โค้ชปลา กล่าวต่อไปว่า  ในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 โววีนัมมีบรรจุชิงชัยทั้งสิ้น 30 อีเวนท์ ทั้งในประเภทต่อสู้ และเพอร์ฟอร์แมนซ์ (ร่ายรำ)  สำหรับไทยจะส่งนักกีฬาเข้าร่วม 12 คน แบ่งประเภทต่อสู้ 6 คน และประเภทเพอร์ฟอร์แมนซ์ 6 คน ซึ่งเป้าหมายของทีมหนนี้อยู่ที่ 3 เหรียญทอง ในประเภทต่อสู้ 2 อีเวนต์ และเพอร์ฟอร์แมนซ์ 1 อีเวนท์ ซึ่งก็หวังว่าจะแก้ตัวคว้าเหรียญทองให้ได้ หลังครั้งก่อนเข้าชิง 2 ประเภท แต่พลาดไป

"ในศึกปรีซีเกมส์ นักกีฬาส่วนใหญ่ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ คือนักกีฬาที่สมาคมจะใช้ในการแข่งขันซีเกมส์ และในรายการดังกล่าวก็มีถึง 7 ชาติที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วม ส่วนใหญ่ก็เป็นนักกีฬาชุดที่จะมาแข่งขันในซีเกมส์หนนี้ด้วย ซึ่งความหวังของเราอยู่ที่ในประเภทต่อสู้ ในรุ่น 65 กก.ชาย ซึ่งมี ชัยณรงค์ ยาวะโนภาส หรือ "ก้าวมงคล เพชรยินดีอะคาเดมี่" นักมวยไทยที่เพิ่งคว้าเหรียญทองในการแข่งขันปรีซีเกมส์ที่ผ่านมา รวมถึง เกศินี ทับไทร ต่อสู้รุ่น 60 กก.หญิง ซึ่งในครั้งก่อนที่ฮานอย ก็คว้าเหรียญเงินได้ด้วย นอกจากนี้ เรายังมีความหวังจาก ภูภกร วงษ์ธนะเชฐ ดาวรุ่งวัย 15 ปี  ที่เพิ่งคว้าเหรียญทองดูโอ้ในประเภทเพอร์ฟอร์แมนซ์ ศึกปรีซีเกมส์ที่ผ่านมา ซึ่งในทัวร์นาเมนต์จริง เจ้าตัวก็จะลงแข่งขันในประเภทเดี่ยว คู่ และทีมด้วย"

โค้ชปลา เผยทิ้งท้ายว่า หนนี้สมาคมมีการเตรียมความพร้อมที่ดีขึ้นกว่าในการแข่งขันที่เวียดนามก็ว่าได้ โดยได้โค้ชชาวเวียดนาม 2 คน และสปป.ลาว 2 คน ที่มีความเชี่ยวชาญในกีฬาโววีนัมมาติวเข้มเสริมจุดอ่อน สร้างจุดแข็งให้กับนักกีฬาไทยตลอดที่มีการเก็บตัว ซึ่งก็ต่างจากครั้งก่อน ที่ต้องติวและสอนกันผ่านการวิดีโอคอล เพราะยังเป็นช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยยกระดับ และพาทีมโววีนัมมีลุ้นที่จะทำสำเร็จ