ผู้ว่ากกท.เผยแผนการทำงานสมัย2หนุนใช้วิทยาศาสตร์กีฬาพัฒนาวงการเต็มขั้น

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยแผนงานสำคัญในวาระการทำงานสมัยที่ 2 มุ่งเน้นการใช้วิทยาศาสตร์กีฬาในวงการกีฬาไทยเต็มรูปแบบเพื่อให้นักกีฬาได้รับประโยชน์สูงสุดในการแข่งขันระดับนานาชาติ จนไปถึงโอลิมปิก 2024 พร้อมกระจายไปสู่ระดับภูมิภาคทั่วประเทศด้วย ชี้กกท.เตรียมเปิดประมูลร่วมลงทุนกับภาคเอกชน เพื่อเดินหน้าโครงการ Smart Nationnal Sport Park ที่หัวหมาก ให้เป็นดิจิทัลสเตเดี้ยม และมีศูนย์กีฬาแบบครบวงจร

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการ กีฬาแห่งประเทศไทย ออกมาเผยถึงแผนงานในการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการกกท.ในวาระที่ 2 อีก 4 ปี ว่า ตนเองมีหลายแผนงานจะดำเนินการและสานต่อให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ที่สำคัญๆ คือการพัฒนาวิทยาศาสตร์กีฬาให้ต่อเนื่อง โดยหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง อีเวนท์การเริ่มกลับมามีมากขึ้น นักกีฬาต้องแข่งขันต่อเนื่อง และไทยก็มีเป้าหมายชัดเจนในการที่จะประสบความสำเร็จในโอลิมปิก 2024 ดังนั้นการใช้วิทยาศาสตร์กีฬาเพื่อดูแลและพัฒนานักกีฬาในช่วงเวลาหลังจากนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ

 "ตามนโยบายของรัฐบาลไทย และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานบอร์ดกกท. ก็ได้กำชับว่าให้พัฒนาเรื่องวิทยาศาสตร์กีฬาอยู่เสมอ ทั้งเรื่องของบุคลากรหรืออุปกรณ์ รวมไปถึงการเพิ่มและกระจายศูนย์วิทยาศาตร์กีฬาไปตามศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติที่ได้มาตรฐานไปตามภูมิภาคต่างๆเพื่อให้เกิดความทัดเทียมมากที่สุด ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ต่อนักกีฬาทีมชาติไทยที่ฝึกซ้อมอยู่ในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงนักกีฬาของแต่ละจังหวัดนั้นๆและใกล้เคียง ก็จะได้ประโยชน์เรื่องนี้ในการพัฒนาตัวเองด้วย"

 "ที่สำคัญอีกเรื่อง คือ กกท.กำลังจะประมูลร่วมทุนกับภาคเอกชน เพื่อเดินหน้าโครงการ Smart Nationnal Sport Park ให้เป็นดิจิทัลสเตเดี้ยม ที่ครบทั้งศูนย์ฝึกกีฬาครบวงจรทั้งบนและทางน้ำ (กีฬาว่ายน้ำ) ที่เป็นเทรนนิ่งเซนเตอร์ที่เต็มรูปแบบ โดยเริ่มจากที่กกท.หัวหมาก ซึ่งตรงนี้ที่ผ่านมาในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาในสมัยการทำงานของผม มีความยุ่งยากพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องเงินทุนที่ต้องใช้จำนวนมาก จึงได้มีการแก้ไขระเบียบและกฏเกณฑ์เพื่อให้เดินหน้าโครงการใหญ่นี้ ที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับวงการกีฬาไทยในทุกระดับนี้ให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งการร่วมทุนกับภาคเอกชน ก็จะช่วยทำให้ช่วยเซฟงบประมาณของแผ่นดินไปได้พอสมควร" ดร.ก้องศักด กล่าวทิ้งท้าย


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport