พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ใส่เกียร์ ดัน มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการกีฬา ผ่านฉลุย ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีหักลดหย่อนหรือหักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับผู้บริจาคให้องค์กรกีฬา ทั้ง การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, คณะกรรมการกีฬาจังหวัด, สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด, สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และกรมพลศึกษา เพื่อดึงภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกันขับเคลื่อนยกระดับศักยภาพของวงการกีฬาไทย และอุตสาหกรรมกีฬาให้มีการขยายตัว และเติบโตเพิ่มมากยิ่งขึ้น
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบริหาร กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เดินเครื่องผลักดัน "มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการกีฬา" จนล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาตรการนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะสนับสนุนการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี 2 เท่า สำหรับการบริจาคเพื่อสนับสนุนการกีฬา ผ่านระบบ e-Donation ให้แก่ผู้ประกอบการ หรือผู้บริจาคสนับสนุนองค์กรกีฬา ทำให้ผู้บริจาคที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ 2 เท่าอีกครั้ง หลังจากที่สิทธิประโยชน์นี้หมดไปนานหลายปี
สำหรับ "มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการกีฬา" เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษี 2 เท่า ให้แก่ผู้ประกอบการ หรือผู้บริจาค ให้แก่องค์กรกีฬาที่รับบริจาคประกอบด้วย การกีฬาแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการกีฬาจังหวัด, สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด, สมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า "แห่งประเทศไทย" หรือกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทย และกรมพลศึกษา
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ หรือผู้บริจาค จะเป็นการสนับสนุนการวงการกีฬาไทยผ่านระบบ e-Donation โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งผู้ประกอบการ หรือผู้บริจาค สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อน หรือหักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับมาตรการนี้จะเป็นการช่วยขับเคลื่อนเพิ่มศักยภาพของวงการกีฬาไทยในการแข่งขันทั้งรายการในประเทศ และระดับนานาชาติ รวมถึงเป็นการยกระดับการส่งเสริม และพัฒนาวงการอุตสาหกรรมกีฬาทั้งองคาพยพ ทั้งการบริการด้านกีฬา และกิจกรรมกีฬาของประเทศอีกด้วย
อนึ่ง "มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการกีฬา" อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนวงการกีฬาไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน และภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมกับการสนับสนุนวงการกีฬาไทย โดยมาตรการนี้จะทำให้องค์กรกีฬาระดับจังหวัด และระดับประเทศ สามารถพัฒนาความสามารถของนักกีฬา และบุคลากรกีฬาด้านกีฬาได้มีการยกระดับมาตรฐานในการแข่งขันกีฬาของประเทศ อีกทั้งช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมกีฬา และบริการด้านกีฬา เกิดการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง