บทสรุป 5 ข้อ! ทีมชาติไทย บุกเจ๊า เกาหลีใต้ ได้ใจแฟนทั้งประเทศ

ทีมชาติไทย ทำผลงานสุดไฉไลกับการบุกไปเสมอเกาหลีใต้ ได้ถึงถิ่น 1-1 และหนึ่งคะแนนจาก โซล เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม ก็สร้างความชุ่มชื่นหัวใจให้ชาวสยามประเทศแบบเต็มเหนี่ยว ซึ่งแน่นอนว่า 'ศรัทธา' ฟุตบอลกำลังกลับมาอีกครั้ง

ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงคัด 5 ข้อเน้นๆ มาแชร์ให้คุณได้อ่านกัน!! 

[ 1 ] อิชิอิ ของจริง

แม้จะเข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติไทย ได้เพียง 3 เดือน ทว่า มาซาทาดะ อิชิอิ แสดงให้เห็นถึงมันสมองอันปราดเปรื่องกับการนำทัพช้างศึกต่อกรประเทศชั้นนำของทวีปได้แบบน่าประหลาดใจ

ผลงานนัดแรกของเขาอาจจะคุมทีมแพ้ญี่ปุ่น 0-5 แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา พัฒนาการในทุกๆ ด้านเป็นไปในทิศบวก

เอเชียน คัพ 2023 เข้ารอบน็อก-เอาต์ ทั้งๆ ที่แรงกิ้งเป็นรองทุกชาติในกลุ่ม แถมยังมีลุ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายอีกต่างหาก

ต่อเนื่องถึงการบุกเสมอเกาหลีใต้ ถึง โซล เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม 1-1 ที่งัดแท็กติกชั้นครูออกมาสู้กับหนึ่งในทีมชั้นนำของเอเชีย ได้อย่างเหลือเชื่อ

ก่อนการแข่งขัน สื่อทุกสำนัก ไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศต่างก็วิเคราะห์ไปในทางเดียวกันว่าโอกาสที่ทีมชาติไทย จะปราชัยมีสูงมาก เนื่องจากเจ้าถิ่นเหนือกว่าทุกมิติ อีกทั้งยังเปลี่ยนโค้ชเป็นคนใหม่ที่มากด้วยบารมี และเมื่อรวมกับความมุ่งมั่นหลังจากล้มเหลวใน เอเชียน คัพ 2023 มันจึงทำให้พวกเขามีแรงจูงใจที่จะถล่มอาคันตุกะจากเอเชียนตะวันออกเฉียงใต้ให้ราบคาบ

ทว่าด้วยกลยุทธ์ของ อิชิอิ ที่วางหมากมาได้อย่างแยบยล กับการปิดพื้นที่ด้านข้างอันเป็นจุดเด่นของเกาหลีใต้ อีกทั้งยังมี วีระเทพ ป้อมพันธ์ ยืนเป็นกองหลังคนที่ 5 มันจึงทำให้ทัพช้างศึกบุกไปควักแต้มออกมาได้สำเร็จ

นับตั้งแต่กุนซือชาวญี่ปุ่น เข้ามาคุมทัพ สถิติ 5 เกม อาจจะชนะเพียง 1 นัด แต่อย่าลืมว่าคู่แข่งที่ไทย เผชิญหน้านั้นล้วนแล้วแต่แรงกิ้งสูงกว่าทั้งนั้น 

หากยังรักษามาตรฐานได้ยาวๆ โดยให้ อิชิอิ ได้มีอิสระในการทำทีมแบบเต็มเหนี่ยว ค่อยๆ พัฒนาไปทีละก้าว และวางโครงสร้างเยาวชนแบบยั่งยืน รับประกันเลยว่า 'ความฝัน' ที่รอคอยคงจะขยับเข้าใกล้ยิ่งกว่าเดิม

[ 2 ] ปฏิวัติ ครองมือหนึ่งยาวๆ

แน่นอนว่าการบุกมาเยือนเกาหลีใต้ และด้วยมาตรฐานที่เป็นรองแบบสุดกู่ มันจึงทำให้ไทย ทำได้เพียง 'ตั้งรับ' เป็นส่วนใหญ่ 

พื้นที่รับผิดชอบของผู้เล่นช้างศึกจึงหนักไปที่แดนตัวเอง เนื่องจากคู่ต่อสู้โหมกระหน่ำเกมบุกแบบหนักหน่วง โดยเฉพาะหลังจากนาที่ที่ 16 เป็นต้นไปที่ทัพโสมขาวสามารถตั้งหลักได้ 

ด้วยความที่ต้องอยู่ในแดนของไทย มันจึงทำให้งานของ ปฏิวัติ คำไหม ชุกชุมกว่าใครเพื่อน 

จอมหนึบชาวชลบุรี เพิ่งจะก้าวขึ้นเป็นมือหนึ่งได้ไม่นาน เพราะนับถึงเกมกับเกาหลีใต้ ก็เพิ่งจะนัดที่ 10 เท่านั้นที่เจ้าตัวลงเฝ้าเสาให้ทีมชาติ แต่ผลงานของเขากำลังไปได้สวยขึ้นเรื่อยๆ 

ยืนตำแหน่งดี, ไม่พลาดลูกง่ายๆ, สื่อสารกองหลังได้ลงตัวและที่สำคัญคือเป็นผู้รักษาประตูยุคใหม่ที่เล่นบอลกับเท้าเยี่ยมยอด

แต่เหนืออื่นใด ช็อตเซฟสำคัญหลายต่อหลายครั้งของ ปฏิวัติ ในเกมเสมอเกาหลีใต้ 1-1 นี่แหละที่ทำให้ไทย พ้นจากความปราชัยได้สำเร็จ ซึ่งถ้าเขายังรักษามาตรฐานของตนเองไว้ได้ รับประกันเลยว่าจะครองมือหนึ่งของทัพช้างศึกไปได้อีกหลายปี

[ 3 ] ศุภณัฏฐ์ เปลี่ยนเกม

สิ่งที่ มาซาทาดะ อิชิอิ โชว์ให้เห็นถึงการแก้เกมอันปราดเปรื่องนั่นคือการส่ง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ลงมาในนาทีที่ 58 ของการแข่งขัน

นวรุกชาวศรีสะเกษ ย้ายไปผจญภัยที่ยุโรป แต่ก็ยังไม่สามารถสอดแทรกสู่ทีมชุดตัวจริงของ โอเอช ลูเวิน ได้ตามหวัง ทว่าเขาก็ยังมุ่งมั่นที่จะสู้ให้ถึงที่สุด ด้วยจิตใจอันห้าวหาญ บวกกับการที่มีพรสวรรค์ลูกหนังอยู่เต็มตัว

การที่ไม่มีเกมอย่างเป็นทางการย่อมทำให้ขาดการเล่นแบบต่อเนื่อง ดังนั้น อิชิอิ ที่รู้ดีว่า ศุภณัฏฐ์ เก่งกาจเพียงใด จึงเลือกที่จะเก็บหมอนี่ไว้เป็น 'อาวุธลับ' ไว้ข้างสนาม

เพียงแค่ 3 นาทีที่เจ้าตัวอยู่บนฟลอร์หญ้า เขาก็สร้างความแตกต่างได้ในทันที ด้วยการคิดไว-ทำไวกับการกระดกบอลไปทางขวาให้ นิโคลัส มิคเคลสัน ก่อนที่ตนเองจะควบไปอยู่ในกรอบเขตโทษตามสัญชาตญาณ

ฟูลแบ็กจาก โอบี โอเดนเซ่ ก็ไม่รอช้า กึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่เสาสอง ซึ่งเป็นระยะเวลาที่พอดิบพอดีกับที่  ศุภณัฏฐ์ โฉบเข้าไปแปเหน่งๆ สู่ก้นตาข่ายให้ไทย ตีเสมอ 1-1

นอกจากจะเป็นคนยิงเจ๊าให้ทัพช้างศึก ตลอดเวลาที่เหลืออยู่ในสนาม เขายังลงมาซ้อนเกมทางฝั่งขวาของทีม จนทำให้แนวรุกด้านซ้ายของเกาหลีใต้ แทบไม่ได้โจมตีแบบถนัดถนี่เลย ทั้งยังสกัดจังหวะสำคัญก่อนที่บอลจะหลุดถึง คิม จิน-ซู ในนาทีที่ 66 อีกต่างหาก

ดังนั้น ศุภณัฏฐ์ จึงถือเป็นซูเปอร์ซับผู้ลงมาเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง

[ 4 ] พรรษา - สุพรรณ คู่ปราการหลังที่ลงตัว

นอกจาก ปฏิวัติ คำไหม ที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมมากๆ อีกสองนักเตะในเกมรับอย่าง พรรษา เหมวิบูลย์ กับ สุพรรณ ทองสงค์ ก็ทำหน้าที่ของตนเองได้แบบดีไม่แพ้กัน

พรรษา อาจจะได้ลงเล่นให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2023-24 ไม่มากนัก แต่การที่เขาเป็นตัวหลักมาตั้งแต่ เอเชียน คัพ 2023 รวมทั้งทาง มาซาทาดะ อิชิอิ เองก็รู้ดีว่าจะใช้งานเซนเตอร์ฮาล์ฟชาวจันทบุรี อย่างไร มันจึงทำให้หมอนี่เป็นตัวเลือกหลักสำหรับกุนซือชาวญี่ปุ่น

ขณะเดียวกัน การที่ สุพรรณ ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงก็ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้ อดีตเทรนเนอร์ คาชิมะ แอนท์เลอร์ส มักจะให้โอกาสกับ เอเลียส ดอเลาะ มากกว่า

ดังนั้นมันจึงค่อนข้างที่จะผิดคาดกับการที่แนวรับจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด อยู่ในไลน์-อัพ 11 ผู้เล่นชุดแรกของทีมชาติไทย

แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ อิชิอิ 'เลือกถูก' เพราะกลายเป็นว่าทั้ง พรรษา และ สุพรรณ ต่างสอดประสานกันได้ลงตัว คนหนึ่งประสบการณ์สูง คอยเก็บตกจังหวะสุดท้าย ส่วนอีกคนหนึ่งก็บู๊ดุดัน บวกทุกลูก โดยไม่สนว่าตนเองจะเจ็บหรือไม่ ขอแค่ทีมได้ผลประโยชน์ก็พอ

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเกมหน้ากุนซือวัย 57 ปี ก็อาจจะมีการปรับทัพอีก เนื่องจากเขาเป็นจอมแท็กติกอยู่แล้ว ขึ้นอยู่ที่จะอ่านคู่ต่อสู้ไปทางไหน ซึ่งคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟจะเป็นคู่นี้หรือไม่คงไม่มีใครทราบได้

ทว่าสิ่งที่สองแนวรับจาก บุรีรัมย์ และ แบงค็อก แสดงให้ในสนามนั้นบ่งบอกให้เห็นว่า พรรษา - สุพรรณ คือคู่ปราการหลังที่ลงตัวไม่เบาเลยทีเดียว

[ 5 ] 26 มีนาคม สนามเดือดแน่นอน

ผลงานของทีมชาติดูดีแบบต่อเนื่อง เพราะจาก เอเชียน คัพ 2023 มาจนถึง เวิลด์ คัพ 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย นั้นสู้กับทีมชั้นนำของเอเชีย ได้แบบสนุกและตื่นเต้น ด้วยเหตุนี้เอง 'ความศรัทธา' ของฟุตบอลไทย จึงค่อยๆ ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง หลังจากห่อเหี่ยวมานานหลายขวบปีหลังสุด

เสมอซาอุดีอาระเบีย ตามด้วยเจ๊ากับเกาหลีใต้ สองทีมเบอร์ต้นของทวีปในทัวร์นาเมนต์ที่ฝั่งตรงข้ามต่างก็เน้นสุดๆ มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงจิตใจนักสู้ของขุนพลช้างศึกทุกคนที่ลงไปฟาดฟันกับคู่แข่งที่เหนือกว่า

บัตรเข้าชมการแข่งขันที่ ราชมังคลากีฬาสถาน กว่า 48,900 ที่นั่ง ถูกระบุว่า 'หมดแล้ว' มาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ซึ่งหมายความว่าแฟนๆ ยังคงให้การสนับสนุนทีมแบบเต็มเหนี่ยว ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าผลการแข่งขันในเกมเยือน โซล เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม จะออกมาเช่นไร

วันอังคารที่ 26 มีนาคม จะเป็นอีกครั้งที่ชาวสยามประเทศจะออกไปแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความศรัทธาต่อฟุตบอลไทย

ไม่ว่าผลการแข่งขัน ณ วันนั้นจะออกมาเช่นไร ขอเพียงนักเตะสู้สุดใจก็พอ ยังไงเสีย ทุกคนก็พร้อมที่จะยืนเคียงข้างพวกคุณจนกว่าเสียงนกหวีดจะสิ้นสุดลง

เพราะฟุตบอลบอล ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นของชาวไทย ทุกคนนั่นเอง


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport