บีจี ปทุม และภารกิจที่ยังต้องสานต่อ

การผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นับเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญสำหรับพวกเขา แม้ว่าโอกาสที่จะทะยานเข้าสู่รอบลึกๆ จะมีไม่มากนัก แต่การทำผลงานให้ดีที่สุดก็เป็นดรรชนีชี้วัดถึงมาตรฐานที่จะต่อยอดในอนาคต

   ระบบ 3-5-2 ของ ธงชัย สุขโกกี ที่ถูกค่อนแคะว่าไม่น่าจะเวิร์ก เพราะดันทำได้เพียงเสมอกับ ประจวบ เอฟซี ไป 0-0 แต่เมื่อมันถูกนำมาใช้อีกครั้ง กลับทำได้ดีชะงัด ซึ่งสูตรนี้นี่แหละที่พิชิต เซี่ยงไฮ้ พอร์ท จ่าฝูงลีกจีน ได้สำเร็จ

   มันคือชัยชนะอันสวยงามที่ช่วยปลดล็อกอาถรรพ์ของสโมสรไทย ในรอบเพลย์-ออฟ และยังเพิ่มความมั่นใจให้กับทัพกระต่ายแก้วที่ผลงานในประเทศยังต่ำกว่าเป้าหมายมากๆ

   2 นัด 2 คะแนน ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาพอใจแน่ๆ แถมรูปเกมที่ออกมาก็ค่อนข้างจะดูห่อเหี่ยวอีกต่างหาก ผิดกับแมตช์พบ เซี่ยงไฮ้ ที่ดูจะตื่นตัวและกระหายต่อชัยชนะมากกว่า

   แน่นอนว่าการผ่านสู่รอบแบ่งกลุ่มด้วยการเล่นในลักษณะนี้ย่อมส่งผลด้านจิตใจที่จะทำให้พวกเขาฮึกเหิมเพิ่มเติมหลายเท่าตัว แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ต้องอย่าลืมว่าคู่แข่งในประเทศนั้นไม่ได้เหมือนกับจ่าฝูง ไชนีส ซูเปอร์ ลีก

   บีจี ปทุม ไปเยือนในสถานะที่เป็นรอง ทำให้พวกเขาเน้นเกมรับ แล้วคอยใช้จังหวะโต้กลับเล่นงานเจ้าถิ่น ซึ่งด้วยศักยภาพผู้เล่นที่มี แท็กติกที่วางไว้จึงออกมาดีทีเดียว

   แต่เมื่อกลับมาเล่นในเมืองไทย - กระต่ายแก้วเหนือกว่าฝั่งตรงข้ามแทบจะทุกทีม ดังนั้นรูปแบบของการเล่นย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

   ตัวอย่างชัดเจนคือเกมที่เสมอกับ ประจวบ 0-0 นั่นแหละ 11 คนแรก และแท็กติกเดียวกันกับนัดชนะ เซี่ยงไฮ้ 3-2 ทว่ารายละเอียดคนละเรื่องเดียวกันเลย

   นี่คือ 'โจทย์ใหญ่' ที่ 'โค้ชธง' ต้องกลับมาขบคิดเพื่อนำ บีจี ปทุม เดินหน้าคว้า 3 แต้ม ให้ได้ เพราะเป้าหมายอันดับ 1 ของ เดอะ แรบบิต คือการกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ ไทยลีก นั่นเอง

   จากนี้ไป บททดสอบสำคัญยังรอพวกเขาอยู่ เอาแค่ แมตช์เดย์ ที่ 3 ที่ต้องออกไปเยือน อุทัยธานี เอฟซี ในวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม ก็ถือว่าหนักหน่วงพอสมควรทีเดียว เนื่องจากเจ้าบ้านดันแพ้มา 2 นัดติดต่อกัน ดังนั้นจึงต้องจัดเต็มแน่

   ขณะที่ บีจี ปทุม ก็คงจะมีความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง เพราะเดินทางไป-กลับ แถมพอถึงสยามประเทศ ก็ต้องออกไปเล่นต่างจังหวัดอีก ตรงนี้คงเป็นอีกหนึ่งการบ้านของ ธงชัย ว่าจะสลับหมุนเวียนผู้เล่นเช่นไรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทีม

   หากว่าพวกเขาสามารถรักษามาตรฐานแบบที่เล่นกับ เซี่ยงไฮ้ ได้สม่ำเสมอ รับประกันเลยว่าแชมป์ลีกอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ๆ 

   ห้วงเวลาต่อจากนี้แหละ คือบทพิสูจน์ว่า 'โค้ชธง' จะดีพอสำหรับ บีจี ปทุม หรือไม่ เพราะโมเมนตั้มก็เริ่มมาทางพวกเขาแล้ว นักเตะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น แท็กติกเริ่มเห็นผล แต่เมื่อต้องเจอคู่แข่งที่เน้นเกมรับเป็นหลัก กระต่ายแก้วจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อเอาชนะ 

   มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ เพราะวิธีการเล่นกับทีมในไทย นั้นคนละเรื่องเดียวกันเลย

   ฤดูกาล 2023-24 ยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น หนทางข้างหน้านั้นเหลืออีกยาวไกล มีเกมให้ลงชิงชัยอีกบานตะไท

   เรื่องราวของ บีจี ปทุม มันคือตอนต่อจากนี้นี่แหละ แต่ก็ไม่มีใครรู้ได้หรอกว่าผลสุดท้ายการลงทุนมหาศาลที่พวกเขาลงทั้งสตางค์, ลงทั้งใจและลงทั้งเรี่ยวแรงไป จะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่

   ผลงานในสนามเท่านั้นจะตอบคำถามทุกข้อ

   บีจี ปทุม และภารกิจที่ยังต้องสานต่อ

ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport