3 คะแนน แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ บีจี ปทุมฯ ต้องปรับแก้

  ถือว่าน่าเสียดายมากๆ เพราะทั้งสองทีมกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดี แต้มเท่ากัน เสียประตูเท่ากัน ต่างกันเพียงเรื่องของการยิงประตูที่บียูทำได้มากกว่าลูกเดียว

   เรียกได้ว่าเป็นเกมที่คอลูกหนังไทย รอคอยเลยก็ว่าได้

   ด้วยความที่ ซูเปอร์ บิ๊กแมตช์ ไม่สามารถแข่งขันได้ แต่ก็ยังมีคู่ระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ ลำพูน วอร์ริเออร์ส ที่น่าสนใจไม่น้อย

   เจ้าถิ่นแพ้มา 2 นัดรวด (รวมทุกรายการ) ขณะที่อาคันตุกะจากแดนเหนือเพิ่งชนะนัดแรกของซีซั่นได้สำเร็จ แล้วยังเป็นการเอาชัยเหนือทีมแกร่งอย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด อีกต่างหาก มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ เดอะ แรบบิต จะเก็บ 3 คะแนน

   ที่สำคัญ โค้ชของ ลำพูน คือ อเล็กซานเดร กามา กุนซือจอมแท็กติกที่คุ้นชินกับฟุตบอลไทย เป็นอย่างดีและเขาเก่งในเรื่องของฟุตบอลสไตล์เน้นผลการแข่งขันซะด้วย

   แม้ว่าตามหน้าเสื่อ บีจี ปทุม จะเหนือกว่าบานเบอะ เพราะขุมกำลังที่อัดแน่นไปด้วยผู้เล่นคุณภาพครบทุกตำแหน่ง แต่ด้วยความที่แพ้มาติดๆ กัน 2 นัด มันจึงทำให้พวกเขาไม่อาจหลีกเลี่ยง 'ความกดดัน' ที่ถาโถม แถมความมั่นใจก็หดหาย 

   เกมใน 45 นาทีแรกเห็นได้ชัดเลยว่าทัพกระต่ายแก้วดูจะเกร็งเอามากๆ จนกลายเป็นฝั่ง ลำพูน ที่ได้ใจ บุกใส่ไม่มีเม้ม 

   ยังดีที่ความเฉียบขาดในพื้นที่สุดท้ายของทีมราชันโคขาวนั้นไม่แปรเปลี่ยนให้เป็นประตูได้สำเร็จ โดยเฉพาะลูกยิงของ เดนนิส มูริลโล่ ที่ส่งบอลไปกองที่ก้นตาข่ายอย่างงามหยดถูกจับได้ว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าเสียก่อน หากสกอร์เป็น 1-0 ขึ้นมา โฉมหน้าของเกมจะเปลี่ยนไปทันที ด้วยสไตล์ของ กามา ที่เน้นผลการแข่งขันไว้ก่อน

   แต่ถึงอย่างนั้น ครึ่งแรกก็เป็นฝั่ง ลำพูน ที่ทำได้ดีกว่า ราวกับว่าเล่นในบ้านตัวเองเลยทีเดียว

   ต้องให้เครดิตกับ ธงชัย สุขโกกี ที่ปรับหมากแก้เกมมาอย่างดี การส่ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงมาในครึ่งหลังเห็นผลทันตา เพราะอดีตนักเตะ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ คือจุดเปลี่ยนของเกมอย่างแท้จริง

   เพลย์เมเกอร์ทีมชาติไทย มีส่วนร่วม 2 จาก 3 ประตูที่ บีจี ปทุม ทำได้ ซึ่งมันบ่งบอกถึงคุณภาพได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อใดที่ปล่อยให้เขามีพื้นที่ หมอนี่ก็พร้อมจะลงโทษคู่ต่อสู้ได้ทุกวินาที

   ครึ่งหลังกลายเป็นหนังคนละม้วน กระต่ายแก้วคว้า 3 คะแนน ด้วยสกอร์ 3-0 ซึ่งถือเป็นผลงานที่ทำได้ตามเป้าหมายกับการทะยานไปเกาะอยู่ท็อป 3 ของตาราง แม้จะแข่งมากกว่าทีมอื่นๆ อยู่หนึ่งเกม

   อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สะท้อนออกมาจากเกมนี้คือยังมีหลายๆ อย่างที่ บีจี ปทุม คงต้องปรับแก้กันโดยด่วน ชัยชนะที่ได้มาจาก ลำพูน เกิดจากศักยภาพผู้เล่นที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน

   สำหรับทีมที่จะเป็นแชมป์ นอกจากความสามารถของนักเตะแล้ว มันต้องมีเรื่องของรูปแบบการเล่นที่ต้องดีกว่าที่เห็นและเป็นไป โดยเฉพาะเมื่อเจอกับทีมที่เป็นต่อ ไม่ใช่ต้องรอก๊อกหนึ่ง-ก๊อกสอง หรือปรับหมากแก้เกมเช่นนี้

   การที่ผู้เล่นหลักหลายๆ คนบาดเจ็บ รวมไปถึงยังมีโปรแกรม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่รออยู่ คงนำมาเป็นข้ออ้างไม่ได้ เพราะขุมกำลังที่มีนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ทีม เลยทีเดียว

   หาก บีจี ปทุม ต้องการกลับมาคว้าโทรฟี่ ไทยลีก อีกครั้ง ก็คงต้องเร่งแก้ไขหลายๆ ส่วน เพราะด้วยฟอร์มแบบนี้ บางทีอาจจะไม่สามารถก้าวไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ในบั้นปลาย

ชิกกะด้าว