มีครบทุกอย่างที่ต้องการ! 5 เหตุผลที่ ชาบี อลอนโซ่ เหมาะที่จะสืบทอดงาน เจอร์เก้น คล็อปป์

การประกาศอำลาลิเวอร์พูลหลังจบฤดูกาลนี้ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้เกิดคำถามจากสาวก "เดอะ ค็อป" ว่าใครจะก้าวเข้ามาสานต่องานในถิ่นแอนฟิลด์ และถ้ามาแล้วจะสามารถสร้าง "หงส์แดง" ให้เป็นทีมที่เล่นได้อย่างดุดัน และมีดีเอ็นเอที่ไม่ยอมแพ้จนกว่าเสียงนกหวีดสุดท้ายของกรรมการจะเป่าออกมา

แน่นอนว่ามีชื่อกุนซือหลายคน และฝีมือดีที่ยังว่างงานมีข่าวพัวพันกับ "เดอะ เร้ดส์" แต่ดูเหมือนว่าจะมีเพียง 2 คนที่แฟนบอลอยากเห็นพวกเขากลับมาทำงานให้ทีอีกครั้งนั้นก็คือ ชาบี อลอนโซ่ กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด สองตำนานห้องเครื่อง "หงส์แดง" 

อย่างไรก็ตามหากดูศักยภาพแล้วตอนนี้ชื่อของ อลอนโซ่ มีภาษาเหนือกว่า "สตีวี่จี" โดยเฉพาะผลงานในการคุมทีมของทั้งสองคนค่อนข้างต่างกันมากๆ เพราะตอนนี้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ภายใต้การคุมทัพของกุนซือชาวสแปนิช โดดเด่นเหลือเกิน 

แล้วทำไมสาวก "เดอะ ค็อป" ถึงคิดว่า อลอนโซ่ ซึ่งนำ เลเวอร์คูเซ่น  รั้งตำแหน่งจ่าฝูงในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในการรับไม้ต่อจาก คล็อปป์ ในฐานะทายาทเก้าอี้นายใหญ่ "หงส์แดง" ลองมาวิเคราะห์กันหน่อยดีกว่า 

1. สั่งสมประสบการณ์อย่างเข้มข้น

หลังจากที่แขวนสตั๊ด อลอนโซ่ เริ่มหันมาฝึกฝนงานโค้ชอย่างเต็มที่โดยได้รับโอกาสในการคุมทีมระดับเยาวชนรุ่นยู-14 ของ เรอัล มาดริด ก่อนจะย้ายไปกุมบังเหียน เรอัล โซเซียดาด ชุดเบ ซึ่งเป็นสโมสรแรกในอาชีพ่อค้าแข้งของเขา ขณะที่ เจอร์ราร์ด นำ เรนเจอร์ส ผงาดคว้าแชมป์สกอตติช พรีเมียร์ลีก 

อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวสแปนิช ค่อยๆ เรียนรู้การวางแท็คติก และนั่นทำให้เขาได้รับโอกาสทองจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ให้เข้ามากุมบังเหียนในช่วงกลางซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งในเวลานั้นทีมรั้งรองบ๊วยช่วงเดือนตุลาคม 2022 ก่อนจบอันดับ 6 

สำหรับฤดูกาลนี้เป็นการทำงานคุมทีม "ห้างขายยา" แบบเต็มซีซั่น และฟอร์มของสโมสรก็โดดเด่นมากๆ โดยพวกเขายังไม่แพ้ใครในลีก และยึดตำแหน่งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น ดังนั้นเพียงเวลาแค่ 18 เดือน อลอนโซ่ สามารถเปลี่ยน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จากทีมที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด กลายเป็นสโมสรที่มีลุ้นแชมป์บุนเดสลีกา สมัยแรกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร 

2.ปรับทีมจนกลมกล่อม 

ต้องยอมรับว่า นายใหญ่เลือดกระทิงดุ สร้าง เลเวอร์คูเซ่น ได้เด็ดสะระตี่เหลือเกิน โดยเขาสามารถปลุกปั้นสโมสรที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นในวันแรกที่เข้ามากุมบังเหียนเมื่อเดือนตุลาคม 2022 จนสามารถจบซีซั่นด้วยการคว้าตั๋วไปเล่นศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่ประสบการณ์คุมทัพน้อยนิดเหลือเกิน 

สำหรับตอนนี้ อลอนโซ่ มีการปรับทัพเสริมแกร่งเพื่อให้ทีมมีความลงตัวมากยิ่งขึ้นด้วยการดึงนักเตะที่มีฝีเท้าเข้ากับระบบของเขาอย่างเช่น กรานิต ชาคา, อเล็กซ์ กรีมัลโด้, วิคเตอร์ โบนิเฟซ และ โยนาส ฮอฟมันน์ ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้ "ห้างขายยา" รั้งตำแหน่งจ่าฝูงลีก หลังผ่านไป 18 เกม 

นอกจากนี้ เลเวอร์คูเซ่ ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นในลีก และรายการอื่นๆ รวมเบ็ดเสร็จ 27 แมตช์ที่ยังไม่ปราชัย แถมชนะไปถึง 24 เกมซะด้วย ไม่ใช่แค่ในลีกเท่านั้นที่ทีมกำลังบินสูง เพราะในเกมฟุตบอลถ้วยทั้ง เดเอฟเบ โพคาล พวกเขาก็ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วน ในยูโรปา ลีก ก็ทะลุรอบ 16 ทีมสุดท้าย 

จะหาว่าคุยโวตอนนี้ กุนซือคนหนุ่มไฟแรงชาวสแปนิช กำลังเพลิดเพลินกับการสร้างผลงานดีมีคุณภาพให้กับ เลเวอร์คูเซ่น และยังอยู่ในเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์นั่นก็คือการลุ้น 3 แชมป์ทั้งบุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล และยูโรปา ลีก

3. ฝึกปรือฝีมือจากยอดกุนซือ

ในช่วงระหว่างที่กำลังโลดแล่นในวงการลูกหนังอาชีพ อดีตกองกลางทีมชาติสเปน มีโอกาสได้ศึกษาหาความรู้เรื่องงานโค้ชไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เขาได้รับโอกาสำคัญในการร่วมงานกับยอดกุนซือระดับโลกถึง 4 คนเลยทีเดียว

"คุณชาย" เคยได้เรียนรู้เรื่องวิชาการวางแท็คติดมาจากตอนที่เขาเป็นลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (บาเยิร์น มิวนิค), โชเซ่ มูรินโญ่ (เรอัล มาดริด), ราฟาแอล เบนิเตซ (เรอัล มาดริด) และ คาร์โล อันเชลอตติ (เรอัล มาดริด) 

หากใครได้ดูเกมของ เลเวอร์คูเซ่น ในฤดูกาลนี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าองค์ประกอบต่างๆ ที่เขาได้เรียนรู้มาจากยอดกุนซือทั้ง 4 คนมีอยู่ในทัพ "ห้างขายยา" ทั้งแพสชั่นในการครองบอลและใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างในสไตล์ของ เป๊ป, ความสามารถในการรักษาคลีนชีตแบบ "เฮียมู" การเข้าใจว่าจะต้องเปลี่ยนรูปแบบเกมยังไงในสไตล์ ราฟา และความหลงใหลการเล่นเกมรุกเหมือน "อันเช่"

สำหรับแฟนบอล "หงส์แดง" ที่กังวลเกี่ยวกับการเสีย คล็อปป์ ไป แต่คงจะสบายใจได้ถ้าหากได้ อลอนโซ่ มาสานต่องาน เพราะผลงานในถิ่นไบ อารีน่า คงเป็นเครื่องการันตีได้ว่า ลิเวอร์พูล น่าจะเป็นทีมที่เล่นได้อย่างดุดัน และมีความเหนียวแน่นมากขึ้นกว่าเดิม 

4. เงื่อนไขพิเศษตัวแปรสำคัญ

จากผลงานชิ้นโบว์แดงของ ชาบี อลอนโซ่ ทำให้เขากลายเป็นที่หมายตาของบรรดาสโมสรชั้นนำในยุโรป อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้ตัวเขาไปร่วมทัพ เนื่องจากมีสัญญาผูกมัดยาวไปจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2026

อย่างไรก็ตาม "บิลด์" สื่อชั้นนำในเมืองเบียร์ รายงานว่า ลิเวอร์พูล มีลุ้นที่จะได้ตัว อลอนโซ่ เช่นกัน เนื่องจากเขามีเงื่อนไขพิเศษในสัญญากับ เลเวอร์คูเซ่น ว่าสามารถแยกทางกับต้นสังกัดหลังจบฤดูกาลนี้ ถ้าหากมี 3 สโมสรยักษ์ใหญ่ที่เขาเคยค้าแข้งด้วยต้องการตัวไปคุมทีม

สำหรับทั้ง 3 สโมสรที่ อลอนโซ่ เคยค้าแข้งได้แก่ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด, "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค และ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โดยทั้งหมดนี้เป็นทีมที่ อดีตห้องเครื่องเลือดกระทิงดุ เคยประสบความสำเร็จตลอดช่วงที่ยังเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ทั้งนี้ อลอนโซ่ เคยใช้เวลาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ 5 ฤดูกาล ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ "โลส บลังโกส" ช่วงซัมเมอร์ปี 2009 โดยใช้เวลานานถึง 6 ซีซั่น จากนั้นก็ออกไปหาความท้าทายใหม่กับ บาเยิร์น ช่วงซัมเมอร์ปี 2014 และเป็นสโมสรสุดท้ายในอาชีพนักเตะ 

5. เดอะ ค็อป หนุนหลังเต็มที่

หนึ่งในเหตุผลที่สำคัญมากๆ ที่ อลอนโซ่ เหมาะสมคู่ควรที่จะนั่งเก้าอี้กุนซือลิเวอร์พูล ก็คือบรรดาแฟนบอล "หงส์แดง" ทั่วโลก พร้อมให้การสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ ในการนำพาสโมสรแห่งนี้ก้าวไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เหมือนที่ "บอส" สร้างเอาไว้

ด้วยความที่ อลอนโซ่ มีดีเอ็นเอในแบบของ "หงส์แดง" จะเห็นได้ว่าการคุมทีมของเขามักจะกระตุ้นลูกทีมให้สู้แบบถวายหัวและไม่ยอมแพ้จนกว่าจะหมดเวลา ซึ่งสิ่งนี้เห็นได้อย่างชัดเจนใน 2 เกมหลังสุดของ เลเวอร์คูเซ่น ที่สามารถยิงประตูในช่วงทดเจ็บจนคว้าชัยชนะมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 

ลองนึกภาพตอนที่เขากลับมาในฐานะกุนซือเพื่อที่จะนำ "เดอะ เร้ดส์" พัฒนาความสำเร็จให้มากยิ่งขึ้น เชื่อว่าบรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" ทั้งในสนาม และนอกสนาม ต่างพร้อมส่งกำลังใจ และให้การหนุนหลังอย่างเต็มที่โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นกับทีมซึ่งอาจมีหลายอย่างที่ยังไม่เข้ารูปเข้ารอย 


ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport