ไก่ช็อคทดเจ็บชวดขึ้นท็อปโฟร์! สเปอร์สพังคารัง โดนบอร์นมัธแซงเข้าวิน

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2566

สเปอร์ส 2-3 บอร์นมัธ 

สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม

คริสเตียน สเตลลินี่ รักษาการกุนซือสเปอร์ส พาทีมเบียดชนะไบรท์ตันแบบสุดเฮง 2-1 ในเกมล่าสุด เป็นการคว้าชัยนัดแรกในรอบ 3 เกม  ขณะที่ แกรี่ โอนีล นายใหญ่บอร์นมัธ พาทีมเบียดชนะเลสเตอร์ หวุดหวิด 1-0 ในเกมล่าสุด เป็นการคว้าชัยนัดที่ 3 ในรอบ 5 เกม

เริ่มเกมมาในนาทีที่ 8 เจ้าถิ่นเดินหน้าครองบอลบุกเข้าใส่ ก่อนเป็น ซน ฮึง-มิน มี่จ่ายบอลออกไปทางด้านซ้ายให้ อิวาน เปริซิช ได้โอกาสเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ กองหลังบอร์นมัธ โหม่งสกัดออกมาได้ แต่บอลไปเข้าทาง  โอลิเวอร์ สคิพพ์ ได้โอกาสยิงเต็มข้อบอลพุ่งตรงกรอบแต่กองหลังบอร์นมัธ ยังสกัดบอลออกมาได้ 

ต่อมาในนาทีที่ 12 เจ้าถิ่นได้เตะมุม ก่อนเป็น อิวาน เปริซิช ที่รับหน้าที่เปิดเตะมุมเข้ามา เนโต้ ปัดบอลออกมาได้ แต่บอลยังไปเข้าทาง เดยัน คูลูเซฟสกี้ ได้โอกาสยิงสวนกลับไป แต่บอลไปแฉลบกองหลังทีมเยือน ก่อนบอลหลุดออกหลังไป 

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 14 เกลม็องต์ ล็องก์เล่ต์ วางบอลยาวจากแดนหลังไปให้ อิวาน เปริซิช ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายเข้ากลางมาให้ ซน ฮึง-มิน ได้ยิงโล่งๆในกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบกองหลังทีมเยือน ก่อนผ่านมือ เนโต้ เข้าประตูไป ช่วยพา สเปอร์ส ออกนำ บอร์นมัธ 1-0 

นาทีที่ 16 โจ ร็อธเวลล์ ได้โอกาสเก็บตกบอลในจังหวะสวนกลับ ก่อนมีจังหวะเลี้ยงบอลขึ้นหน้า แล้วจ่ายเข้ากลางมาให้ ไรอัน คริสตี้ ได้โอกาสยิงด้วยซ้ายเต็มข้อ แต่บอลพุ่งเหินข้ามคานออกหลังไป 

ต่อมาในนาทีที่ 21 ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก วางบอลยาวขึ้นหน้าให้ ซน ฮึง-มิน ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางแล้วเลือกยิงเต็มข้อบอลพุ่งตรงกรอบ แต่ยังเป็น เนโต้ ที่พุ่งปัดบอลออกหลังไปได้ 

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 29 มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ เลี้ยงบอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนตัดเข้ากลางแล้ว ตะบันด้วยซ้าย บอลพุ่งจะเสียบใต้คาน แต่ยังเป็น อูโก้ โยริส ที่ปัดบอลข้ามคานออกหลังไปได้

นาทีที่ 38 เปโดร ปอร์โร่ จ่ายบอลพลาดก่อนไปเข้าทาง โดมินิค โซลันกี้ แล้วจ่ายบอลต่อให้ มาเทียส วีน่า ได้บอลหลุดเข้าในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงสวน อูโก้ โยริส เข้าประตูไป ช่วยพา บอร์นมัธ ตามตีเสมอ สเปอร์ส 1-1 

ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก สเปอร์ส เสมอ บอร์นมัธ 1-1 

เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 51 โดมินิค โซลันกี้ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายบอลไปให้ มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ ได้บอลทางฝั่งซ้ายแล้วโดน ดาวินซอน ซานเซซ สกัดบอลก่อนไปเข้าทาง โดมินิค โซลันกี้ ที่ได้บอลในกรอบเขตโทษ ก่อนได้ยิงโล่งๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยพา บอร์นมัธ แซงขึ้นนำ สเปอร์ส 2-1 

ต่อมาในนาทีที่ 60 จากจังหวะเตะมุมของฝั่งเจ้าถิ่น ซน ฮึง-มิน รับหน้าที่เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ บอลเลยไปถึง อิวาน เปริซิช ได้ยิงเต็มข้อ แต่บอลพุ่งเหินข้ามคานออกหลังไป 

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 73 ไจดอน แอนโทนี่ ได้จังหวะวิ่งเข้าไปแย่งบอลจาก คริสเตียน โรเมโร่ ก่อนที่ ไจดอน แอนโทนี่ เลี้ยงบอลตัดเข้ามาในกรอบเขตโทษ แล้วเลือกยิงด้วยขวาบอลพุ่งตรงกรอบแต่ อูโก้ โยริส ยังปัดบอลออกมาได้ 

นาทีที่ 87 อาร์เนาต์ ดันยูม่า พยายามพักบอลในกรอบเขตโทา ก่อนบอลเลยไปโดนกองหลังบอร์นมัธ สกัดมาเข้าทาง ริชาร์ลิซอน ได้ตวัดยิงส่งบอลเข้าประตูไป แต่โดนจับเป็นจังหวะล้ำหน้าของ อาร์เนาต์ ดันยูม่า ไปก่อน

นาทีที่ 88 จังหวะทุ่มไกลของฝั่งเจ้าถิ่น ก่อนเป็น ริชาร์ลิซอน ที่โหม่งต่อมาให้ อาร์เนาต์ ดันยูม่า ได้จังหวะยิงเต็มข้อส่งบอลพุ่งเข้าประตูไป ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยพา สเปอร์ส ตามตีเสมอ บอร์นมัธ 2-2

นาทีที่ 90+6 โดมินิค โซลันกี้ มีจังหวะจ่ายบอลมาให้ ดังโก้ อุตตาร่า ได้บอลหลุดเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนยิงด้วยขวาบอลพุ่งโค้งผ่านมือ อูโก้ โยริส ก่อนเสียบเสาเข้าไป ช่วยพา บอร์นมัธ แซงขึ้นนำ สเปอร์ส 3-2

ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน สเปอร์ส เปิดบ้านแพ้ต่อ บอร์นมัธ 2-3 ส่งผลให้ "ไก่เดือยทอง" แพ้นัดแรกในรอบ 5 เกม มี 53 คะแนน รั้งอันดับ 5 ตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 อยู่ 3 แต้ม ขณะที่ "เดอะ เชอร์รีส์" มี 33 คะแนน รั้งอันดับ 14 

รายชื่อนักเตะที่ลงสนามของทั้งสองทีม

สเปอร์ส (3-4-2-1) : อูโก้ โยริส - คริสเตียน โรเมโร่, เอริค ดายเออร์, เกลม็องต์ ล็องก์เล่ต์  (ดาวินซอน ซานเซซ น.35) (อาร์เนาต์ ดันยูม่า น.58)- เปโดร ปอร์โร่, โอลิเวอร์ สคิพพ์ (ริชาร์ลิซอน น.77), ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, อิวาน เปริซิช - เดยัน คูลูเซฟสกี้, ซน ฮึง-มิน - แฮร์รี่ เคน   

บอร์นมัธ (4-2-3-1) : เนโต้ - มาเทียส วีน่า (อดัม สมิธ น.49), แจ็ค สตีเฟ่นส์, คริส เมแฟม, ลอยด์ เคลลี่ - โจ ร็อธเวลล์, เจฟเฟร์ซอน เลร์มา - ไรอัน คริสตี้ (ไจดอน แอนโทนี่ น.66), ฟิลิป บิลลิ่ง,มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ - โดมินิค โซลันกี้

ผู้ตัดสิน : แอนดี้ แมดลี่ย์