เรื่องที่ไม่ง่าย แต่ โดมินิค โซโบซไล ทำให้มันเป็นเรื่องปกติ

แม้ว่าสองประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะขึ้นเป็นพาดหัวข่าว

แต่ โดมินิค โซโบซไล ก็ทำผลงานระดับแมน ออฟ เดอะ แมตช์ อีกครั้ง

เขาไม่ได้มีชื่อทำประตูหรือแอสซิสต์เป็นประจำ แต่สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า โซโบ สร้างตัวตนขึ้นมาในแบบฉบับของตัวเอง

มันคือมาตรฐานที่เขาตั้งไว้ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ ลิเวอร์พูล ผลงานแต่ละเกม เรานึกไม่ออกเลยว่ามีนัดไหนที่ โซโบซไล ทำได้ต่ำกว่าเกณฑ์

จากเกม เมอร์ซี่ย์ ไซด์ ที่ผ่านมา มีแค่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (120) และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (116) เท่านั้นที่จับบอลมากว่าเขา (108)

ขณะที่เปอร์เซนต์ผ่านบอลแม่นยำระดับ 93% เป็นรองเพียง ไรอัน กราเฟนแบร์ค ที่ทำได้ 96% 

ภาพประกอบนี้แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ที่ โซโบซไล ได้สัมผัสบอล

ซึ่งมันไม่ได้เพียงแค่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลเฉพาะพื้นที่ของตัวเองเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวิธีการเล่นที่ส่งผลกระทบต่อเกมทั่วสนาม

ช่วง 10 นาทีแรก โซโบซไล สาธิตถึงการทำสิ่งนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

สองนาทีเศษ ๆ เขาถอยไปรับบอลจาก อิบราฮิม่า โกนาเต้ แล้วจ่ายบอลให้ เทรนท์ อย่างรวดเร็ว

ทั้ง โซโบ กับ อิบู ส่งให้กันจนทำให้ เทรนท์ เกิดพื้นที่ว่างเติมเกมขึ้นหน้า

ขณะที่ เทรนท์ มุ่งหน้าเข้าสู่กรอบเขตโทษ เอฟเวอร์ตัน แล้วสุดท้ายเสียการครอบครอง โซโบซไล เป็นคนแรกที่พยายามแย่งบอลคืนกลับมา

โซโบซไล วิ่งบีบพื้นที่จน ดไวท์ แม็คนีล เล่นกับบอลต่อไม่ได้

มิดฟิลด์ทีมชาติฮังการี มีสิ่งสำคัญคือการเล่นยามที่ไม่มีบอล

พละกำลังของเขาคือสิ่งที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ทำได้ดีในเรื่องการเล่นเคาน์เตอร์ เพรสซิ่ง ซึ่งเกมกับ ไบรท์ตัน การเล่นลักษณะนี้ของแข้งฮังการี ก็นำไปสู่การได้สองประตูที่ เอเม็กซ์

อย่างไรก็ตาม สไตล์การเล่นของ เอฟเวอร์ตัน ก็เป็นอีกแบบ คนละอย่างกับ ไบรท์ตัน 

ดังนั้น โอกาสที่จะใช้การเล่นเคาน์เตอร์ เพรสซิ่งเล่นงาน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ก็มีน้อย

แต่ โซโบซไล สามารถปรับการเล่นจนกลายเป็นตัวกำหนดจังหวะของทีมให้คงที่

หลังทีมแย่งบอลกลับมาครองได้ อีก 30 วินาทีต่อมาเขาก็มีส่วนร่วมกับการเล่นอีกครั้ง

หนนี้เขารับบอลมาจากริมกรอบเขตโทษในสภาพที่ตัวเองต้องอยู่ท่ามกลางวงล้อมของนักเตะ เอฟเวอร์ตัน

ทว่า โซโบซไล ไม่ตื่นตระหนกหรือตัดสินใจแบบเร่งรีบ

เขาแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมจนมองเห็นแนวทางการวิ่งของ ซาลาห์ และส่งบอลไปทางดาวเตะชาวอียิปต

ก่อนที่ ซาลาห์ จะพยายามยิงด้วยลูกวอลเล่ย์ซึ่งต่างไปจากวิธีการยิงที่เคยทำมา

6 นาทีหลังจากนั้น โซโบ เป็นแกนหลักในเกมรุกของ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง 

หนนี้เขาเอาชนะการดวลกลางอากาศในจังหวะที่ต้องป้องกันลูกฟรีคิกได้ และวิ่งเข้าถึงบอลก่อนหน้านักเตะ เอฟเวอร์ตัน ทั้งที่อีกฝ่ายอยู่ใกล้บอลมากกว่าเขาในตอนแรก

โซโบซไล ชิพบอลไปหา ซาลาห์ ที่น้ำหนักมันไม่แรงพอ แต่เขาก็แก้ไขด้วยการวิ่งเข้าหาลูกจ่ายของตัวเอง เปลี่ยนจังหวะการเล่นจากรับเป็นรุกในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาที

มีบางช่วงในระหว่างเกมที่ โซโบซไล ดูเป็นนักเตะที่เหมาะกับทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อย่างสมบูรณ์แบบ 

ทั้งจากการผ่านบอลที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการเลี้ยงบอล เมื่อเครื่องติดน้อยคนที่จะหยุดเขาได้ เพราะ โซโบ พาบอลขึ้นหน้าอย่างรวดเร็วและมีเป้าหมายที่แน่วแน่

ถึงจังหวะที่ ลิเวอร์พูล โต้กลับจากลูกเตะมุม โซโบซไล รับบอลจากหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง และภายในเวลา 7 วินาที เข้าพาบอลไปถึงเกือบ ๆ กรอบ 18 หลาของ เอฟเวอร์ตัน 

แม้ว่าเขาจะควบขึ้นมาด้วยความเร็วสูงสุด แต่ โซโบ ก็เลือกทางเลือกที่เหมาะสม โดยจ่ายบอลต่อให้ หลุยส์ ดิอาซ ก่อนที่ดาวเตะโคลอมเบีย หาจังหวะยิงแต่ไปติดบล็อก แอชลี่ย์ ยัง ที่สไลด์ตามมาขวางได้ทันพอดี

มีความแตกต่างกันระหว่างการยิงจากระยะไกลเยอะไป และการปล่อยให้คู่แข่งมีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ความสามารถในการส่องไกลของ โซโบซไล นั่นหมายความว่าเขาอยากยิงไกลในตอนที่มีโอกาสดี ๆ และเชื่อมั่นในเทคนิคของตัวเอง 

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเขามีจังหวะยิง 5 ครั้ง โดยในจำนวนนั้นมี 3 หนที่เกิดขึ้นภายในระหว่างที่ อ. ยัง โดนใบแดงในนาทีที่ 37 ไปจนถึงตอนจบครึ่งแรก

สิ่งที่โดดเด่นคือการที่เขาสร้างโอกาสการทำประตูให้ตัวองได้ดี 

การยิงครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นจังหวะที่ได้ลุ้นประตูมากที่สุด เกิดขึ้นจากการที่เขาวิ่งทะลวงเข้าไประหว่างแนวรับของ เอฟเวอร์ตัน เพื่อที่จะไปรับบอลมา ก่อนที่จะหมุนตัวหนีจาก อมาดู โอนาน่า

จากนั้น โซโบซไล ก็พาบอลไปทางขวา ก่อนที่จะยิง เพียงแต่บอลมันลอยข้ามคานไปแบบได้ลุ้น

ช่วงท้ายครึ่งหลังเกมเปิดกว้างขึ้นเพราะ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายนำอยู่ แถมยังเล่นในสภาพที่มีนักเตะในสนามเยอะกว่ามาเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงเต็ม

ตัวอย่างที่เห็นนี้ โซโบซไล เอาตัวรอดจากการคู่แข่งสองคนเข้าประกบ

ส่วนนี่คือหาช่องเพื่อสร้างโอกาสยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ผลลัพธ์ยังไม่ดีพอ

ไม่ใช่ว่าเขาจะมุ่งหวังแต่ซัดเองเท่านั้น แต่ โซโบซไล ยังสร้างความคุกคามด้วยการเปิดทางเลือกอื่น ๆ ได้เช่นกัน

เมื่อมีเพื่อนที่อยู่ตำแหน่งที่ดีกว่า แทนที่จะยิงเอง โซโบ ก็เลือกปาดต่อให้ เทรนท์ ทางด้านขวาที่ยืนว่างไร้ตัวประกบ

ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนขับเคลื่อนเกมรุกด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ โซโบซไล น่าจะช่วยนักเตะทุกคนที่ได้ครองบอลได้แบบสบาย ๆ เพราะเขาเป็นนักเตะที่อึดมาก ๆ

แม้แต่ตอนที่ ดาร์วิน นูนเญซ ถวายพานให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูปิดกล่อง โซโบ เองก็วิ่งไล่ตามหลังทั้งคู่มา ซึ่งเห็นได้ว่าพละของเขายังเหลือล้น แถมยังมีความกระตือรือร้นเต็มเปี่ยม

ซึ่ง โซโบซไล ไม่ได้มีดีแค่การวิ่งเท่านั้น

เขาประสานงานกับ เทรนท์ ได้ดี ถ้าเกิดแบ็กขวาชาวอังกฤษไม่โผล่มามีบทบาทในเกมรุก และไม่มีจังหวะที่โยนบอลได้ดีแล้วล่ะก็ อดีตดาวเตะ แอร์เบ ไลป์ซิก อาจจะรับหน้าที่นั้นแทนได้เลย

ในกรณีนี้ โซโบซไล สามารถผ่านบอลไปให้ ดิอาซ ได้อย่างแม่นยำ

และพลังงานอันล้นเหลือทำให้เขาวิ่งเข้าไปรับบอลกลับมาจากเพื่อนร่วมทีมได้ เพื่อทำให้การชิ่งบอลหนึ่ง-สอง มันสมบูรณ์แบบได้

ตอนนี้พื้นที่มันเปิดกว้างแล้ว และ โซโบซไล ก็เข้าใกล้มาก ๆ กับการผ่านบอลได้อย่างสมบูรณ์แบบในตำแหน่งที่อยู่ด้านหลัง เทรนท์ ที่ขยับขึ้นสูงกว่าปกติ

เกมเมื่อวันเสาร์เป็นครั้งที่สามที่เขาทำสถิติจับบอลต่อเกมเกิน 100 ครั้งจาก 9 เกมแรกบนศึก พรีเมียร์ลีก 

ในบรรดากองกลาง พรีเมียร์ลีก ทั้งหมด มีแค่ โรดรี้ (4) จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ (4) จาก เชลซี ที่ทำได้มากกว่าเขาในฤดูกาลนี้ ขณะที่ อีฟส์ บิสซูม่า ของ สเปอร์ส ทำได้ 3 ครั้งเท่ากัน

การถอยลงต่ำ โซโบซไล ทำได้ดี ปล่อยให้ เทรนท์ หรือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้พาบอลขึ้นหน้า

ด้วยรูปแบบของ เอฟเวอร์ตัน เมื่อเหลือ 10 คนจนเป็นแผน 5-3-1 จึงปิดโอกาสการโต้กลับแบบรวดเร็ว ซึ่ง โซโบซไล ปรับจากเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางฝั่งขวาไปยืนฝั่งซ้าย ตอนที่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ลงมาในช่วงครึ่งช่วงโมงสุดท้าย

ภาพนี้อธิบายการผ่านบอลของ โซโบซไล สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในเกม

การผ่านบอลหลายจังหวะของเขาเกิดขึ้นบริเวณริมกรอบเขตโทษของ เอฟเวอร์ตัน เพราะเขามีส่วนร่วมในการพยายามทำลายแนวรับอันแข็งแกร่งของ เอฟเวอร์ตัน 

ท้ายที่สุดแล้วบอลของ โซโบซไล ก็ทำให้ ดิอาซ หลุดไปทางฝั่งซ้าย ก่อนที่ดาวเตะชาวโคลอมเบียจะลากเข้าไปในกรอบเขตโทษและเรียกลูกจุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของ ไมเคิ่ล คีน ได้

แม้ว่าฟอร์มของ โซโบซไล จะโดดเด่นมาก แต่ปัจจัยที่น่าทึ่งเกี่ยวกับการเล่นของเขาถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้วเพราะเขาทำมันได้บ่อย ๆ

ถ้าลองดูเกมที่เขาลงเล่นในฤดูกาลนี้แล้วจะเห็นว่า โซโบซไล ทำแบบนั้นได้อย่างคงเส้นคงวา

หากเขายังทำเรื่องง่าย ๆ ให้มันมีผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้ต่อไป มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครกล้าดูแคลนผลงานที่ โซโบซไล ทำให้กับ ลิเวอร์พูล ได้

ภาพและข้อมูลจาก The Athletic

HOSSALONSO



ที่มาของภาพ : GETTY IMAGE
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport