JK เข้าชิงอีกแล้ว ลิเวอร์พูล ลุ้นลีกคัพ สมัย10

สองครั้งรอบสามปี และถ้านับเฉพาะการคุมทีมลิเวอร์พูลตั้งแต่ปี 2015

JK พาทีมชิงฟุตบอลถ้วยครั้งล่าสุดนี้เป็นครั้งที่ 10

9ครั้งก่อนหน้านี้ เอฟเอ, ลีก คัพ, ช.ป.ล, ซุปเปอร์ คัพ, สโมสรโลก, ยูโรปา ลีก

แชมป์ 5 

รองแชมป์ 4 

สำหรับทีมชุดนี้คือ JK2.0 เข้าชิงถ้วยใบแรกจาก 4 ใบที่แอบลุ้น

โดยนักเตะชุดนี้หลายคนผ่านการคว้าแชมป์ทั้งแบบตัวหลักและตัวรอง เพียงแต่ทีมชุดนี้มีหลายคนที่อาจจะต้องค้นหาประสบการณ์แชมป์...

โดยเฉพาะดาวรุ่งทั้งหลาย

ยาร์เรล ควอนซาห์, คอร์เนอร์ แบรดลีย์, บ๊อบบี้ คล๊าร์ก รวมทั้งเด็กใหม่ ไรอัน กราเฟนแบร์ก, แม็คก้า, โคดี กัคโป....ดาร์วิน นูนเญซ ที่ยังไม่เคยได้แชมป์กับทีม

ถ้าถามว่า...อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ผ่านฟูแล่ม เข้าชิงชนะเลิศสมัยที่ 14 ในประวัติศาสตร์ ลีก คัพในชื่อ คาราบาว ลีก คัพ

คำตอบ...คงเป็นเรื่อง "ศักยภาพแนวลึก" ของทีม 

การมีนักเตะให้ใช้งานมากกว่า 15 คน ทั้งที่มีตัวเจ็บไม่น้อย แต่ยังสามารถดึงนักเตะชุดสองและดาวรุ่งลงมาเล่นช่วยพาทีมเจเค 2.0 ที่กำลังพัฒนาก้าวไปชิงชนะเลิศบอลถ้วยที่ถูกแฟนบอลบางทีมให้ฉายาว่า "มิคกี้ เมาส์ คัพ" อย่างยอดเยี่ยม

ทีมJK2.0 ในซีซั่นนี้ อาจมีพื้นฐานดีเพราะโครงสร้างแนวรับยังคงอยู่ แม้แดนกลางและแดนหน้าหายไปเกือบหมด

เฉพาะชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก เราไม่เห็นกลางและหน้า ยกเว้น โม ซาลาห์ คนเดียว

ส่วนแนวรับมีสอดแทรกมาแค่คนสองคน แต่ชุดหลักยังเป็นโครงสร้างที่เป็นพื้นฐานของทีมอยู่ 

บวกกับความกระหายของเลือดใหม่ที่ดึงเข้ามาในสองปีนี้ ส่งผลให้ทีมเจเค 2.0 มุ่งไปข้างหน้า

มองดูในรายชื่อทั้งลงก่อนและลงหลังเกมเสมอฟูแล่มล่าสุดนี้

5 คนอายุต่ำกว่า 21 ปี 

ยาร์เรล ควอนซาห์, คอร์เนอร์ แบรดลีย์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, บ๊อบบี คล๊าร์ก

คิดดูนะครับว่าเมื่อ 12 เดือนที่แล้ว ควอนซาห์ ถูกปล่อยยืมตัวที่บริสตอล โรเวอร์ส ทีมระดับลีกวัน ควอนซาห์ ลงเล่นเกมแรกโดน มอร์แคมป์ ยิงไป 5-1 

คอร์เนอร์ แบรดลีย์ ถูกส่งยืมเสริมกระดูกที่ โบลตัน ระดับลีกวัน ลงเล่นเกมแรกชนะ ฟอเรสต์ กรีน 1-0 

ผ่านไปหนึ่งปีวันนี้.....เขาคือตัวจริงรอบรองชนะเลิศนัดสอง คาราบาว ลีก คัพ มีส่วนช่วยส่งทีมเข้าชิงชนะเลิศ โดยเฉพาะลูกแอสซิสต์ ระยะไกลเกินครึ่งสนามของ ควอนซ่าห์ ที่เปิดบอลแถวๆครึ่งสนามฝั่งตัวเอง ข้ามจากขวามาซีกซ้ายให้ ลุยส์ ดิอาส ชิงจังหวะพักอกก่อนได้ประตูขึ้นนำ...

เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่หงส์ในวันหน้า....

อย่างไรก็ตาม....จุดแข็งคือทีมใหม่ที่มีทั้งเด็กดาวรุ่งและกลุ่มนักเตะที่พกพาความกระหาย มุ่งมั่น ลงสนาม พร้อมไล่ล่าความสำเร็จภายใต้ปรัชญาการเล่นบอลสไตล์ คล็อปป์ แต่จุดที่ต้องเสริมซึ่งยังคงเป็นจุดอ่อนที่เห็นได้ชัดจากเกมเสมอฟูแล่มล่าสุด...

นั่นคือ....เมื่อใดก็ตามที่ผ่อนการเพรสซิง หรืออาจปิดสวิทช์ เกเก้น เพรสซิง ลง เมื่อนั้นโอกาสเสียประตูเกิดขึ้นทันที นั่นรวมทั้งจังหวะเพรสแล้วคู่แข่งไม่ตาย ไม่จน แก้กลับมาโจมตีได้

แน่นอน ฟุตบอลไม่มีใครเพรสซิงได้ทั้งเกมและทั้งซีซั่นอยู่แล้ว หากแต่เมื่อใดที่ผ่อนการเพรสซิงลง เรื่องของการเล่นเพื่อดึงจังหวะของเกมไม่ให้คู่แข่ง เล่นบอลได้หรือได้เล่นเกมของตัวเอง ต้องมี

เรียกว่าต้องทำให้เกมนิ่งบ้าง จะมุทะลุอย่างเดียวไม่ได้ สังเกตเกมครึ่งหลังที่ แม้แย่งบอลได้ แต่ก็เสียบอลง่ายๆ กลายเป็นมวยวัดไปบ้างเป็นบางจังหวะ คือยังทำให้เกมกลับมานิ่งไม่ได้

ตรงนี้นี่คือจุดที่ต้องเรียนรู้และปรับปรุง ซึ่งเด็กหงส์กำลังอยู่ในแนวทางนั้น

โอเค ก่อนทิ้งท้ายคอลัมน์นี้...มันมีสถิติที่น่าสนใจในฟุตบอลรายการนี้ที่เชื่อมโยงกับหงส์แดง

ลิเวอร์พูลยิงประตูใน คาราบาว ลีก คัพปีนี้ 13 ลูก มันมีสถิติที่เคยเกิดขึ้นแล้วว่าถ้ายิงได้ตัวเลขประมาณนี้ "หงส์แดง" จะคว้าแชมป์ลีก คัพ

16 ลูก ; ยุค ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, สตีฟ แม็คมานามาน, เจมี เรดแนปป์ ซีซั่น1994-95 แชมป์ 

20 ลูก ; ยุค สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไมเคิล โอเว่น และ ฟาวเลอร์ ยังเล่น ซีซั่น 2000-01 แชมป์ 

13 ลูก ; ซีซั่น 2002-03 เจอร์ราร์ด , แดนนี เมอร์ฟีย์ แชมป์

14 ลูก ; เซอร์ เคนนี ดัลกลิช คุมทีม ซีซั่น 2011-12 สตีเวน เจอร์ราร์ด, หลุยส์ ซัวเรส, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นำทีม

ซีซั่นนี้ยิงไป 13 ลูก.....

เชลซี จะเป็นผู้ให้คำตอบว่าจะทำได้อีกหรือไม่

JACKIE