"Santa Cruz" เสือภูเขาในดวงใจใครหลายๆ คน...ต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดา!

คุณมีสิ่งของที่หมายมั่นปั้นมือว่า ถ้ามีโอกาสสักครั้ง ก็อยากเป็นเจ้าของสิ่งนั้นไหมครับ สำหรับคนชื่นชอบ และรักการปั่นจักรยานก็เช่นกัน โดยเฉพาะคนที่รักธรรมชาติ ชอบความตื่นเต้นเร้าใจ ชอบเข้าป่า ลุยทางแทรค “จักรยานเสือภูเขา” คือคำตอบ ...แต่จะเป็นคันไหนล่ะ ผมเองก็มีจักรยานเสือภูเขาในดวงใจเหมือนกัน ตามมาดูกันครับว่าคือคันไหน

จักรยานหลายคัน มีหน้าตาและจัดอยู่ในหมวดหมู่ของเสือภูเขาก็จริง แต่หลายคันก็ไม่ได้เหมาะสำหรับการขี่ในป่า ลุยทางซิงเกิ้ลแทรค ที่ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านำไปขี่ในทางประเภท Trail ธรรมชาติ อาจเกิดอันตรายทั้งตัวผู้ขี่ และเกิดความเสียหายให้กับจักรยานได้ ก็เห็นกันมาเยอะแล้ว 

Mountain Bike Legend

Santa Cruz คือแบรนด์จักรยานชั้นนำระดับโลกจากอเมริกา นักแข่งสาย Downhill, Enduro ทั่วโลกใช้กันเยอะมาก ก่อตั้งมาแล้ว 30 ปี ทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของเสือภูเขาอยู่ จาก Tazmon เสือภูเขารุ่นแรกของ Santa Cruz ซึ่งเป็นรุ่นแรกของโลกที่มี Full-suspension โดยใช้เทคโนโลยี Single Pivot และจากวันนั้น (ปี ค.ศ. 1994) มาถึงวันนี้ คือเทคโนโลยี Virtual Pivot Point (VPP) ผมก็ได้มีโอกาสลองขี่ Santa Cruz รุ่น 5010 ซึ่งรุ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่ม Trail Bike ด้วยการออกแบบให้มีช่วงยุบ 140mm. สำหรับโช้คหน้า และ 130mm. สำหรับโช้คกลาง (ที่ตัวเฟรม) รัดด้วยยางขนาด 27.5x2.4” ถ้าเราดูระยะยุบทั้งหน้าและหลัง ก็ถือว่ากำลังสนุก ไปได้ทุกที่ ทั้ง Single Track และ Trial ธรรมชาติ ซึ่งเสือภูเขาส่วนใหญ่ที่วางขายกันทั่วไป มักจัดอยู่ในประเภท XC Cross Country ใช้โช้คหน้าระยะยุบ 100 และ 120mm. ที่จริงก็พอเพียงกับการปั่นทั่วไป ลุยทางกรวด ป่าละเมาะ ริมธาร แต่ถ้านำไปใช้ในทางป่า ฝ่าอุปสรรค เช่น หินลอย รากไม้ ร่องน้ำ การที่เราได้ระยะยุบเพิ่มขึ้นอีกนิด ก็จะเป็นการช่วยทำให้เราควบคุมจักรยานได้ดีขึ้น สนุกขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง 

ทดสอบลงสนามจริง

ก่อนเข้าสู่เส้นทาง XC ผมต้องปั่น 5010 คันนี้ ไปบนถนนลาดยาง ในระยะทางราวๆ 7-8 กิโลเมตร เรียกว่ากำลังดีในการทดสอบทางถนนว่าจะเป็นยังไง ผลที่ได้คือ ผมก็ไม่ได้แปลกใจว่ามันต้องมีอาการยวบยาบบ้าง (Bobbing) เมื่อเรากดบันไดหนักๆ ซึ่งเป็นปกติของเสือภูเขา Full-Sus แต่เมื่อผมปรับโช้คให้ยุบน้อย คืนไว อาการยวบก็ยังเหลืออยู่แต่เรียกว่าน้อย วิธีแก้อยู่ที่เทคนิคการปั่น โดยเราต้องปรับมาใช้วิธีควงขาแบบเสือหมอบ ก็จะลดอาการ Bobbing ลงไปได้ 

เมื่อเริ่มเข้า Singl Track ความรู้สึกเก่าๆ สมัยที่ใช้ Full-Sus XC กลับมาเต็มๆ ความปราดเปรียว ความคล่องตัว การควบคุม ถือว่ายอดเยี่ยม ไม่นึกว่า Santa Cruz 5010 จะทำให้ดีขนาดนี้ โดยเฉพาะการควบคุมที่เฉียบคมมาก ซึ่งผมคิดส่วนหนึ่งมาจาก Geometry การออกแบบเฟรมที่ทำให้เราควบคุมได้ง่าย และการใช้แฮนด์ที่กว้างและสเต็มที่สั้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนซึ่งกันและกัน

คนเรามักจะตื่นเต้นกับประสบการณ์ครั้งแรก ผมเองก็เช่นกัน เมื่อต้องปั่นจักรยานลงเขาชันในทางแทรคที่ไม่เคยปั่นมาก่อน ผมปรับรีบาวน์ของโช้คทั้ง 2 ตัวให้มาอยู่ค่ากลางๆ นิ้วชี้สองข้างแตะเบรคเบาๆ ที่เหลือแล้วแต่กุศลกรรม แต่สติยังตั้งมั่น แล้วผมก็ปล่อยจักรยานไหลลงเขาไป....ผลคือ สายลมเย็นสบาย ความรู้สึกที่นิ่งและมั่นคงของจักรยานคันนี้ มันทำให้ผมมั่นใจ เพราะควบคุมรถง่ายมาก นิ่งมาก แม้บางช่วงล้อจะลอยจากพื้นดินก็ยังเอาอยู่ แต่ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากยาง Maxxis Minion DHF ขนาด 27.5x2.4” นั่นเอง เพราะเป็นยางขึ้นชื่อเรื่องการยึดเกาะพื้นผิวได้ดีมาก

ปั่นจบทริปราวๆ 40 กิโลเมตร ผมหายแปลกใจว่าทำไมแชมป์โลกและนักปั่นหลายๆ คน เฉพาะเจาะจงเลือกใช้แต่ Santa Cruz เท่านั้น คุณเองก็อย่าเชื่อผมจนกว่าจะได้ลอง แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าถ้าได้ลองแล้ว คุณจะไม่ไปยี่ห้อไหนอีก

เรื่อง: พัสกร ปลอดโปร่ง



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport