ราชบุรี เอฟซี : การ์ลอส เปญ่า "จาก ลา มาเซีย สู่ ดราก้อน โซลาร์ พาร์ค"

นับตั้งแต่เปิดฉากเลกสองของ ไทยลีก 2023-24 ในเดือนกุมภาพันธ์ นอกจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มร้อนแรงเกินห้ามใจ ยังมีอีกหนึ่งทีมที่ไฉไลไม่แพ้กัน

   นั่นคือ...ราชบุรี เอฟซี

   ราชันมังกรเริ่มต้นฤดูกาลได้ค่อนข้างย่ำแย่ กับความพ่ายแพ้ 2 นัด ติดต่อกันให้กับ ประจวบ เอฟซี และ นครปฐม ยูไนเต็ด แถมพอเข้าสู่เกมที่ 3 ก็ยังไม่ชนอีก จนอันดับจมอยู่ในโซนท้ายตาราง

   พ้นเลกแรก พวกเขาปราชัยไปถึง 7 จาก 15 แมตช์ โดยเก็บ 3 คะแนน ได้เพียง 4 นัด เท่านั้น

   แน่นอนว่าด้วยผลงานที่เกิดขึ้น ราชบุรี จึงอยู่อันดับ 12 ของตารางการแข่งขัน อีกทั้งยังมีแต้มเหนือโซนตกชั้นแบบหยุมหยิมเท่านั้น

   กระทั่งเปิดศักราชสู่ปี 2024 ที่ฟอร์มของราชันมังกรร้อนฉ่ายิ่งกว่าไฟ กับการเอาชัยได้ 5 จาก 6 เกม ที่โลดแล่นใน ไทยลีก

   ชนะ นครปฐม 1-0 (เยือน), ชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 1-0 (เหย้า), ชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี 1-0 (เยือน), ชนะ อุทัยธานี เอฟซี 1-0 (เหย้า), เสมอ ตราด เอฟซี 2-2 (เยือน) และล่าสุดกับการเปิดบ้านทุบ ลำพูน วอร์ริเออร์ส ที่ผลงานดีไม่แพ้กัน 2-0

   เท่ากับว่าเปิดเลกสองเพิ่งจะเสียไปเพียง 2 ประตู แถมทำคลีนชีตได้ถึง 5 เกม จากอันดับ 12 ตอนนี้พวกเขากระโจนมารั้งที่ 5 เป็นรองเพียงกลุ่มท็อปโฟร์เท่านั้น

   ความดี-ความชอบของฟอร์มอันโดดเด่น ต้องยกเครดิตให้กับ การ์ลอส เปญ่า กุนซือชาวสเปน ที่ปรับจูนทีมจนลงตัว โดยเฉพาะแผงหลังที่มี พัก ชุน-เฮือง กับ โจนาธาร เข็มดี เป็นคีย์แมน พร้อมด้วย จิรวัฒน์ ทองแสงพราว และ อดิศร พรหมรักษ์ สลับกันลงมายืนเป็นแนวรับสามคน

   ในสมัยยังเป็นนักเตะ เทรนเนอร์วัย 40 ปี เคยอยู่ใน ลา มาเซีย ฟุตบอลอะคาเดมี่อันดับต้นๆ ของโลก ที่ผลิตผู้เล่นระดับ เวิลด์คลาส อย่าง ลีโอเนล เมสซี่, การ์เลส ปูโยล, ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรียส อีเนี้ยสต้า และอีกมากมาย

   ด้วยความที่อยู่ในสถาบันลูกหนังชั้นยอด เขาจึงได้เคียงข้าง อีเนี้ยสต้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส, โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส และรวมไปถึง การ์เมโล่ กอนซาเลซ อดีตเพลย์เมเกอร์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในทีมชาติสเปน ชุดคว้าแชมป์ ยูโร ยู-19 เมื่อปี 2002

   เท่านั้นไม่พอ ในปีต่อมา (2003) ทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ คัพ รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี - เปญ่า ก็เป็นตัวหลักของทัพกระทิงดุที่เข้าชิงชนะเลิศ ก่อนจะแพ้บราซิล ไปหวุดหวิด 0-1 อีกต่างหาก

   แม้จะไปได้สวยกับทีมชาติชุดเยาวชน แต่อย่างไรก็ตาม เปญ่า ไม่อาจไปต่อในฐานะขุนพลอาซูลกราน่าส์ชุดใหญ่ ทำให้ต้องระเห็จไปหลายสโมสร ซึ่งโดยมากก็จะอยู่ใน เซกุนดา เบ หรือลีกรองของสเปน จะมีแค่ซีซั่น 2012-13 เท่านั้นที่พี่แกได้เล่น ลา ลีกา กับ เรอัล บายาโดลิด เท่านั้น

   กระทั่งช่วงท้ายอาชีพค้าแข้ง เขาเลือกที่จะออกไปหาความท้าทายใหม่ โดยปลายทางคือ อินเดียน ซูเปอร์ ลีก กับ เอฟซี กัว 

   พอแขวนสตั๊ดในปี 2020 เปญ่า เดินหน้าสู่การเป็นโค้ชทันที และสโมสรแรกที่เจ้าตัวได้คุมทีมก็เป็น เอฟซี กัว นั่นแหละ 

   ผลงานในการเป็นกุนซือที่อินเดีย อาจจะไม่โดดเด่น แต่มันก็ดีพอที่จะทำให้ ราชบุรี สนใจในตัวเทรนเนอร์หนุ่มคนนี้ ว่าแล้ว มิถุนายน 2023 ราชันจึงได้แต่งตั้งแม่ทักคนใหม่ที่จะเข้ามาสร้างทีมเพื่ออนาคต

   ช่วงแรกฟอร์มการเล่นของพวกเขากระท่อนกระแท่นมาก แต่รูปเกมยังถือว่าเชื่อใจได้อยู่ ขาดเพียงจังหวะสุดท้าย และเรื่องของข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ จนเป็นเหตุให้เสียประตู

   เมื่อวันและเวลาผันผ่านไปเรื่อยๆ นักเตะเริ่มซึมซับแท็กติกที่ เปญ่า พยายามเคี่ยวเข็ญมาโดยตลอด จนผลิตผลมาออกดอกอย่างงดงามในช่วงเลกที่สองของซีซั่น 2023-24

   ผู้รักษาประตูเหนียวหนึบ, เกมรับแน่นปั๊ก, แดนกลางสอดประสานกันลงตัว ส่วนแนวรุกก็ใช้โอกาสที่มีได้อย่างคุ้มค่า มันจึงเป็นที่มาของการรั้งอันดับ 5 ของตารางการแข่งขัน ด้วยสถิติ (ในปี 2024) ที่เทียบเท่ากับ บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจ่าฝูง ณ ปัจจุบัน

   น่าเสียดายที่ถ้วย เอฟเอ คัพ พวกเขาตกรอบไปก่อน ไม่เช่นนั้นแฟนๆ ของ ราชบุรี อาจจะมีเฮในบั้นปลาย เพราะทีมกำลังสมดุลในทุกตำแหน่ง

   จาก ลา มาเซีย สู่ ดราก้อน โซลาร์ พาร์ค การทำงานของ เปญ่า ยังดำเนินไปอย่างราบรื่น และถ้าเขายังรักษามาตรฐานนี้ได้ยาวๆ บวกกับการที่บอร์ดบริหารของราชันมังกรพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ทั้งยังมีแมวมองที่สายตาเฉียบแหลม

   รับประกันได้เลยว่า ราชบุรี อาจจะเป็นทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์ในทุกๆ ฤดูกาล


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport