มีรีเพลย์มั้ย? เปิดกฎแข่งขัน เอฟเอ คัพ รอบ 4

ศึกฟุตบอลถ้วยเก่าแก่รายการ เอฟเอ คัพ เป็นที่รู้จักด้วยเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครกับนัดรีเพลย์ ย้ายวิกสนามแข่งขันกันใหม่หากจบด้วยผลเสมอ เช่นเดียวกับในรอบ 4 ซึ่งมีคิวบู๊ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

สำหรับรอบ 4 ฤดูกาล 2023/24 สโมสรยักษ์ใหญ่ทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างมีคิวพบคู่แข่งระดับต่ำดิวิชั่นในวันอาทิตย์ที่ 28 ม.ค. โดย "หงส์แดง" รับมือ นอริช ซิตี้ ทีมแชมเปี้ยนชิพ ขณะที่ "ปีศาจแดง" ยกพลเยือน นิวพอร์ท เคาน์ตี้ จากลีก ทู ซึ่งถือเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งกับทีมเหล่านี้ที่จะได้ลงสนามดวลแข้งระดับท็อป บวกรายได้เพิ่มจากการถ่ายทอดสด และยิ่งเหมือนโบนัสพิเศษหากสามารถยื้อไปเตะรีเพลย์อีกนัด

อย่างไรก็ตาม นับจากรอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็๋นต้นไป ถ้าเกมจบเสมอจะไม่มีรีเพลย์อีกต่อไป แต่จะตัดสินด้วยรูปแบบต่อเวลาพิเศษตามด้วยดวลจุดโทษหาผู้ชนะ ซึ่งกฎนี้มีการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่เมื่อปี 2018 ได้รับการตอบสนองในทิศทางบวกจากบรรดาผู้จัดการทีมท็อปไฟลท์ เนื่องด้วยช่วยลดหลั่นคิวแข่งชุกในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มท้ายฤดูกาลนั่นเอง

นอกจากนั้นนัดชิง เอฟเอ คัพ ในอดีตเคยยืดเยื้อแข่งรีเพลย์รวมทั้งสิ้น 14 ครั้ง ก่อนมีการเปลี่ยนกฎนับจากปี 1999 ถ้าคู่ชิงดำจบเสมอก็จะตัดสินด้วยการต่อเวลา/ยิงจุดโทษแทนที่ โดยถ้าจำกันได้ในรอบตัดเชือกปีนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ อาร์เซน่อล แบบสุดคลาสสิกในนัดรีเพลย์จากประตูชัยโซโล่ครึ่งสนามของ ไรอัน กิ๊กส์


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport