ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตามที่ สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ได้ขอให้ประเทศไทยเลื่อนการจัดการแข่งขัน มหกรรมเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ไปแข่งขันในช่วงปลายปี ทำให้การคัดเลือกนักกีฬาเทควันโดพุมเซ่ ชุดทำศึกเอเชียนอินดอร์แอนด์มาเชียลอาร์ตเกมส์ ต้องเลื่อนออกไปก่อน พร้อมกับเลื่อนการเก็บตัวของนักกีฬาทีมชาติออกไปเป็นต้นปีหน้า ซึ่งในปี 67 โปรแกรมการแข่งขัน เทควันโด รายการใหญ่ๆมีจำนวนมาก ทั้งประเภทต่อสู้ และพุมเซ่ ไม่ว่าจะเป็น ควอลิฟาย โอลิมปิกเกมส์และโอลิมปิกเกมส์2024 ที่กรุงปารีส, เอเชียนอินดอร์แอนด์มาเชียลอาร์ตเกมส์, ชิงแชมป์โลก, ชิงแชมป์เอเชีย และอีกหลายรายการ ทำให้ทางสมาคมต้องวางแผนเตรียมทีมนักกีฬาอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดผลงานมากที่สุด

"ส่วนของเรื่อง พุมเซ่ หรือท่ารำ ในเดือนมกราคมปีหน้านี้ ทางโค้ช คิม จุนซู ชาวเกาหลีใต้ จะหมดสัญญาลง ซึ่งตอนแรกทางสมาคมจะพิจารณาจะต่อสัญญาหรือไม่กับโค้ช คิม หลังจากจบการแข่งขันเอเชียนอินดอร์เกมส์ ในเดือนกุมภาพันธ์ แต่เนื่องจาก การแข่งขันมีการเลื่อนออกไปอีก ทำให้ ผม และ"บิ๊ก"ธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมฯ ได้ปรึกษาเรื่องสัญญาของ โค้ช คิม จนได้ข้อสรุปว่า ทางสมาคมกีฬาเทควันโด จะไม่ต่อสัญญาโค้ชชาวเกาหลีต่ออีก หลังจากได้ทำการประเมินการทำงานของโค้ช คิม ในปีที่ผ่านมาดูแล้ว โค้ช จะเก่งด้านทำงานเทควันพุมเซ่ ฟรีสไตล์ แต่ไม่เก่ง ท่ารำ ซึ่งโค้ช พุมเซ่จะต้องมีความสามารถทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไป ไม่ใช่เก่งด้านใดด้านหนึ่ง ถึงแม้ผลงานในการแข่งขันระดับนานาชาติ ในช่วงปีที่ผ่านมา จะทำได้น่าพอใจ แต่เท่าที่ติดตามดูการทำงานของโค้ช คิม มาตลอด 1 ปี มีดีเพียงแค่ ฟรีสไตล์ อย่างเดียวจริงๆ ทำให้เราพิจารณาไม่ต่อสัญญา" บิ๊กเอ กล่าว

นายกเทควันโด ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ ทางสมาคมได้ประกาศผ่านเว็บไซด์ และเพจของสมาคมเพื่อเปิดรับสมัครผู้ฝึกสอนพุมเซ่ ทีมชาติไทย พร้อมทั้งฝากเรื่องไปยังผู้บริหารระดับสูงและกลุ่มเทควันโดนานาชาติ เพื่อเฟ้นหาโค้ชทีมมีความสามารถมาดูและทีมชาติไทย เชื่อว่าไม่เกินเดือนมกราคมจะได้โค้ชใหม่มาทดแทนโค้ชเก่าที่จะหมดสัญญาลงในช่วงนั้น โดยการจากกันครั้งนี้ เป็นการจากกันด้วยดี โค้ชคิมเขารู้ถึงจุดอ่อนของโค้ชมาตั้งแต่แรกแล้ว โค้ชเข้าใจวัตถุประสงค์ของเราที่ไม่ต่อสัญญา