำ และก็ได้ครูที่ความชำนาญในเรื่องของท่ารำ หรือ พุมเซ่ มาช่วยสอนที่โรงเรียนอีกค่ะ สำหรับ Panipak Taekwondo จะพยายามหาคุณครูและโค้ชเก่งๆมาประจำ เพื่อสอนเทคนิคและสร้างการเรียนรู้แบบต่างๆให้กับเด็กๆและผู้เข้ามาเรียนให้ได้รับประโยชน์มากที่สุด"

"สำหรับหนูก็จะเข้ามาที่โรงเรียนวันเสาร์และอาทิตย์ค่ะ ส่วนวันจันทร์-ศุกร์ เป็นวันที่ต้องฝึกซ้อมเทควันโดที่แคมป์ทีมชาติไทย ซึ่งที่เข้ามา ก็จะเข้ามาช่วยดู มาให้กำลังใจกับน้องๆและคนที่มาออกกำลังกายที่ยิมซะมากกว่า"

"ส่วนอนาคตก็อยากจะขยายกิจการ หาที่ให้ใหญ่ขึ้นค่ะ ก็ต้องดูอีกที่ว่าถ้าได้รับความสนใจ มีผู้ปกครองพาน้องมาเรียนมากๆ ก็อาจจะขยับขยายหาสถานที่ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการเรียนการสอน ส่วนการทำร้านกาแฟก็ยังคงเป็นความฝันของหนูอยู่ค่ะ ก็คงจะค่อยๆทำไปทีละเต็ปค่ะ ตอนนี้คือโฟกัสกับเรื่องการฝึกซ้อม เพื่อลงสนามแข่งขัน รวมถึงแบ่งเวลามาดูธุรกิจ พาณิภัคยิม ซึ่งก็ตั้งใจและอยากจะทำให้ดีที่สุดก่อนค่ะ"

พาณิภัค ยังทิ้งท้ายด้วยว่า ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส จะขอมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อคว้าเหรียญทองสมัยที่ 2 มาครองให้ได้ ส่วนก่อนจะไปถึงตรงนั้น ก็จะพยายามฝึกฝน พัฒนาเทคนิคใหม่ๆและศึกษาคู่ต่อสู้แต่ละรายที่มีโอกาสจะเจอให้มากที่สุด เพื่อที่ในช่วงของการแข่งขันจริงจะได้พร้อมที่สุด 

ประวัติส่วนตัว 

• ชื่อ : พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ 
• ชื่อเล่น : เทนนิส 
• วันเกิด :   8 สิงหาคม 2540 
• ภูมิลำเนา : จ.สุราษฎร์ธานี
• ส่วนสูง : 173 ซม.
• น้ำหนัก : 49 กก. 
• กีฬา-รุ่น : เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง 
• อาหารที่ชอบ : อาหารญี่ปุ่น (ปลาดิบ,ซูชิ) 
• สถานที่ที่ชอบไป : ทะเล 
• คติประจำใจ : ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

เกียรติประวัติสำคัญ 

• โอลิมปิกเกมส์ : เหรียญทอง ปี 2021 ที่ญี่ปุ่น และ เหรียญทองแดง ปี 2016 ที่บราซิล 
• ชิงแชมป์โลก : แชมป์โลก 2 สมัย ปี 2015 ที่รัสเซีย และปี 2019 ที่อังกฤษ 
• เอเชียนเกมส์ : เหรียญทอง 2 สมัย ปี 2018 ที่อินโดนีเซีย และ 2022 ที่จีน, เหรียญทองแดง 1 สมัย ปี 2014 ที่เกาหลีใต้ 
• ชิงแชมป์เอเชีย : เหรียญทอง 2 สมัย ปี 2014 ที่อุซเบกิสถาน และ ปี 2016 ที่ฟิลิปปินส์ 
• เวิลด์กรังด์ปรีซ์  : 12 สมัย (สูงสุดตลอดกาลของนักกีฬาฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย) 
• กีฬาม.โลก : เหรียญทอง 3 สมัย ปี 2017 ที่ไต้หวัน, ปี 2019 ที่อิตาลี และปี 2023 ที่จีน 
• ซีเกมส์ : เหรียญทอง 4 สมัย ปี 2017 ที่มาเลเซีย, ปี 2019 ที่ฟิลิปปินส์, ปี 2022 ที่เวียดนาม และปี 2023 ที่กัมพูชา