นักเตะเกินล้านปอนด์ เทรเวอร์ ฟรานซิส ผู้จากไป

เทรเวอร์ ฟรานซิส ตำนานนักเตะอังกฤษผู้ล่วงลับเมื่อ 24 ก.ค.ที่ผ่านไป คือนักเตะในสหราชอาณาจักรคนแรกที่มีราคา 1 ล้านปอนด์ อันเป็นประวัติศาสตร์ยุค70 ตอนปลาย

เป็น price tag ที่ ฟรานซิส คงไม่แฮปปี้ สักเท่าไหร่เพราะคุณค่าของเขานั้นมีมากกว่า "มูลค่า" ล้านปอนด์แน่นอน...

เรื่องราวของ ฟรานซิส ในยุค 70 ทอดยาวมาจนถึงยุคพรีเมียร์ลีก อันสิ้นสุดเส้นทางสายฟุตบอลของเขาในนามกุนซือ ล้วนแล้วแต่น่าจดจำทั้งสิ้น....

วันนี้ขอย้อนเวลาหาอดีตในทุกแง่มุมของนักเตะล้านปอนด์คนแรกในประวัติศาสตร์อังกฤษ พื่อให้แฟนบอลรุ่นหลังได้ร่วมกันระลึกถึง เทรเวอร์ ฟรานซิส กันครับ

จากพลีมัธสู่เบอร์มิงแฮม

สมัยเด็กๆผมอ่านเรื่องราวอันฮือฮาในโลกยุคยังมีพรมแดน ผ่านสตารซอคเก้อร์ รายสัปดาห์เรื่อง "นักเตะค่าตัวล้านปอนด์" คนแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ มีชื่อว่า เทรเวอร์ ฟรานซิส 

ฟรานซิสย้ายจากเบอร์มิงแฮม มายังนอตติง แฮมฟอเรสต์ เมื่อ ก.พ. ปี 1979  ราคาเมื่อรวมกับภาษีและค่านายหน้าอยู่ที่ 1.18  ล้านปอนด์ แม้ว่า ไบรอัน คลัฟ ยอดผ.จ.ก. เจ้าของฉายา กุนซือปากตะไกร (เพราะให้สัมภาษณ์แบบขวานผ่าซาก) จะลดความกดดันด้วยการบอกว่า ฟรานซิส ค่าตัวแค่ 999,999 ปอนด์เท่านั้น

เกิดเมื่อปี 1954 ที่เมืองพลีมัธ แถบตะวันตกเฉียงใต้อังกฤษ คุณพ่อ รอย ฟรานซิส เป็นโฟร์แมน บริษัทน้ำมัน คุณแม่ ฟิลลิส พนักงานเย็บผ้า เทรเวอร์ เรียนหนังสือ และฝึกฟุตบอลที่ร.ร. ชายล้วน ของรัฐบาลที่พลีมัธ ก่อนแมวมองเบอร์มิงแฮม ซิตี้ มาเห็นฟอร์มแล้วเข้าตา ช่วงที่เขาอยู่ ม.ต้น

จากนั้นทีมเบอร์มิงแฮม ที่อยู่ในระดับดิวิชั่นสองเดิม (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ปัจจุบัน) ติดต่อพ่อแม่ของเขาเพื่อเอาไปฝึกแบบมืออาชีพต่อ ด้วยการซื้อเครื่องซักผ้าให้ที่บ้าน แล้วก็ได้ตัวไป  

เทรเวอร์ ฟรานซิส พัฒนาเร็วด้วยพรสวรรค์ในการเล่นบอลบวกกับพรแสวง  ฝึกสปริ้นต์ส่วนตัว (ใช้รองเท้าตะปู) นอกเวลาฝึกบอล เพื่อเพิ่มสปีดในการเล่นกองหน้า ทำให้เขาติดทีมชุดใหญ่เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ด้วยวัย 16 ปี 139 วัน เป็นประวัติศาสตร์ของทีมเมื่อ ก.ย.1970  สถิตินี้ถูกทำลายโดย จูด เบลลิงแฮม เมื่อ ส.ค.2019 (16ปี 38 วัน)

ฟรานซิส พัฒนาฝีเท้าโดดเด่นอย่างรวดเร็วช่วงอายุ 17 ปี นี่เป็นดาวเด่นของเบอร์มิงแฮม ในตำแหน่งกองหน้า มีส่วนช่วยพาทีมเลื่อนชั้นมาลีกสูงสุด, เข้ารอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพปี 1972,75 จากนั้นก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษปี 1977 ยุคที่ ดอน เรวี เป็นผ.จ.ก.

ระหว่างนั้นฟุตบอลเริ่มเผยแพร่ไปที่อเมริกามากขึ้นลีกแถบเหนือ  NASL ทำสัญญายืมตัวไปใช้งานช่วงซัมเมอร์ กับทีม ดีทรอยต์ เอกสเพรส  สร้างผลงานโดดเด่นจนติดทีม รวมดารา NASL ร่วมกับ ฟร้านส์ เบคเคนบาวเออร์

ก.พ. 1979 นอตติงแฮม ฟอเรสต์ ภายใต้การคุมทีมของ ไบรอัน คลัฟ สร้างสถิติซื้อนักเตะราคาล้านปอนด์คนแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ แม้ คลัฟ จะมีลูกเล่นในวันแถลงข่าวด้วยการใส่เสื้อวอร์มกับแรกเกตเทนนิส มาพร้อมกับบอกว่าค่าตัวของ ฟรานซิส นั้นขาดไป 1 ปอนด์ จะถึงล้าน.... 

สถิติแพงสุดในเกาะอังกฤษเดิมนั้นเป็นของ เดวิด มิลส์ ย้ายจาก มิดเดิลส์โบรช์ไป เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนส์ 516,000 ปอนด์ ส่วนสถิติโลกตอนนั้นเป็นของ จูเซปเป ซาวอลดี 1.2 ล้านปอนด์  (นาโปลี) และ เปาโล รอสซี  1.75 ล้านปอนด์ (ยูเวนตุส)ในกัลโช่ 

ช่วงเวลานั้น นอตติงแฮม ฟอเรสต์ ลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดกับ ลิเวอร์พูล แต่ก็มีผลงานก้าวหน้าในฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพเดิม (ช.ป.ล) ซีซั่น 1978-79 พวกเขาเขี่ย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นแชมป์เก่าตกรอบแรก จากนั้นพวกเขาสร้างผลงานจนทะลุเข้าชิงชนะเลิศกับ มัลโม ทีมดังจากสวีเดน ในเวลานั้น

ฟรานซิส สร้างชื่อให้จดจำด้วยการพุ่งโหม่งบอลตุงตาข่ายจาก ลูกครอสของ จอห์น โรเบิร์ตสัน ริมเส้นด้านซ้าย ในช่วงทดเวลาครึ่งแรก  ประตูเดียวที่ทำให้ฟอเรสต์ ผงาดครองเจ้ายุโรปครั้งแรก ที่โอลิมปิก สเตเดี้ยม สนามเดิมของบาเยิร์น มิวนิค

โดยขุนพลชุดนั้นของ "เจ้าป่า" นี่ต้องบอกว่าตัวทอปของลีกอังกฤษ

นายประตูก็ ปีเตอร์ ชิลตัน , วิฟ แอนเดอร์สัน (แบกขวา),  ลาร์รี ลอยด์ เซนเตอร์ ที่ซื้อจากลิเวอร์พูล คู่กับ เคนนี เบิร์นส์ แบ๊กซ้าย แฟร้งค์ คลาร์ก (ต่อมาเป็นผ.จ.ก.ฟอเรสต์)

กองกลาง จอห์น แมกโกเวิร์นกับ เอียน โบเยอร์ ด้านขวา ฟรานซิส ด้านซ้าย โรเบิร์ตสัน กองหน้าคู่ แกรี เบอร์เทิลส์ และ โทนี วูดค้อก โดย มาร์ติน โอนีลส์ มิดฟิลด์ดาวโรจน์ สำรอง

จากนั้นปีต่อมา ฟรานซิส มีส่วนอย่างยิ่งกับการพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศเพื่อป้องกันแชมป์ เที่ยวนี้ชิงกับ ฮัมบูร์ก แต่น่าเสียดายเจ้าตัวเจ็บเอ็นร้อยหวาย เลยไม่ได้ลงนัดชิง แต่ฟอเรสต์ ชนะฮัมบูร์ก 1-0 คว้าแชมป์สองสมัยติดต่อจากลิเวอร์พูล

ช่วงนั้นคือยุคทองบอลอังกฤษในระดับทวีป หงส์แดง เจ้ายุโรป 1977,78 ต่อด้วย ฟอเรสต์ 1979,80 ต่อด้วย ลิเวอร์พูล 1981 ตามด้วยแอสตัน วิลล่า 1982 คือ หกปีติดต่อกันนั่นเอง

ฟรานซิส เล่นกับฟอเรสต์ แค่สองซีซั่น นอกจากเจ็บบ่อยแล้ว ยังไม่ค่อยแฮปปีกับตำแหน่งปีกขวา เขาอยากเล่นกองหน้ามากกว่า  นั่นจึงทำให้เขาไม่ค่อยเป็นที่ปลื้มสำหรับ คลัฟ สักเท่าไหร่ มีเรื่องเล่าว่าแม้ ฟรานซิส มีส่วนในผลงานการเข้าชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1980 ตั้งแต่รอบ8 ทีม รอบรองชนะเลิศ เขาช่วยยิงประตูนำทีมไปชิงกับฮัมบูร์ก แต่พอถึงนัดชิงอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายตามมากวนใจ จนไม่ได้เล่น แถม คลัฟ ยังไม่เชิญไปดูนัดชิงที่มาดริด และเมื่อได้แชมป์กลับมา มีการฉลองแชมป์นั่งรถเปิดประทุน คลัฟ ยังไม่เชิญเขาร่วมขบวนฉลองอีกด้วย...

เจ็บปวดอย่างยิ่ง...

แฟมิลี แมน...

ปี 1974 ฟรานซิส แต่งงานกับ เฮเลน ซึ่งเป็นช่างทำผม พื้นที่แคว้นเวลส์ เมือง  Llanelli (ภาษาเวลช์-เลอเนซลี) ทั้งคู่เจอกันที่มายอร์ก้า ปี 1972 จากนั้นพอกลับมาเบอร์มิงแฮม ปรากฏว่า ฟรานซิส ลืมเบอร์โทรศัพท์ แต่ด้วยความชอบ เขาจึงพยายามติดต่อด้วยการโทรไปร้านทำผม 30 ร้านในเมืองนั้น โชคดี เขาโทรไป 15 ร้านจึงได้เจอ เฮเลน จากนั้นทั้งคู่ก็ไม่แยกจากกันอีกจนกระทั่ง เฮเลน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี 2017 โดยงานฝังศพ มาร์ติน โอนีลส์ ที่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ตั้งแต่สมัยเล่นที่ ฟอเรสต์ เป็นผู้กล่าวคำอาลัย 

ทั้งคู่มีลูกชายสองคนคือ แมทธิว และ เจมส์ (เคยเล่นบอลลีกรอง) ช่วยกันรับงานดูแลบริษัท ฟรานซิส ก่อสร้าง 

หลัง เฮเลน จากไป ฟรานซิส ถึงกับเป๋ไปพักใหญ่ เพราะนับจากแต่งงานปี 1974 ทั้งคู่แทบไม่มีช่วงไหนที่ห่างกันเลย เฮเลน เป็นแม่บ้านที่ดี ดูแลทุกอย่าง เลี้ยงลูกสองคนและติดตาม ฟรานซิสไปทุกที่ๆเขาไปเล่นบอลและเป็นโค้ช เขาถึงกับออกปากว่า "นี่คืองานที่ยากและท้าทายกว่าเล่นฟุตบอลซะอีก" เมื่อต้องใช้ชีวิตโดยไม่มี เฮเลน 

นักเตะพเนจรผู้ยิ่งใหญ่

นั่นหมายถึงช่วงเวลาดีๆ ที่มีไม่นานกับ "เจ้าป่า" ก็จบลงในสองปี จังหวะพอดีฟอเรสต์ ต้องการขายเขาเอาเงินเข้าสโมสร ฟรานซิส จึงย้ายไปแมนฯซิตี้ ปี 1981 อยู่แค่ปีเดียว พอ เรือใบมีปัญหาการเงิน จึงขายเขาให้ซามพ์โดเรีย ซึ่งมี แกรม ซูเนสส์ ของลิเวอร์พูล ช่วงนั้น ลา ซามพ์ มีดาวรุ่งอย่าง จานลูกา วิอัลลี และ โรแบร์โต มานชินี ชุดแชมป์โคปปา อิตาเลีย ปี 1985

ฟรานซิส นับว่าเป็นนักเตะพเนจรคนหนึ่ง นอกจาก ลาซามพ์แล้ว ยังเล่นให้ อตาลันต้า,เขาเคยเล่นกับ กลาสโกว เรนเจอร์ส, คิวพีอาร์ (ผ.จ.ก.-ผู้เล่น) , ก่อนแขวนสตั๊ดกับ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ซึ่งเขาเป็น ผ.จ.ก. ผู้เล่น พาทีมเข้าชิงบอลถ้วยกับอาร์เซนอลทั้งลีกคัพและเอฟเอ คัพ แต่ได้แค่รองแชมป์ปี1993 

ทีมชาติอังกฤษ

ฟรานซิส ติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรกปี 1977 นัดที่แพ้เนเธอร์แลนด์ 2-0 ในยุค ดอน เรวี เป็นผ.จ.ก. ทีมชาติ อาการบาดเจ็บทำให้เขาไม่ติดทีมไปยูโร 1980 แต่มาติดทีมชาติชุดบอลโลก 1982  ยิงสองลูกนัดเจอ เชคโกสโลวะเกียและคูเวต ส่วนรอบสอง เสมอ เยอรมนี และสเปน 0-0 ทั้งสองนัดก่อนตกรอบกลับบ้าน เขาติดทีมชาติทั้งหมด 52 นัดยิง 12 ประตู ก่อนหลุดชุดบอลโลก 1986 

นักเตะทีมชาติชุดเดียวกับเขาก็ ไบรอัน รอบสัน, เควิน คีแกน, เซอร์ เทรเวอร์ บรูคกิ้ง, เทอร์รี บุทเชอร์ และแน่นอน ปีเตอร์ ชิลตัน ประตูมือกาว 

โค้ชผู้ไม่เชื่อฝีเท้าก็องโต้ 

ที่ฮิลส์โบโรนี่เอง...ที่สร้างภาพจำไม่ค่อยดี เมื่อเพื่อนสนิทในวงการบอลอย่าง มิเชล พลาตินี แนะนำ เอริก คันโตนา ให้มาทดสอบฝีเท้าที่ ฮิลส์โบโร แต่ปรากฏว่าฝนตกหนักเลยเข้าไปเล่นหญ้าเทียม จากนั้น ฟรานซิส ขอทดสอบในสนามหญ้าจริงอีกครั้ง แต่ คันโตนา ปฏิเสธ จากนั้นจึงไปร่วมทีมกับลีดส์ ยูไนเต็ด ของโฮเวิร์ด วิลกินสัน จนร่วมพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งเดิม ครั้งสุดท้ายปี 1991 ก่อนที่ช่วง พ.ย. 1992 จะย้ายไปแมนฯยูไนเต็ด และกลายเป็นจิ๊กซอว์ ต่อแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกให้ "ปีศาจแดง" ในราคาแสนถูกล้านกว่าปอนด์ 

ความยิ่งใหญ่ของ ก็องโต้ นำมาซึ่งการล้อเลียน ฟรานซิส ว่า ผิดพลาดครั้งใหญ่ที่มองไม่เห็นทักษะของ คันโตนา 

จากนั้น...ฟรานซิส จบงานผ.จ.ก ที่คริสตัล พาเลส ปี 2003 ก่อนเข้าวงการวิเคราะห์บอลทางทีวีให้กับ สกายสปอร์ต, บีที สปอร์ต จนกระทั่งสิ้นลมเพราะหัวใจวายเมื่อ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา 

สำหรับวงการฟุตบอลอังกฤษแล้วนั่นเมื่อเอ่ยชื่อ เทรเวอร์ ฟรานซิส ทุกคนมักพูดถึงสถิติ ค่าตัวล้านปอนด์ คนแรกของ  UK แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้สึกว่าเขามีค่ามากกว่านั้น เขาเคยพูดกับนักข่าวอังกฤษว่า

"ผมติดทีมชุดใหญ่ครั้งแรกอายุ 16 ปี เลิกเล่นบอลอายุ 39 ปีที่เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ คว้าเจ้ายุโรปกับ ฟอเรสต์ ติดทีมชาติอังกฤษ 52 แมตช์ นาน 9 ปี เล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ผ่านกัลโช, สกอตแลนด์"

"แล้วพวกคุณคิดว่าผมเป็นแค่เพียงนักเตะค่าตัวล้านปอนด์คนแรกในประวัติศาสตร์  เอาเป็นว่า ผมภูมิใจกับมันก็แล้วกัน"

อย่างไรก็ตาม...ภาพจำของ เทรเวอร์ ฟรานซิส มีมูลค่ามากกว่านั้น

ในฐานะ....นักเตะผู้พาฟอเรสต์ ครองเจ้ายุโรปสมัยแรกปี 1979 และช่วยนำทีมสู่นัดชิงชนะเลิศปี 1980 แต่ไม่ได้เล่นนัดชิงเพราะเจ็บ...ติดทีมชาติอังกฤษ...เป็นนักเตะที่มีความพลิ้ว มีลีลา ระดับทอปของวงการฟุตบอลอังกฤษยุค 70-80 เพียงแต่เขาควรประสบความสำเร็จและได้รับการยกย่องมากกว่านี้ ถ้าเขาไม่โดนอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายและโคนขาหนีบ รังควานอยู่ ตลอดการเล่นบอลอาชีพ

RIP เทรเวอร์ ฟรานซิส

JACKIE


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport