ไทยวางงบจัดเอเชียนอินดอร์ฯ1.2พันล้าน"ดร.ก้อง"เชื่อปลุกกระแสกีฬา

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าของการแข่งขันศึกเอเชียนอินดอร์เเละมาเชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่จังหวัดชลบุรี และ กรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 21-30 พ.ค.2566 ว่า เวลานี้การเตรียมความพร้อมทุกฝ่ายมีความคืบหน้าอย่างเป็นระบบ ทั้งสนามในความรู้แลของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และจังหวัดชลบุรี รวมไปถึงการประสานงานต่างๆกับทางกรุงเทพฯ ก็เป็นไปด้วยความราบรื่นไร้ปัญหาใดๆ

ผู้ว่ากกท.เผยว่า หากมองจากตรงนี้ เชื่อว่าทุกด้าน พร้อมเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว และจะพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนถึงวันแข่งขันอย่างแน่นอน “ส่วนเรื่องงบประมาณ ที่จะต้องสำเสนอไปให้รัฐบาลอนุมัตินั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการร่างระเบียบการใช้เงินต่างๆ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นก็จะส่งต่อให้คณะกรรมการซึ่งมีท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธานในการพิจารณื จากนั้นก็จะให้รัฐบาลอนุมัติงบประมาณลงมา ซึ่งคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากเป็นการใช้งบประมาณที่คุ้มค่า เพราะมีนักกีฬากว่า 40 ประเทศ ที่จะเดินทางมาร่วมแข่งขัน และครั้งนี้ประเทศไทยยังเพิ่มชนิดกีฬายอดนิยมของคนไทยอย่างวอลเลย์บอลเข้าไป ทำให้การแข่งขันยิ่งคึกคักยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน และจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาชมและเชียร์มากยิ่งขึ้น

ผู้ว่าการ กกท. ยังกล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องงบประมาณคาดว่าจะอยู่ราวๆ 1,000 - 1,200 ล้านบาท ซึ่งหากมองจากตัวเงินนั้นถือว่าน้อย แต่เชื่อว่าสามารถบริหารจัดการได้ สามารถคุมงบให้อยู่ได้ แต่จะต้องไม่ลดมาตรฐานในการจัดการแข่งขันลง 

สำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์เเละมาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่จังหวัดชลบุรี และ กรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 21-30 พ.ค. 2566 มี 33 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กีฬาในร่ม, คิวสปอร์ต, โบว์ลิ่ง, ลีลาศ, หมากรุก, ฟุตซอล, โรลเลอร์สปอร์ต, ปีนหน้าผา, ว่ายน้ำระยะสั้น, มวย, ยูยิตสู, จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์, ตะกร้อลอดห่วง/เซปักตะกร้อ, คูราช, ฟลอร์บอล, เนตบอล, เทควันโด, ฮอกกี้ในร่ม, คาราเต้, อีสปอร์ต, แบดมินตัน, ปันจักสีลัต, เชียร์ลีดดิ้ง, แซมโบ, เรือพายในร่ม, วอลเลย์บอล, บาสเกตบอล 3 คน, มวยปล้ำ, คิกบ็อกซิ่ง, ฟันดาบ, กาบัดดี้, โรลเลอร์สกี และ ยกน้ำหนัก โดยมี เทคบอล และ แอร์สปอร์ต (โดรนในร่ม) เป็นกีฬาสาธิต



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport