3 กุนซือดัง พรีเมียร์ลีก ให้ความเห็นประเด็น ลิเวอร์พูล โดนพิษ วีเออาร์ เล่นงาน

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่, อังเก้ ปอสเตโคกลู และ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ต่างก็ให้ความเห็นจากเรื่องที่ ลิเวอร์พูล อดได้ประตูจาก วีเออาร์ หลังจากมันเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีม เชลซี สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าการตัดสินของกรรมการและทีมงานวีเออาร์คือปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข ตรงกันข้ามกับเรื่องการใช้เทคโนโลยีที่มันมาถูกจุดแล้ว

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาประเด็นเรื่องทีมงาน วีเออาร์ กลายเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมากหลังจากที่ทีม วีเออาร์ กลุ่มหนึ่งทำงานผิดพลาดจนทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ประตูที่ควรจะเป็นจากผลงานของ หลุยส์ ดิอาซ ในเกมที่แพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-2 ซึ่งที่จริงนับตั้งแต่เข้าสู่ฤดูกาล 2023-24 มันก็มีหลายจังหวะที่คนมองกันว่าทีมงาน วีเออาร์ ทำงานได้ไม่เหมาะสมเหมือนกัน

เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลให้ ดาร์เร็น อิงแลนด์ หนึ่งในทีมงาน วีเออาร์ ของเกมนั้นถูกถอดออกจากการทำหน้าที่ในทุกเกมที่เหลือของ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้เลย ซึ่ง โปเช็ตติโน่ ก็มองว่าความผิดพลาดของฝั่งที่เป็นมนุษย์ถือเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก

โปเช็ตติโน่ เผยว่า "2 ประเด็นนี้มันต่างกันนะ ผมเชื่อใน วีเออาร์ ก็เหมือนกับที่ผมเชื่อมั่นในรถแต่ไม่เชื่อมั่นในคนขับ นั่นคือปัญหา ผมเองวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนักตั้งแต่แรกๆ เมื่อตอน 8 ปีก่อนแล้ว (ตอนที่เริ่มมีการใช้ วีเออาร์) ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่เอาเทคโนโลยีมาตัดสินว่าบอลข้ามเส้นเข้าไปแล้วทั้งใบหรือยัง และมันเป็นจังหวะล้ำหน้ารึเปล่า มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใช้เวลากับเรื่องนี้สักหน่อย แล้วจากนั้นเราถึงจะค่อยมาถกกันได้ว่ากรรมการควรจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องหรือควรจะมีอำนาจตัดสินใจขั้นเด็ดขาดรึเปล่า"

หลังโดนถามถึงเรื่องที่ ดิอาซ ไม่ได้ประตูแล้วนั้น กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ก็ตอบว่า "แน่นอนว่ามันเป็นการทำงานที่ผิดพลาด ใช่ไหมล่ะ ? แต่เราต้องยอมรับคำขอโทษนั้น ผมไม่รู้ว่ามัน (การไม่ให้ อิงแลนด์ ทำงานในเกมของ ลิเวอร์พูล ทุกนัดที่เหลือของฤดูกาลนี้) มันเป็นการตัดสินที่ถูกต้องรึเปล่า ผมไม่สามารถทึกทักให้ตัวเองอยู่ในจุดยืนของ ลิเวอร์พูล, ในจุดยืนของ วีเออาร์ หรือจุดยืนของกรรมการได้ แน่นอนว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก ผมรับฟังสิ่งที่เกิดขึ้น, สิ่งที่เราได้เห็น และสิ่งที่เราได้ยิน"

"ผมไม่รู้ว่าถ้าคุณเป็น ลิเวอร์พูล แล้วนั้นคุณจะยอมรับคำขอโทษได้รึเปล่า เมื่อคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยตรงแล้วนั้นคุณก็ไม่มีทางรู้ว่าตัวเองควรจะมีปฏิกิริยายังไง บางทีถ้าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้วผมก็อาจจะสั่งให้ทีมหยุดเล่นก็ได้ ถ้าผมเป็น คล็อปป์ นะ"

ด้าน อังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือ สเปอร์ส แสดงความเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดแบบร้ายแรง แต่เสริมว่า อิงแลนด์ โดนลงโทษหนักไป โดยพอถูกถามว่า อิงแลนด์ ไม่ควรได้ทำหน้าที่ในเกมของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้อีกเลยหรือไม่แล้วนั้น เจ้าตัวก็ตอบว่า "ผมไม่รู้อะไรเลย ผมไม่รู้ว่ามันมีการตัดสินไปแบบนั้นรึยัง ผมคงจะแปลกใจถ้าหากพวกเขาเลือกใช้วิธีนั้น มันเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรง แต่มันเป็นมนุษย์ที่ทำพลาด ผมไม่คิดว่ามันจำเป็นต้องมีการทำอะไรที่เกินกว่าเหตุ หลังได้ฟังคลิปเสียงแล้วน่ะคุณก็อาจจะคิดว่ามันควรจะมีวิธีการสื่อสารในการตัดสินที่ดีกว่านี้เมื่อต้องพิจารณาสถานการณ์ที่สำคัญๆ ผมหวังว่าพวกเขาจะพิจารณาถึงเรื่องนั้น ไม่ใช่พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาดส่วนบุคคล"

"ผมคิดว่ามัน (การถอด อิงแลนด์ ออกจากการทำหน้าที่ในเกมของ ลิเวอร์พูล ทุกนัดที่เหลือของซีซั่นนี้) เป็นเหมือนการเพิกเฉยต่อหลักการของเกม ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับว่าผมลากลูกทีมคนหนึ่งมาด่าแบบไม่ไว้หน้าเพียงแค่เพราะเขาทำพลาดจังหวะเดียว หน้าที่ของผมคือการเข้าไปช่วยเหลือลูกทีมให้เล่นได้ดีขึ้น ไม่ใช่ไปบอกว่า -แกจะไม่มีวันได้เล่นอีกแล้ว-"

ส่วน โจเซป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงความหวังว่า พรีเมียร์ลีก กับ วีเออาร์ จะเรียนรู้จากเรื่องนี้และทำการแก้ไขเรื่องต่างๆ แต่เสริมว่ามันควรจะหยุดพูดถึงเหตุการณ์จากเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ สเปอร์ส ได้แล้ว "ผมพูดไปตั้งแต่ก่อนหน้าเกมกับ ไลป์ซิก แล้ว มันเป็นความผิดพลาด คุณต้องยอมรับมัน มนุษย์ทำพลาดกันได้ ส่วน วีเออาร์ มีหน้าที่ลดความผิดพลาดของมนุษย์ ผมหวังว่าทุกอย่างจะจบลงและหลังจากนี้สถานการณ์จะดีขึ้น ผมหวังว่า พรีเมียร์ลีก และคนของ วีเออาร์ จะพยายามแก้ไขการทำงานของพวกเขา เหตุผลที่มีการใช้ วีเออาร์ ก็เพื่อทำให้เกมของเรามันมีความถูกต้องมากขึ้น ผมหวังว่ามันจะดีขึ้นในภายภาคหน้า"


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport