จะปล่อยให้ คล็อปป์ อำลา ลิเวอร์พูล อย่างเดียวดายจริงๆ หรือ?

สถานการณ์ตอนนี้ ดูเหมือน เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังจะเดียวดายช่วงเวลานับถอยหลังกับ ลิเวอร์พูล

มีหลายครั้งที่ ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต่างทำผลงานได้ดียามที่ลงเล่นด้วยกัน

แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นในเกมที่ กูดิสัน พาร์ค

ทั้งสามคนมีโอกาสทำประตูสวย ๆ และแต่ละคนควรจะทำประตูได้ ทว่ากลับไม่มีใครที่ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้เลย

พลันที่ เอฟเวอร์ตัน ออกนำ ลิเวอร์พูล เริ่มเล่นเกมรุกได้แบบเป็นชิ้นเป็นอัน 

และดูเหมือนจะกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้ แต่สุดท้ายก็จบลงแบบชอกช้ำ

ถามว่า ทำไมจึงเป็นแบบนั้น สิ่งที่ปรากฏคือ ลิเวอร์พูล มีโอกาสทำประตูหลายต่อหลายครั้ง เพียงแต่สุดท้าย ก็เหมือนวันเจอ คริสตัล พาเลซ แล้วแพ้ไป

นักเตะแต่ละคนจบสกอร์ไม่ดี และไร้ความเยือกเย็น

โอกาสของ ดาร์วิน นูนเญซ ตอนนาที 35 ปากประตูเปิดกว้างพอตัว ขอเพียงเลือกยิงไปยังมุมดี ๆ แต่กลับเป็นอีกครั้งที่เขาเลือกยิงอัดไปตรงผู้รักษาประตูเอาดื้อ ๆ 

และอีกไม่กี่นาทีต่อมา หลุยส์ ดิอาซ ก็ทำแบบเดียวกัน 

จริงอยู่ว่ามันเป็นจังหวะที่จบสกอร์ได้ยากกว่า แต่หลายคนหวังว่า ดิอาซ จะทำได้ดีกว่านั้น และเป็นอีกครั้งที่บอลไปตรงตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด

โอกาสแรกของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในเกมนี้ เกิดขึ้นตอนท้ายครึ่งแรก แต่เขากลับยิงผิดฟอร์มอีกเช่นกัน โดยจังหวะนั้น นูนเญซ ผ่านบอลกลับมาให้ตรงแถวหัวกะโหลก 

จังหวะยิงหนแรกทิศทางดูเหมือนจะหลุดออกนอกกรอบ แต่ก็ไปติดบล็อกนักเตะ เอฟเวอร์ตัน จนทำให้บอลกลับมาเข้าทาง 

อย่างไรก็ตาม จังหวะที่สองนั้น ซาลาห์ กลับยิงข้ามคานไปแบบหมดลุ้นอีก

นอกจากฟอร์มจะดร็อปลง หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล จบสกอร์ได้แย่มาก ๆ 

โดยเฉพาะ นูนเญซ กับ ซาลาห์ ที่ทำได้น่าผิดหวังมากเป็นพิเศษ

...

นี่เป็นหนึ่งในฟอร์มที่แย่ที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ 

นักเตะหลายคนมีปัญหาในการจับบอลจังหวะแรก ขณะที่บางคนดูมีปัญหาด้านการตัดสินใจ (แต่ คล็อปป์ บอกว่าไม่ใช่) 

พวกเขาเล่นเข้าทาง เอฟเวอร์ตัน จนทำให้ทีมเพื่อนบ้านได้เล่นลูกเซตพีซหลายครั้ง 

สำหรับภารกิจลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องเอาชนะ 6 นัดสุดท้ายให้ได้ แล้วหวังว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล จะสะดุด 

ซึ่งพวกเขาก็เริ่มต้นได้สวยจากการชนะ ฟูแล่ม 3-1 แต่พวกเขากลับมามีปัญหาเกมรับกับเกมรุกเหมือนที่เกิดขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 

ที่จริงแค่การหวังให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ มิเกล อาร์เตต้า สะดุดสัก 1 นัดก็ถือว่าเกิดขึ้นได้ยากแล้ว 

แต่นี่ต้องมาแช่งให้ทั้งคู่พลาดถึง 2 เกมอีก ซึ่งมันแทบจะบอกว่ามันจะเกิดขึ้นได้เฉพาะในความฝัน

โค้งสุดท้ายของฤดูกาลกลายเป็นฝันร้ายของ ลิเวอร์พูล 

แน่นอนว่าการได้ลุ้นแชมป์ลีกถือเป็นความสำเร็จที่ดีเกินคาดสำหรับทีมชุดใหม่ที่เพิ่งได้เล่นร่วมกันเป็นซีซั่นแรก แต่การมาได้ไกลขนาดนี้ก่อนจะฟอร์มตกไปดื้อ ๆ ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนแล้ว หากฤดูกาลมันจบลงตรงนี้ แบบนี้ และอันดับเท่านี้ 

ผมไม่ได้ผิดหวังหรือเสียใจอะไรเลย หากย้อนไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ก่อนเริ่มฤดูกาล 2023/24

เมื่ออยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุข วลี You'll never walk alone ดูไม่ได้มีความหมายมากสักเท่าไหร่

แต่ You'll never walk alone มันทรงพลังต่อใครมาก ๆ เป็นกำลังใจชั้นดีตอนที่กำลังเจอช่วงเวลายากลำบาก

When you walk through a storm เมื่อคุณเดินฝ่าพายุที่ซัดเข้ามา

Hold your head up high ขอให้เชิดหน้าสู้เข้าไว้

And don’t be afraid of the dark แล้วอย่าหวาดกลัวกับความมืดมิด

At the end of a storm เมื่อพายุนั้นมันผ่านพ้นไป

There’s a golden sky ฟ้าสีทองจะสดใสขึ้นมาเอง

คล้ายกับที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยตอบจดหมายแฟนบอลเด็กคนหนึ่งไว้ว่า 

"ถ้าผมมัวแต่จมปลักอยู่กับช่วงเวลาที่แย่ ๆ แล้วล่ะก็ ผมรู้ดีว่าจะไม่มีทางได้เจอกับช่วงเวลาแห่งความสุขได้"

"ดังนั้นคุณต้องคิดในแง่ดีเกี่ยวกับตัวเองเข้าไว้ และมองไปยังช่วงเวลาที่สดใสที่รออยู่"

Walk on, walk on เดินต่อไป ก้าวต่อไป

With hope in your heart ก้าวเดินต่อด้วยใจหวัง

And you’ll never walk alone และคุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย

You’ll never walk alone คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย

ในช่วงเวลานับถอยหลังสู่การลาจาก กับสถานการณ์ที่ดูไม่เป็นดั่งใจ

นี่คือบทพิสูจน์ที่ดีว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะไม่มีวันเดินเดียวดาย 

อย่างที่วลีนี้ว่าไว้หรือเปล่า

HOSSALONSO




ที่มาของภาพ : getty image
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport