สนามแตกแน่!เมืองทองฯจัดทัพใหญ่"เอกนิษฐ์-วีระเทพ"นำทัพบู๊บุรีรัมย์บอลถ้วยรีโว่คัพ

 การแข่งขันฟุตบอลถ้วย "รีโว่ คัพ 2022-23" รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประจำวันพุธที่ 25 ม.ค.66 มีเกมลงเตะครบทั้ง 8 คู่ โดยไฮไลท์อยู่ที่เกมคู่ 19.00 น. ศึก "ซูเปอร์บิ๊กแมตช์" ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่จะเปิดรังธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม รับการมาเยือนแชมป์เก่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถ่ายทอดสดทางช่อง AIS PLAY

 ความพร้อมของเจ้าถิ่นกิเลนผยอง ที่มี "มาริโอ ยูรอฟสกี้" คุมทัพ ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย บุกไปเอาชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี (ทีมไทยลีก 3) 2-0 ขณะที่เกมเปิดหัวไทยลีก 2022-23 เลกสอง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บุกเอาชนะ ลำปาง เอฟซี 5-1

 เกมนี้กุนซือวัย 36 ปี พร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามแน่นอน โดยบรรดานักเตะที่ไปรับใช้ทีมชาติไทย พร้อมกลับมาออกสตาร์ตตัวจริงอีกครั้งไม่ว่าจะเป็น วีระเทพ ป้อมพันธุ์ รวมถึงเอกนิษฐ์ ปัญญา เช่นเดียวกับตัวหลักรายอื่นๆทั้ง วิลเลี่ยน พ็อพพ์ และเอริก โจฮาน่า ที่เพิ่งยิงประตูได้ในเกมลีกพร้อมลงสนามแน่นอน

 สำหรับ 11 ผู้เล่นเมืองทอง ยูไนเต็ดที่คาดว่าจะลงสนามประกอบด้วย ปฏิวัติ คำไหม (ผู้รักษาประตู), ลูคัส โฮช่า, เยสเปอร์ นีโฮล์ม, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, บุญทวี เทพวงค์, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ, พิชา อุทรา, เอกนิษฐ์ ปัญญา, วิลเลี่ยน พ็อพพ์, เอริก โจฮาน่า

 ขณะที่ทีมเยือนปราสาทสายฟ้า ที่มี "มาซาทาดะ อิชิอิ" คุมทัพ ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย บุกไปเอาชนะ เอ็มเอช นครศรีฯ ซิตี้ (ทีมไทยลีก 3) 2-0 เกมเปิดหัวไทยลีก 2022-23 เลกสอง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บุกเอาชนะ สุโขทัย เอฟซี 3-0

 เกมนี้เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น ไร้ปัญหาการจัดทัพ พร้อมส่งตัวหลักลงครบครันนำโดย ธีราทร บุญมาทัน, ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, เรบิน ซูลาก้า, โจนาธาน โบลินกี้ รวมถึงแข้งใหม่อย่าง ฮาริส วุชคิช รวมถึงฟิลิป โรกิช มิดฟิลด์สารพัดประโยชน์ พร้อมลงประจำการแดนกลางร่วมกับ "โก๋อุ้ม" เช่นกัน

 ทั้งนี้เมืองทอง ยูไนเต็ด เคยเป็นอดีตแชมป์ถ้วยนี้ 2 สมัย ในปี 2016 (แชมป์ร่วม) และ 2017 ส่วนคู่แข่งอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นแชมป์เก่าและเป็นเจ้าของแชมป์ถ้วยนี้มากที่สุด 5 สมัยปี 2012, 2013, 2015, 2016 (แชมป์ร่วม), 2021-22 

 สำหรับโปรแกรมคู่อื่นๆ ประกอบด้วย เวลา 15.00 น. มี 1 คู่ สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี พบ ลำพูน วอริเออร์, เวลา 17.00 น. มี 3 คู่ พิษณุโลก เอฟซี พบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, อยุธยา ยูไนเต็ด พบ พีที ประจวบ เอฟซี, สมุทรสงคราม เอฟซี พบ ลำปาง เอฟซี, เวลา 18.00 น. มี 2 คู่ นครปฐม ยูไนเต็ด พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ราชบุรี เอฟซี พบ หนองบัว พิชญ เอฟซี และเวลา 19.00 น. เชียงใหม่ เอฟซี พบ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 

 อนึ่ง หากจบ 90 นาทียังเสมอกันจะต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที และหากยังเสมอกันอยูจะมีการดวลจุดโทษตัดสิน เพื่อหาผู้ชนะผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป