กกท.จับมือแพร่จัดไตรกีฬากระตุ้นท่องเที่ยว-ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกับ จ.แพร่ เดินหน้าจัดศึกไตรกีฬารายการใหญ่ "แพร่ไตรกีฬา Phrae Triathlon 2023" ปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด "เสน่ห์เมืองแพร่ งามแต๊ วิถีล้านนา" หวังกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานงานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมการแข่งขันไตรกีฬา Phrae Triathlon (จังหวัดแพร่) 2023 ภายใต้แนวคิด "เสน่ห์เมืองแพร่ งามแต๊ วิถีล้านนา" ปีที่ 4 ติดต่อกัน หลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากปีที่ผ่านมา ที่วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง จ.แพร่ 

สำหรับปีนี้ จ.แพร่ ได้ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดแพร่ ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย และกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวในตัวจังหวัด เมื่อ 19 มี.ค.66 ซึ่งปีนี้รับสมัครผู้เข้าร่วม 400 คนฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย 

นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งของชาวจังหวัดแพร่ ที่ได้รับความไว้วางใจจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมการแข่งขันแพร่ไตรกีฬา Phrae Triathlon 2023 ซึ่งเป็นรายการแข่งขันที่จัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 4 แล้ว เสมือนเป็นรายการแข่งขันกีฬาประจำปีของจังหวัดแพร่ ที่นักไตรกีฬาจากทั่วประเทศต่างรอคอย 

นางสาว นิติยา เผยอีกว่า จุดเด่นของรายการนี้คือ ความพร้อมและความโดดเด่นของจังหวัดที่มีภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิมที่เรียบง่ายงดงามของชาวล้านนามายาวนาน และมีเส้นทางที่สามารถจัดกิจกรรมกีฬากลางแจ้งแนวผจญภัย ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้หลายชนิดกีฬา สามารถรองรับกิจกรรมการแข่งขันไตรกีฬา ได้เป็นอย่างดี 

"จังหวัดยังได้อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่ นักกีฬา และนักท่องเที่ยว ที่สำคัญพี่น้องชาวแพร่ในฐานะเจ้าบ้านได้ให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการต้อนรับนักกีฬาและนักท่องเที่ยว ด้วยอัธยาศัยไมตรีที่งดงามแบบประเพณีล้านนา สอดรับกับแนวคิดของการแข่งขันในปีนี้ว่า "เสน่ห์เมืองแพร่ งามแต๊ วิถีล้านนา" เพื่อสร้างความประทับใจให้จากนักกีฬา และนักท่องเที่ยวทุกคนได้อย่างแน่นอน"

ด้านนางสาว สุมินตรา จินดาขัด ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดแพร่ เผยว่าในปีนี้ต้องยอมรับว่ามีกระแสตอบรับที่ดีเช่นปีก่อนๆ เพราะทันทีที่เปิดรับสมัคร มีนักกีฬาสมัครเข้าร่วมแข่งขันเต็มจำนวน 400 คน ภายในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง ทั้งประเภทชาย และหญิง ใน 2 ระยะ คือ ระยะมาตรฐานโอลิมปิก และระยะสปริ้นท์ (ระยะสั้น) สำหรับนักไตรกีฬามือใหม่ ซึ่งเส้นทางการแข่ง ว่ายน้ำ จัดขึ้นที่อ่างเก็บน้ำแม่สาย และจบลงด้วยการการวิ่งเข้าเส้นชัยที่ วัดพระธาตุช่อแฮพระอารามหลวง

"ตลอดเส้นทางจะมี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หน่วยพยาบาล และกู้ชีพฉุกเฉิน ตามแผนการรักษาความปลอดภัยนักกีฬาในเส้นทางการแข่งขันอย่างสูงสุดตามมาตรฐาน ISO มีจุดบริการน้ำดื่มระหว่างทาง และอาหารไว้บริการนักกีฬาหลังจากเข้าเส้นชัยอย่างเพียงพอ ซึ่งทุกระยะใช้การติดตามตัว และระบบจับเวลานักกีฬาแบบChip Timing หลังจบการแข่งขันนักกีฬาที่เข้าเส้นชัยทุกคนจะได้รับเหรียญ และเสื้อ Finisher เป็นที่ระลึก ที่สำคัญการแข่งขันในครั้งนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดฟรี ไม่เก็บค่าสมัครแต่อย่างใด เพราะต้องการให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของไตรนักกีฬาในทุกระดับ และยังสามารถที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ด้วยกิจกรรมกีฬา และสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องของจังหวัดแพร่ ได้อย่างยั่งยืนต่อไป"

ขณะที่ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดแพร่ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความสำเร็จ  3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นถึงความตื่นตัว เกิดกระแสความนิยมของชาวจังหวัดแพร่ในกีฬาชนิดนี้อย่างต่อเนื่อง สังเกตุจากมีจำนวนผู้ฝึกซ้อม และออกกำลังกายโดยการ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่งเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกชื่นใจกับความตื่นตัวของนักกีฬาจากทั่วประเทศ เพราะทันทีที่เปิดรับสมัครก็มีนักกีฬาให้ความสนใจสมัครเข้าแข่งขันเต็มจำนวนในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง ส่วนตัวเชื่อว่าการแข่งขันครั้งนี้ ได้ส่งผลให้นักกีฬาระดับเยาวชนของจังหวัดให้หันมาสนใจ และพัฒนาความสามารถในกีฬาประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ก่อนการแข่งขัน ได้รับเกียรติจาก นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานในพิธีเปิดและปล่อยตัวนักกีฬาใน พร้อมด้วย นายก้องภพ โพธิสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาภูมิภาค, นางสาวสุมินตรา จินดาขัด ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดแพร่, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู  นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดแพร่ 

สำหรับผู้คว้าชัยประเภทชายเดี่ยว ระยะมาตรฐาน ได้แก่ วิทยา ตาลาว, อันดับ 2 สันติ สุ่นเทียน, อันดับ 3 เกรียงศักดิ์ ลังกาดี, อันดับ 4 ทวีชัย ชัยวานิชกุล และ อันดับ 5 ชยุต พลเยี่ยม, ประเภทหญิงเดี่ยว ระยะมาตรฐาน  อันดับ 1 น้ำเพชร พรธารักษ์เจริญ ซึ่งคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2, อันดับ 2 กนกวรรณ ชัยวานิชกุล, อันดับ 3 อริสรา ทองไพ, อันดับ 4 พรไพลิน ใจนวล และ อันดับ 5 ปุญณิศา ขวัญประชาสี

สำหรับประเภทชายเดี่ยวระยะสั้น ชนะเลิศได้แก่ กฤษณพล พ้นภัย, อันดับ 2 พรชินราช จำรูญ,อันดับ  3 พรชินสีห์ จำรูญ, อันดับ 4 รวีพล พรหมทอง และ อันดับ 5 ธนชาติ คงอุดม, ประเภทหญิงเดี่ยวระยะสั้น อันดับ 1 พอใจ รอบรู้, อันดับ 2 ชญานินท์ หล้าแก้ว, อันดับ 3 วรณันท์ นนทะแก้ว, อันดับ 4 ปุณยาพร หลักเงินชัย และอันดับ 5 วรรณภา นวยน




ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport