น้องใหม่ ไทยลีก : "โคทาโระ โอโมริ" ซามูไรคนใหม่แห่งทัพ เมืองทองฯ

บทความที่ 'SIAMSPORT' ใคร่เชิญคุณมาทำความรู้จักกับ 'เรื่องใหม่' ไม่ว่าจะเป็นสโมสรใหม่, นักเตะใหม่, ผู้บริหารใหม่, โค้ชคนใหม่ และอะไรก็ตามที่ 'ใหม่' เรารวบรวมข้อมูล รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาให้คุณได้อ่านกัน!!

โคทาโระ โอโมริ

สัญชาติ: ญี่ปุ่น 

อายุ: 31

ตำแหน่ง: กองกลาง

สโมสร: เมืองทอง ยูไนเต็ด

ใหม่ใน ไทยลีก: 2023-24 (เลกที่สอง)

   ห้วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นทีมที่มีการขยับตัวในตลาดซื้อ-ขายไม่มากนัก ด้วยนโยบายการผลักดันผู้เล่นจากอะคาเดมี่สู่ทีมชุดใหญ่ แต่ทุกครั้งที่กิเลนผยองเคลื่อนไหว มักจะสร้างความฮือฮาให้ได้เห็นอยู่เสมอ

   ตัวอย่างใกล้ๆ อย่างดีลของ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร มิดฟิลด์ชาวสยาม ผู้ไปเติบโตที่ฝรั่งเศส กระทั่งได้เซ็นสัญญากับ เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะมาเป็นสมาชิกใหม่ของอดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย เมื่อต้นซีซั่น 2023-24

   ล่าสุด ก่อนที่จะเปิดเลกสองของฤดูกาลปัจจุบัน เมืองทอง ก็จัดการคว้าหนึ่งในเตะโปรไฟล์ดีของวงการลูกหนังญีปุ่น

   โคทาโระ โอโมริ คือคนๆ นั้น

   ด้วยความที่เป็นชนชาวโอซากะ โดยกำเนิด ทำให้เขาเริ่มต้นกับโรงเรียนในจังหวัด กระทั่งฝีเท้าโดดเด่นสะดุดตา จึงเป็นที่มาของการโยกสู่อะคาเดมี่ของ กัมบะ สโมสรเบอร์อันเป็นความภาคภูมิของผู้คนที่เมืองนั้น

   โอโมริ ฝึกฝนตนเองอย่างขะมักเขม้น เขาคือ 'ตัวท็อป' ของรุ่นราวคราวเดียวกัน กระทั่งค่อยๆ ไต่เต้าจากทีมชุดเยาวชนจนกระทั่งมามีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2011 ด้วยวัย 19 ปี พร้อมกับเสื้อหมายเลข 31

   กัมบะ ชุดนั้น อุดมไปด้วยผู้เล่นชั้นนำของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ยาซึฮิโตะ เอ็นโดะ นักเตะที่ภายหลังกลายเป็นตำนานทีมชาติญี่ปุ่น กับการลงสนามให้ เดอะ ซามูไร บลู มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวน 152 เกม

   นอกจากนี้ยังมี อะกิระ คาจิ, โทโมะคะซึ เมียวจิน, ไซโตะ ยามากูชิ, ทากาฮิโระ ฟูตากะวะ และรวมไปถึง อี คึน-โฮ แนวรุกดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้

   ส่วน โอโมริ นั้นทะลุปล้องขึ้นสู่ชุดใหญ่รุ่นเดียวกันกับ ทาคาชิ อูซามิ อดีตวันเดอร์คิดส์แห่วงวงการฟุตบอลญี่ปุ่น

   อย่างไรก็ตาม ซีซั่นแรกบนเวที เจลีก เขาแทบไม่มีส่วนร่วมกับทีมที่จบอันดับ 3 ของฤดูกาล 2011 โดยส่วนใหญ่จะหนักไปทางการมีชื่อบนม้านั่งสำรองเสียมากกว่า 

   ซีซั่นถัดมา (2012) ก็เช่นเดิม โอโมริ ยังอยู่ในฐานะดาวรุ่ง และก็ได้เล่นให้ กัมบะ เพียง 7 เกม ในทุกรายการ แต่ที่น่าเจ็บปวดที่สุดคือการที่ต้นสังกัดของเขาต้องหล่นสู่ เจลีก 2 เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ซึ่งที่แดนปลาดิบ ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ของวงการ เนื่องจากนี่คือสโมสรใหญ่ของประเทศ

   พอหล่นชั้น ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งกลายเป็นผลดีต่อเขาเอง เนื่องจากมีส่วนกับทีมมากขึ้นเรื่อยๆ และก็พา กัมบะ หวนคืนสู่ เจลีก อีกครั้ง หลังตกต่ำไปเพียงซีซั่นเดียว

   กระทั่งฤดูกาล 2014 - โอโมริ ในวัย 21 ปี ได้กลายเป็นหนึ่งในขุมกำลังหลักของสโมสร โดยเปลี่ยนมาใส่เบอร์ 19 พร้อมกับลงเล่นไป 36 นัด ในทุกรายการ และทำไป 7 ประตู 

    แต่ที่สำคัญเหนืออื่นใด ซีซั่นนั้น กัมบะ สร้างประวัติศาสตร์คว้า 'เทรเบิ้ลแชมป์' หรีอกวาด 3 ถ้วยในญี่ปุ่น ไล่ตั้งแต่ เจลีก, เจลีก คัพ และปิดท้ายที่ เอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งถือเป็นหนแรกของสโมสรที่ประสบความสำเร็จขนาดนี้

   ในปีนั้น บทบาทของ โอโมริ คือมักจะประจำการทางริมเส้นฝั่งซ้าย ซึ่งได้ประสานงานกับตำนานทีมชาติอย่าง เอ็นโดะ ที่อยู่ก่อนอยู่แล้ว และมี ยาซูยูกิ คอนโนะ ที่เพิ่งย้ายเข้ามา ส่วนแนวรุก ก็ได้ อูซามิ เกลอแก้วของเขาที่เพิ่งกลับมาจากค้าแข้งในเยอรมัน ก่อนจะท็อปฟอร์ม กดไป 21 ประตู พาทีมพุ่งชนโทรฟี่มากมาย

    นับแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็กลายเป็นนักเตะตัวหลักของทีมโดยตลอด

   ฤดูกาล 2015 เขาได้เผชิญหน้ากับ ธีราทร บุญมาทัน และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งตนเองก็เป็นผู้ทำประตูชัยให้ กัมบะ บุกมาพิชิตปราสาทสายฟ้าถึง ช้าง อารีน่า 2-1 ก่อนจะกรุยทางไปถึงรอบ 4 ทีม สุดท้าย

   หลังจาก 6 ปี เต็มที่ได้โลดแล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสรบ้านเกิด - ซีซั่น 2017 โอโมริ โบกมืออำลาเพื่อไปหาความท้าทายใหม่ที่ วิสเซิ่ล โกเบ ที่สร้างความฮือฮากับการนำ ลูคัส โพดอลสกี้ มาค้าแข้งที่นี่

   แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์ที่สั่งสม อดีตแนวรุก กัมบะ ภายใต้หมายเลข 29 กับต้นสังกัดใหม่ เขาได้ลงสนามเคียงข้างซูเปอร์สตาร์ผู้พาเยอรมนีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 โดยสลับไปฝั่งขวาบ้าง, ซ้ายบ้าง หรือยืนเป็นเพลย์เมเกอร์ก็มี

   อย่างไรก็ตาม โอโมริ อยู่กับ โกเบ ได้แค่ปีเดียว ก็ถูก เอฟซี โตเกียว ดึงตัวไปร่วมทัพในซีซั่น 2018 ซึ่งที่นี่เขาได้เล่นร่วมกับ เทเคฟูสะ คูโบะ สุดยอดดาวรุ่งแห่งวงการฟุตบอลเอเชีย 

   ปีแรกกับทีมใหม่ยังไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไหร่ แต่พอเข้าสู่ปีที่สอง (ฤดูกาล 2019) เท่านั้นแหละ ฟอร์มของเขาเปล่งประกายฉายแสงจนมีส่วนสำคัญต่อการลุ้นแชมป์ เจลีก ก่อนจะพลาดท่าให้ โยโกฮามะ มะรินอส ที่มี ธีราทร อยู่ในทีม ไปในช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน

   สัญญาของ โอโมริ กับ เอฟซี โตเกียว สิ้นสุดลงหลังซีซั่น 2019 เขาจึงไปต่อที่ จูบิโล่ อิวาตะ (2020) ที่เพิ่งหล่นชั้นสู่ เจลีก 2 แบบสดๆ ร้อนๆ ด้วยการจรดปากกายาว 4 ปี 

   แนวรุกวัย 28 ปี (ณ ขณะนั้น) เป็นคีย์แมนสำคัญที่ทำให้ทีมกลับสู่ลีกสูงสุดได้อีกครั้งในฤดูกาล 2022 ซึ่งตลอดระยะเวลาในสัญญากับ จูบิโล่ - เขาลงเล่นเกินกว่า 100 เกม ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงทีเดียว

   สไตล์ของ โอโมริ นั้นใช้ฟุตบอลเดินทางเป็นหลัก ไม่ครองบอลนาน หากแต่ใช้การเคลื่อนที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อต้นสังกัดของตนเองเป็นหลัก ดังนั้นถ้าจะมองหาจังหวะกระชากลากเลื้อยจากเขานั้นคงเห็นได้ยาก แต่ถ้ามองในเรื่องประสิทธิภาพโดยรวม หมอนี่ผ่านฉลุย เพราะจะทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นง่ายขึ้นมากมาย

   จากโปรไฟล์ที่มี บวกด้วยมันสมองอันปราดเปรื่อง และการได้ประสานงานกับนักเตะสกิลสูงอย่าง พิชา อุทรา รวมไปถึง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ในแดนกลาง น่าจะทำให้มิติเกมรุกของ เมืองทอง ดูหลายหลากมากยิ่งขึ้น

   เชื่อว่าสาวกกิเลนผยองคงแทบอดรนทนไม่ไหวแล้ว ที่จะได้เห็นฟอร์มของ โคทาโระ โอโมริ ในเร็ววัน



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport