คุยกับ "ปอย" ธัญลักษณ์ ชมภู คุณหมอสาวสวยนักวิ่งเทรล

เชื่อว่าหนุ่มๆหรือแฟนกีฬาน่าจะคุ้นหน้ารวมถึงรู้จักกับ "ปอย" ธัญลักษณ์ ชมภู หรือ "หมอปอย" คุณหมอนักวิ่งสาวสวยรายนี้เป็นอย่างดี ความสดใสน่ารักของ ทำให้ชื่อของ "หมอปอย" วิสัญญีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญการให้ยาชาและยาสลบ ที่ชื่นชอบการวิ่ง เป็นที่รู้จักและพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์เมื่อ 5-6 ปีก่อน และกลายเป็นอีกหนึ่งอินฟลูเอนเซอร์ด้านการออกกำลังกายที่มีผู้ติดตามอยู่บนแพลตฟอร์มจำนวนมาก

ทั้งนี้ทีมข่าวกีฬาสยามและสยามสปอร์ต มีโอกาสได้พูดคุยกับ "หมอปอย" ซึ่งเวลานี้ เจ้าตัวยังยืนยันว่ายังคงชื่นชอบและสนุกกับการออกกำลังกาย ที่สำคัญเริ่มสนุกและมีความสุขกับได้ลงวิ่งเทรล ซึ่งนี่ถือเป็นกีฬาและการออกกำลังกายที่ท้าทายความสามารถของตนเองเลยทีเดียวในเวลานี้

ช่วยแนะนำตัวเองหน่อย ? 

หมอปอย : "ชื่อ ธัญลักษณ์ ชมภู ชื่อเล่น ปอย ค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นวิสัญญีแพทย์ หรือ หมอดมยา อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ"

หลายคนอาจไม่รู้จักงานและหน้าที่ของหมอปอยมากเท่าไหร่นัก อยากให้ช่วยเล่าถึงหน้าที่และงานนี้หน่อย ? 

หมอปอย : "เป็นแพทย์ที่อยู่ในห้องผ่าตัดค่ะ หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคย เพราะจะไม่เจอปอยในห้องตรวจ เราจะเจอกันเฉพาะตอนมาผ่าตัดเท่านั้นค่ะ หน้าที่ก็คือเป็นหมอผู้ให้ยาระงับความรู้สึกระหว่างผ่าตัดและดูแลให้การผ่าตัดราบรื่นตั้งแต่เริ่มจนจบประมาณนี้ค่ะ"

ช่วงนี้ยังออกกำลังกายด้วยการวิ่งเป็นประจำไหม ? 

หมอปอย : "ใช่ค่ะ คือในหนึ่งปีเนี่ยจะมี เซสชั่น การออกกำลังกาย ตอนนี้เป็นช่วงออฟซีซั่น ก็คือจะวิ่งน้อยลงค่ะ แล้วก็จะเน้นเวทกับคาร์ดิโอ แล้วก็บาลานซ์ด้วย จะมีการเล่นโยคะ เพื่อลดอาการบาดเจ็บจากการออกกำลัง ร่วมด้วย  ส่วนช่วงในซีซั่น ก็คือช่วงที่มีการแข่งขัน ช่วงนั้นก็จะเน้นการวิ่งเก็บระยะและเก็บความชันตามเป้าหมายการแข่ง ณ ตอนนั้นๆค่ะ"

ช่วงหลังๆแฟนๆที่ติดตาม เริ่มเห็นหมอปอยลงแข่งขันวิ่งเทรลมากขึ้น อยากให้เล่าหน่อยว่าเริ่มต้นมาวิ่งเทรลได้อย่างไร ?

หมอปอย : "จริงๆเริ่มต้นกับเพื่อนๆ ทีแรกตั้งใจว่าจะไปกันขำๆ แต่พอไปเทรลครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม รู้สึกเริ่มชอบ ไม่รู้ว่าหลงรักเต็มหัวใจไปตอนไหน มารู้ตัวอีกที ก็หยุดไม่ได้แล้วค่ะ พอเริ่มรู้สึกว่าฟิตขึ้น เลยลองลงสนามแข่งขันระยะสั้นประมาณ 20-30 กิโลเมตร แล้วค่อยๆเพิ่มระยะมาเรื่อยๆ จนเพิ่งจะจบ 100 กม.เป็นครั้งแรกไปเมื่อปีที่แล้ว ปอยว่ามันเหมือนเป็นการทดสอบตัวเอง เหมือนเราอ่านหนังสือแล้วไปสอบ และการลงแข่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการตั้งเป้าว่าเราต้องซ้อมไปในทิศทางไหน"

วางโปรแกรมซ้อมก่อนจะลงสนามอย่างไร และ มองว่าเสน่ห์และความท้าทายของการวิ่งเทรลอยู่ตรงไหน ? 

หมอปอย : "โปรแกรมการซ้อมส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมตามใจฉันค่ะ  (55555)  ส่วนตัวไม่ได้ตึงมาก ทำที่มีความสุขทำที่รู้สึกว่าพอดีกับตัวเองและร่างกาย คือต้องแข็งแรงพอที่จะวิ่งได้แบบไม่บาดเจ็บ ความท้าทาย ของสนามเทรลคือคาดเดายาก และเราไม่รู้ว่าจะต้องไปเจอกับอะไรในสนาม แม้เป็นสนามที่เคยไปมา แต่ถ้าฝนตกหรือแดดร้อนมากๆ อากาศเอ็กซ์ตรีมมากๆ มันอาจจะกลายเป็นสนามที่เราไม่คุ้นเคยไปเลยก็ได้"

"อีกหนึ่งความท้าทาย คือ การบริหารจัดการพลังงาน ปอยรู้สึกว่ามันเหมือนการเล่นเกม มันต่างกับการวิ่งถนน คือเวลาที่อยู่ในสนามเทรล จะใช้เวลาเวลานานหลายชั่วโมงมาก ยกตัวอย่างแค่ 50 กิโลเมตร อาจใช้เวลานานถึง 10 กว่าชั่วโมง ส่วน 100 กิโลเมตร อาจต้องใช้เวลาถึง 20 กว่าชั่วโมง ซึ่งระหว่างนั้นเราต้องบริหารจัดการพลังงานเกลือแร่ให้เพียงพอ ที่จะไปต่อจนถึงเส้นชัย ต้องศึกษาภูมิประเทศแผนที่เส้นทางการวิ่งร่วมในการวางแผนด้วยค่ะ"

ลงแข่งขันมานานเท่าไหร่แล้ว จำได้ไหมว่าลงไปกี่รายการแล้ว ? 

หมอปอย : "น่าจะเริ่มวิ่งมาประมาณ 7-8 ปีค่ะ แต่ถ้าเริ่มวิ่งเทรลจริงๆประมาณ 3 ปีเองค่ะ จำไม่ได้ว่ากี่รายการแต่ไม่เยอะค่ะปีนึงน่าจะประมาณ 9 ถึง 10 รายการ ประมาณนี้"

มีรายการเทรลไหนที่ประทับใจไหม และมีนักกีฬาคนไหนไหมที่เรายึดเป็นต้นแบบ ? 

หมอปอย : "สนามที่ประทับใจน่าจะเป็นงานเอไอเอ ระยะ 100 กิโลเมตร ของปีที่ผ่านมา เพราะเป็นการวิ่งเป็นทีมค่ะ เราไปด้วยกัน 8 คนเหนื่อยด้วยกัน กินด้วยกัน แชร์ของกัน ช่วยเหลือกันและสุดท้ายวิ่งเข้าเส้นมาพร้อมกันค่ะ"

"ปกติเป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว และการวิ่งเทรลคือการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างหนึ่งของเราเท่านั้น เลยไม่ได้มองหาต้นแบบหรือไอดอลอะไรแบบนั้นเลยค่ะ เพราะเป้าหมายเราคือออกกำลังกายให้มีความสุข ซึ่งความสุข เราก็คงไม่เหมือนคนอื่น เป้าหมายไม่ใช่ถ้วยรางวัล หรือผลการแข่งขันใดๆ แต่ถ้าสนามไหนติดถ้วยก็ถือว่าเป็นสิ่งชุบชูจิตใจเท่านั้นค่ะ"

มีวางแผนไปแข่งที่ไหนอีกไหม ทั้งการแข่งเทรลและวิ่ง ? 

หมอปอย : "ตอนนี้แทบจะไม่ลงแข่งวิ่งถนนเลยค่ะ เข้าเทรลอย่างเดียวเลย เหมือนเจอสิ่งที่ใช่ ตารางแข่งเรซ A ต่อไปคือการแข่งเทรลระยะ  100 กิโลเมตร ในงานโป่งแยงเทรล ประมาณเดือนต.ค.นี้ ค่ะ"

เรื่องของการซ้อมหรือออกกำลังในแต่ละวันและแต่ละสัปดาห์ ให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ?

หมอปอย : "สิ่งที่ปอยให้ความสำคัญที่สุด คือความสม่ำเสมอค่ะ ปกติ 1 สัปดาห์ ออกกำลังกายประมาณ 5-6 วัน เฉลี่ยวันละ 1-2 ชั่วโมง เวทอาทิตย์ละ 2 วัน โยคะหรือพิลาทิส อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ที่เหลือคือการคาร์ดิโอ อาจจะเล่นคลาส Hiit หรือ วิ่งแล้วแต่สะดวกค่ะ"

เรื่องสภาพอากาศในเวลานี้ เมืองไทยมีฝุ่นค่อนข้างเยอะ หมอปอย มีวิธีการรับมืออย่างไร ? 

หมอปอย : "ทุกวันนี้ ปอย เช็คค่าฝุ่นทุกวันค่ะ และเชียงใหม่ฝุ่นก็ขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวเหลืองเดี๋ยวม่วง ก็ถ้าค่าฝุ่นยังอยู่ในช่วงที่ดี ถึงจะออกกลางแจ้ง ไม่จำเป็นก็เล่นในยิมได้อยู่แล้ว ปอยมองว่าเรายังมีเวลาอีกมากไม่รีบค่ะ ส่วนใครที่กำลังจะเริ่มมาออกกำลังกาย ไม่ต้องลังเลเลยค่ะ เพราะสิ่งที่จะได้กลับมามันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม อาจเริ่มต้นด้วยกิจกรรมที่เราชอบ อย่างปอย ปกติชอบเล่นคลาสที่มีเสียงเพลงก็เริ่มจากตรงนั้น เอาที่เราทำแล้วไม่เบื่อ พอร่างกายเริ่มแข็งแรงขึ้นเราจะออกกำลังกายสนุกขึ้น และประเภทการออกกำลังกายก็จะเริ่มกว้างขึ้น วันไหนที่เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในทางที่ดีขึ้น จะเป็นเราเองที่ไม่อยากหยุดออกกำลังกายเลยค่ะ"


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport