เดินหน้าล่า4แชมป์,หงส์ย้ำแค้นสิงห์! 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล สยบ เชลซี ซิวโทรฟี่คาราบาว

ลิเวอร์พูล ต้องออกแรงดวลแข้งกับ เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ซีซั่น 2023/24 ที่สนาม เวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ. ยาวเหยียดถึง 120 นาทีซ้ำรอยเหมือนเมื่อสองปีก่อนไม่มีผิด หากแต่ที่แตกต่างไปก็คือนัดนี้ หงส์แดง ไม่จำเป็นต้องอาศัยการดวลลูกโทษพิชิต สิงห์บลูส์ เมื่อมาได้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันคนเก่งโขกลูกเตะมุมตุงตาข่ายขณะที่เหลือเวลาอีกแค่สองนาทีเท่านั้นของการต่อเวลาพิเศษ ส่งผลให้ เร้ด แมชีน เพิ่มสถิติการครองแชมป์ ลีกคัพ เป็น 10 สมัย และแน่นอนว่าโอกาสคว้าสี่แชมป์ของทีมลูกหนังแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ในซีซั่นสุดท้ายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมันเริ่มต้นนับหนึ่งอย่างเป็นทางการแล้ว ณ บัดนี้

1. สิงห์ทีมเดิมบุกเจ๊าเรือ

เชลซี วางขุมกำลังชุดเดิมทั้ง 11 ตำแหน่งจากเกมล่าสุดที่บุกไปเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 1-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก 

สำหรับเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ทีมจากลอนดอนโชว์ฟอร์มได้ไม่เลวเนื่องจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงประตูทีมเก่าให้ สิงห์บลูส์ นำก่อนในท้ายครึ่งแรกแต่ เรือใบสีฟ้า มาได้ โรดรี้ กดตีเสมอก่อนหมดเวลาเจ็ดนาทีแบ่งแต้มให้เจ้าบ้านได้สำเร็จ

จากผลงานในเกมนี้ ส่งผลให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีมอาร์เจนไตน์วางใจในตัวลูกทีมชุดเดิมทั้งหมดด้วยเชื่อว่าจะต่อกรกับ ลิเวอร์พูล ได้ดีเฉกเช่นที่พวกเขาบุกไปสร้างความอึดอัดให้กับแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้

2. หงส์ตามคาดปรับสองแนวรับ

ลิเวอร์พูล มีการปรับโผสองจุดตามความคาดหมายจากเกมลีกนัดเปิด แอนฟิลด์ ยำใหญ่ ลูตัน 4-1

หงส์แดง ลงบู๊เกมนี้โดยไม่มีสองหัวหอกทั้ง โม ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ ที่บาดเจ็บจนพลาดเกมบู๊กับ เดอะ แฮตเตอร์ส และปรับเปลี่ยนสองขุนพลในแผงหลังให้ อิบราฮิมา โกนาเต้ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน คืนตำแหน่งตัวจริงแทน จาเรลล์ ควานซาห์ กับ โจ โกเมซ

ขณะเดียวกัน เครื่องจักรสีแดง ใช้งานนักเตะที่มีอายุไม่เกิน 21 ปีลงเล่นเกมชิงชนะเลิศมากถึงสามรายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยเนื่องจาก ไรอัน กราเฟนแบร์ค , คอเนอร์ แบรดลีย์ และ  ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ มีอายุ 21 , 20 และ 20 ปีตามลำดับ

3. โรคเดี้ยงตามรังควานไม่หยุด

โรคเดี้ยงกับ ลิเวอร์พูล กลายเป็นของคู่กันไปซะแล้วสำหรับซีซั่นนี้โดยไม่เว้นแม้กระทั่งนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ซึ่ง หงส์แดง มีอันต้องเสีย ไรอัน กราเฟนแบร์ค เพิ่มอีกรายในช่วงกลางครึ่งแรกจากจังหวะโดน มอยเซส ไกเซโด้ เข้ามายันใส่ข้อเท้าซ้ายจนล้มเจ็บและไม่อาจเล่นต่อได้ชนิดที่ดาวเตะทีมชาติ ฮอลแลนด์ ถูกหามลงเปลด้วยหลังเจ้าตัวให้สัญญาณมือว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวออก

มองดูแล้ว อดีตขุนพลทีม บาเยิร์น มิวนิค ไม่แคล้วต้องขึ้นบัญชีเดี้ยงยาวอีกรายค่อนข้างแน่ และมันย่อมส่งผลร้ายต่อ หงส์แดง กับการพยายามไล่ล่าคว้าสี่แชมป์ หรือจะแชมป์รายการไหนก็ตามเนื่องจากกำลังพลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เริ่มลดน้อยถอยลงไปจนถึงขนาดหลายเกมหลัง หงส์แดง ต้องใส่ชื่อนักเตะอายุน้อยนั่งเป็นตัวสำรองที่ข้างสนามหลายราย

ถึงตอนนี้ ลิเวอร์พูล ต้องภาวนาให้สตาร์ดังที่ล้มหมอนนอนเสื่อกันเป็นว่าเล่นรีบหายเจ็บกลับมาลงสนามโดยเร็วเพราะไม่เช่นนั้นไลน์อัพในแต่ละเกมของทีมก็จะต้องเป็นนักเตะหน้าเดิมๆเนื่องจากบอสไม่อาจโรเตชั่นทีมได้มากนัก และหากเป็นอย่างนี้ก็เป็นไปได้ว่าปัญหาบาดเจ็บอาจรังควานพวกเขาเพิ่มเติมมากขึ้นอีกในเมื่อนักเตะหลายรายจำเป็นต้องลงเล่นกันอย่างถี่ยิบชนิดที่แทบไม่ได้พักแข้งพักขา

ขณะเดียวกัน หลังเสียนักเตะที่เดี้ยงเพิ่มเป็นรายที่ 12 ไกเซโด้ ที่โดนกองเชียร์ เดอะ ค็อป โห่ใส่ตั้งแต่ต้นเกมเนื่องจากบอกปัดข้อเสนอโดยเลือกย้ายไปซบ เชลซี จะต้องถูกแฟนบอล เร้ด แมชีน หมายหัวหนักขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าหลังทำให้พวกเขาต้องเสีย กราเฟนแบร์ค เพิ่มแม้อดีตกองกลางทีม ไบรท์ตัน จะไม่ได้มีเจตนาก็ตาม

4. วีเออาร์โหดมันฮา

เป็นเรื่องธรรมดาที่นัดชิงชนะเลิศ ผู้ตัดสินไม่อยากก่อความผิดพลาดให้เป็นตราบาปของตัวเองไปตลอดชีวิตเนื่องจากแต่ละประตูที่เกิดขึ้นมีสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตายให้กับทั้งสองทีมได้โดยเฉพาะในเกมที่มีแชมป์เป็นเดิมพัน

ในรายของ เชลซี แน่นอนว่า  โปเช็ตติโน่ หวังซิวแชมป์ในเมืองผู้ดีเป็นรายการแรกของเขาหลังเคยจับงานกุมบังเหียน เซาธ์แฮมป์ตัน กับ สเปอร์ส มาก่อน แต่ยังไม่มีแชมป์ติดมือ แถมเกมนี้เป็นโอกาสที่เศรษฐีลอนดอนจะมอบโทรฟี่ใบแรกให้กับ ท็อดด์ โบลีห์ เจ้าของคนปัจจุบันด้วย

ด้าน ลิเวอร์พูล ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านักเตะกระหายคว้าแชมป์ทั้งสี่รายการเพื่อบอกลา คล็อปป์ อย่างยิ่งใหญ่ และหากได้แชมป์ คาราบาวคัพ พวกเขาก็จะมีความฮึกเหิมมากขึ้นต่อการเดินหน้าซิวถ้วยอีกสามใบที่เหลืออยู่

ในมุมของผู้ตัดสิน ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้พวกเขามีวีเออาร์เป็นตัวช่วยแล้ว ดังนั้นทุกประตูที่อุบัติขึ้นจึงหนีไม่พ้นต้องมีการเช็กกันอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อป้องกันความผิดพลาดอย่างประตูแรกที่ เชลซี ออกนำจากฝีเท้าของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อดีตปีกทีม ลิเวอร์พูล ก็ถูกโมฆะจากจังหวะที่ นิโคลัส แจ็คสัน ล้ำหน้าแค่เส้นขนก่อนผ่านบอล

ด้วยเหตุนี้ ในเมื่อ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โขกลูกฟรีคิกตุงตาข่ายในครึ่งหลัง การเช็กวีเออาร์จึงถูกนำมาใช้เช่นกัน และปรากฏว่า วาตารุ เอ็นโด ถูกระบุว่ายืนขวางทางเข้าหาบอลของ ลีวาย โควิลล์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีม เชลซี เพื่อเปิดทางสะดวกให้กัปตันเจ้าเวหาใช้ลูกเก่งโหม่งพังประตูจึงถือเป็นการทำฟาวล์

5. ทีเด็ดลูกเซ็ตพีซนำชัย

หลังเสมอกันในเวลาปกติซ้ำรอยเหมือนนัดชิงชนะเลิศถ้วยใบนี้เมื่อสองปีก่อน เคลเลเฮอร์ ไม่ต้องลุ้นออกแรงเซฟลูกโทษตัดสินเกมซ้ำอีกรอบเมื่อ ฟาน ไดค์ โขกลูกเตะมุมตุงตาข่ายนำชัยให้ทีมจนได้ขณะที่เหลือเวลาอีกแค่สองนาทีของช่วงต่อเวลาพิเศษ

ก่อนหน้านี้ กัปตัน เร้ด แมชีน ขวิดบอลผ่าน ยอร์เย เปโตรวิช นายทวาร สิงห์บลูส์ ไปได้แล้ว แต่ถูกวีเออาร์ริบ ทว่าคราวนี้ประตูของสตาร์ทีมชาติ ฮอลแลนด์ บริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ซึ่งข้อกังขา และเป็นอีกครั้งที่ทีมจาก แอนฟิลด์ แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีทีเด็ดในลูกเซ็ตพีซที่สามารถสร้างความเจ็บปวดให้ฝ่ายตรงข้ามได้ในเวลาโอกาสเปิดกว้างให้โดยเฉพาะลูกโหม่งจาก ฟาน ไดค์ หากเขาได้ลองเทคตัวโถมเข้าหาบอลแล้วก็มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะลอยเข้าปะทะตาข่ายเนื่องจากดาวเตะชาวเมืองกังหันลมมักงัดลูกเก่งลูกนี้ออกมาช่วยทีมได้เสมอในยามคับขัน อีกทั้งไม่น่าจะเกินจริงแต่อยากใดหากเขาจะได้คะแนนความสามารถนัดนี้แบบเพอร์เฟคเทน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเมื่อมันเป็นประตูชัยพาทีมคว้าแชมป์ ฟาน ไดค์ จึงได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปเชยชม และต้องบอกว่าสมควรแล้วที่รางวัลชิ้นนี้จะตกอยู่กับเขาจากสถิติดังนี้

120 สัมผัสบอล , 2 ครั้งในกรอบเขตโทษคู่แข่ง

92/101 ผ่านบอลสำเร็จ

7/10 ชนะการดวล

7 สกัดบอลอันตราย

พร้อมกันนี้ ฟาน ไดค์ ยังได้ชื่อว่าเป็นนักเตะรายที่สี่ที่ได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ นัดชิงถ้วย ลีกคัพ สองหนด้วยต่อจาก เบน ฟอสเตอร์ ,จอห์น เทอร์รี่ และ แวงซ็องต์ กอมปานี

อย่างไรก็ดี นอกจาก ฟาน ไดค์ แล้ว ลิเวอร์พูล ยังมีนักเตะอีกรายที่สมควรได้รับการยกย่องเช่นกันซึ่งได้แก่ เคลเลเฮอร์ นั่นเองหลังจากเขาแสดงให้เห็นว่ามีความเหนียวหนึบไม่เป็นรอง อลิสซง แต่อย่างใด

นั่นเป็นเพราะว่ารวมแล้วในเกมนี้ เคลเลเฮอร์ ออกแรงเซฟลูกอันตรายได้มากถึง 9  ครั้งชนิดที่หลายครั้งในจำนวนนี้น่าจะเป็นประตูของ เชลซี ด้วยซ้ำ

และที่สำคัญ ในการต่อกรกับ สิงห์บลูส์ สองหนของเกมชิงถ้วย คาราบาวคัพ เคลเลเฮอร์ ไม่เสียประตูเลยแม้รวมแล้วทั้งสองเกม ทีมจากเมืองกรุงจะซัดบอลเข้ากรอบรวมทั้งสิ้น 13 ครั้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport