ยกสองรอบรองฯระอุ !ไม่มีทางเลือกอื่นไทยต้องยิงมาเลย์ห่าง2ลูกกรุยทางรอบชิง

"ช้างศึก" ไม่มีทางเลือกต้องชนะระยะห่าง 2 ลูกถึงจะตีตั๋วสู่รอบชิงชนะเลิศ หากเสมอหรือชนะสกอร์แค่เฉือนแบบมาเลเซียยิงประตูได้ (2-1, 3-2 ฯลฯ) ไทยร่วงตกรอบทันที โดย "มาโน่" พร้อมจัดทัพเต็มอัตราศึกกลับมาใช้หน้าคู่ส่ง "อดิศักดิ์" คัมแบ็กจับคู่ "ธีรศิลป์" ดาวซัลโวรายการนี้ลงล่าตาข่าย ด้านทีมเยือน "เสือเหลือง" ที่ตุนสกอร์ชนะมาได้ก่อน 1-0 เตรียมวางกลยุทธ์เน้นรับเต็มพิกัดขอแค่เสมอเพื่อทะลุเข้าชิงดำ โดยคู่นี้ใช้ "กฏอเวย์โกล" ตัดสินใน 90 นาทีทั้งสองนัด หากจบ 180 นาทีไปแล้ว ทั้งสองทีมยังมีผลเสมอกัน (รวม 2 นัดเสมอ 1-1) อเวย์โกลจะไม่ถูกนำมาตัดสินในช่วงต่อเวลาพิเศษ เกมคู่นี้จะเตะ 1 ทุ่มครึ่งที่สังเวียนแข้ง มธ.รังสิต ยิงสดช่อง MCOT HD กับช่อง T-Sport 7

การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022 ประจำวันอังคารที่ 10 ม.ค. 2566 ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต สเตเดี้ยม เวลาไทย 19.30 น. เป็นเกมรอบรองชนะเลิศ นัดสอง คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย  เปิดบ้านรับมือ ทีมชาติมาเลเซีย โดยในเกมแรกมาเลเซีย เอาชนะมาได้ก่อน 1-0

ความพร้อมของทัพ "ช้างศึก" ที่มี "มาโน่ โพลกิ้ง" คุมทัพ โดยมี "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บ ส่วนในรายของ พรรษา เหมวิบูลย์ ที่มีแผลแตกบริเวณคิ้วซ้ายไม่มีปัญหา พร้อมลงสนามได้แน่นอน

คาดว่าเกมนี้จะปรับมาใช้ระบบ 4-4-2 เดินหน้าเต็มกำลัง หลังจากเกมที่ผ่านมาใช้กองหน้าคนเดียวในระบบ 4-4-1-1 โดยอดิศักดิ์ ไกรษร เตรียมคัมแบ็กออกสตาร์ตตัวจริงอีกครั้งแทนที่ของ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี นอกนั้นขุมกำลังยังเป็นชุดหลักที่เล่นด้วยกันตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์นี้

ผู้รักษาประตู กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก พร้อมลงเฝ้าเสาต่อเนื่อง ส่วนแผงแบ็กโฟว์ไม่เปลี่ยนทั้งคู่เซ็นเตอร์เป็น พรรษา เหมวิบูลย์ กับ กฤษดา กาแมน แบ็กสองฝั่งใช้ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ฝั่งขวา ศศลักษณ์ ไหประโคน ยืนฝั่งซ้าย

ขณะที่แผนกองกลาง "กัปตันอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ยังพร้อมยืนกับ สารัช อยู่เย็น โดยมี บดินทร์ ผาลา พร้อมขนาบข้างฝั่งปีกซ้าย ส่วนฝั่งขวา เอกนิษฐ์ ปัญญา พร้อมลงเช่นกัน และคู่กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโวในครั้งนี้ที่ยิงไปแล้ว 5 ลูก ยืนจับคู่กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ลงล่าตาข่าย

ด้านทีมเยือนมาเลเซีย ที่มี "คิม พัน กอน" คุมทัพ ได้เปรียบเล็กน้อยหลังตุนสกอร์นำก่อน 1-0 จากประตูชัยของ ไฟซอล ฮาลิม เกมนี้คาดว่าเฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ จะมาเน้นรับเป็นพิเศษ และหาจังหวะโต้กลับเป็นบางโอกาสแน่นอน โดยขุมกำลังตัวหลักยังคงเน้นชุดใหญ่ นำโดย ซาฟาวี ราซิด, ชารุล นาซีม, โดมินิค ตัน, ลี ทัค, ดาร์เรน โลค, สจ๊วร์ต วิลกิ้น รวมทั้งดาวซัลโวของทีมที่อย่าง ไฟซอล ฮาลิม ที่ซัดไปแล้ว 4 ประตู พร้อมลงสนามเช่นเดียวกัน

 ทั้งนี้ จากกฏอเวย์โกลเกมแรก "ช้างศึก" แพ้มาก่อน 0-1 ทำให้เกมนี้ ไทยจะต้องเอาชนะระยะห่าง 2 ลูกขึ้นมา เช่น 2-0, 3-1, 4-2 หากชนะ 1-0 จะต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที และยิงจุดโทษตามลำดับ ทว่าหากไทยได้แค่เสมอ หรือชนะด้วยสกอร์เช่น 2-1, 3-2, 4-3 ไทยจะร่วงตกรอบทุกกรณี

 สำหรับการหาผู้ชนะในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ยังใช้ "กฏอเวย์โกล" โดยผล 2 นัดหากเสมอกัน จะนับเฉพาะ 90 นาทีเท่านั้น หากยังเท่ากันจะมีการต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที ของเกมนัดสอง ซึ่งช่วงต่อเวลาจะไม่มีการใช้ "อเวย์โกล" แล้ว แต่หากยังหาผู้ชนะไม่ได้ จะตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษต่อไป


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport