ไทยขยี้อินโดฯเปิดหัวชูตฟีบ้าเอเชีย,"เฮียต่าย"ปลื้มแฟนแห่เชียร์ล้นอาคารนิมิบุตร

ทัพบาสเกตบอลชายทีมชาติไทยฟอร์มสุดสะเด่า เปิดบ้านอาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ขยี้ทีมเยือนอินโดนีเซีย 73-56 คว้า 2 คะแนนในเกมแรก ของรอบคัดเลือกรอบที่สาม กลุ่มเอ ศึกฟีบ้า เอเชีย คัพ 2025 ควอลิฟายเออร์ส “เฮียต่าย" ประมุขยัดห่วงไทยทึ่ง คนดูแห่ชมทะลักสนามมากที่สุดในรอบกว่า 20 ปี พร้อมจัดการมอบรางวัลอัดฉีดนักกีฬาและโค้ชหลายหมื่นเป็นการสดุดีผลงาน ประกาศหากเซอร์ไพรส์โค่นเกาหลีใต้เกมต่อไปได้อัดฉีดให้อีกหลายแสน

การแข่งขันบาสเกตบอล รายการ "ฟีบ้า เอเชีย คัพ 2025 ควอลิฟายเออร์ส" ซึ่งเป็นการแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อจะหาตัวแทนของแต่ละกลุ่มผ่านเข้าสู่รอบต่อไปในการเป็นตัวแทนทวีปไปแข่งขันชิงแชมป์โลก โดยการชิงชัยรอบนี้เป็นรอบคัดเลือกรอบที่สาม ซึ่งทีมยัดห่วงหนุ่มไทยสามารถผ่านการคัดเลือกมาได้ในสองรอบแรก และรอบนี้ไทยอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้ และ อินโดนีเซีย แข่งขันแบบพบกันหมดเหย้า-เยือน หาทีมที่ผลงานดีที่สุด 2 ทีมของแต่ละกลุ่มผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ส่วนอันดับ 3 ของแต่ละกลุ่มนำไปไขว้เพลย์ออฟกันเองอีกครั้ง

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน เป็นการประเดิมสนามเกมแรกของกลุ่มเอ ทีมชาติไทย เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ทีมบาสเกตบอลชายทีมชาติไทยได้เป็นเจ้าภาพสนามเหย้าในการแข่งขันอย่างเป็นทางการเช่นนี้ โดยไม่นับรวมกีฬามหกรรมหลายชนิด ซึ่งบรรยากาศในแมตช์นี้สุดคึกคักด้วยจำนวนแฟนๆบาสเกตบอลไทยและกองเชียร์ของอินโดนีเซียเองที่แห่แหนกันเข้ามาเชียร์ทีมรักแทบทะลักสนาม

รายชื่อผู้เล่น 5 คนแรกของทั้งสองทีม ทีมชาติไทย ประกอบด้วย ณัฐกานต์ เมืองบุญ, เอ็มมานูเอล ชิเนดู เอเจสุ, เฟรเดริค ลิซ, โมเซส มอร์แกน และ อาณัติ พ่วงลา ขณะที่ อินโดนีเซีย ประกอบด้วย มูฮัมหมัด ฮาดราน นูร์, มูฮัมหมัด ฟาห์ดานี กุนทารา, อกัสซี กวนทารา, เลสเตอร์ โพรสเปอร์ และ วิดยานตา เทจา

เปิดเกมมาเป็นทางทีมเยือนอินโดฯ ที่ออกสตาร์ตได้ดีกว่า บุกทำคะแนนขึ้นนำไทยก่อนที่ 5-0 แต่หลังจากนั้นเป็น โมเซส มอร์แกน ที่ระเบิดฟอร์มสุดยอด รันคะแนนคนเดียว 12 แต้มรวด ชนิดอินโดนีเซียต้องถึงกับปาดเหงื่อ เพราะจัดการรับมือไม่อยู่ ส่งให้ไทยแซงนำ 12-5 ช่วงเวลาที่เหลือของควอเตอร์แรก ไทยครองโมเมนตั้มของเกมไว้ได้ทั้งหมด นำไปที่ 17-8

ผู้เล่นของอินโดฯ ดูค่อนข้างตื่น ยิ่งพอเจอเสียงเชียร์กระหึ่มสนามของคนไทยยิ่งทำให้พวกเขาแก้เกมรุกของไทยไม่ออก สามแต้มยิงได้น้อย และการพยายามพึ่ง เลสเตอร์ โพรสเปอร์ เซนเตอร์สหรัฐอเมริกา ที่โอนสัญชาติของพวกเขามากเกินก็ยังไม่พอที่จะทำแต้มเบียดไทยได้ หมดควอเตอร์สอง ไทยยังนำอยู่ที่ 35-25

เกมมาขาดเอาในควอเตอร์ที่สาม เมื่ออินโดนีเซียยังไม่สามารถแก้เกมได้ เกมรุกของพวกเขายังไม่กระเตื้องขึ้น ส่วนหนึ่งคือโค้ช เอดู ตอร์เรส ของไทยสั่งการมาให้พลพรรคนักชูตของไทยทุกคนบีบและเข้าบอลเร็ว ไม่ปล่อยให้ผู้เล่นอินโดฯ ครองบอลเล่นได้ถนัด ทำให้ผู้เล่นถิ่นอิเหนาเสียเทิร์นโอเวอร์บ่อยขึ้นแล้วโดนไทยฟาสต์เบรกไปรัวแต้มหนีไปถึง 60-35

ควอเตอร์สุดท้าย อินโดฯ พยายามยิง 3 คะแนนไล่คืนแต่ผู้เล่นไทยยังแกร่งพอที่จะรักษาสกอร์ที่นำไว้ได้จนหมดเวลาการแข่งขัน แม้ช่วงท้ายเกมโค้ชเอดู จะเริ่มทยอยส่งผู้เล่นหน้าใหม่ของไทยลงมาสัมผัสเกมบ้างก็ตาม จบเกม ยัดห่วงหนุ่มไทยเปิดบ้าน เอาชนะ อินโดนีเซีย 73-56 เก็บ 2 คะแนนแรก ประจำรอบคัดเลือกของกลุ่มเอได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเกมที่ 2 ของทีมชาติไทยจะมีขึ้นในวันที่ 25 ก.พ.67 ซึ่งจะเป็นการเดินทางไปเยือนทีมชาติเกาหลีใต้ ที่เมืองวอนจู

หลังจบเกมการแข่งขัน "เฮียต่าย" นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพเกมนี้ของไทยเราทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เพราะเราสร้างสรรค์งานออกมาได้มาตรฐานระดับโลกอย่างที่สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ หรือ "ฟีบ้า" ต้องการทุกระเบียดนิ้ว เมื่อเขาต้องการยกระดับการจัดเราก็ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งต้องขอบคุณคนไทยทุกคนที่เดินทางเข้าไปเชียร์ที่สนามนิมิบุตร ทำให้รู้ว่ากระแสดีมากๆ ตนไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่าคนจะเยอะขนาดนี้ โดยที่เราไม่ได้มีการเกณฑ์คนมาร่วมเชียร์ด้วย ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากที่ผลงานของทีมบาสฯ ชายเราชนะมาทุกเกมในรอบคัดเลือกรอบแรก และแพ้แค่เกมเดียวในรอบคัดเลือกรอบที่สอง นอกจากนี้นักกีฬาทีมชาติไทยเราไม่ได้มีหน้าที่แค่ทำผลงานดีในสนาม หากแต่พวกเขายังทำหน้าที่เป็นไอดอลของเด็กๆ ไทยที่ชื่นชอบบาสฯ ทุกคนด้วย และหากใครเข้าไปชมในสนามจะเห็นได้ว่าแฟนๆ จะตามเข้ามาส่งเสียงกรี๊ดให้กับบรรดานักกีฬาหน้าใหม่ที่เพิ่งติดทีมชาติเป็นครั้งแรกอย่างถาโถมด้วย ซึ่งมีการบันทึกสถิติไว้หลังเกมจบว่ามียอดผู้เข้าชมในสนามกว่า 3,800 คน ซึ่งเป็นตัวเลขของคนดูที่เยอะสุดในรอบกว่า 20 ปี ตนจำได้คร่าวๆ ว่ากองเชียร์ไทยเข้ามาชมเกมเยอะสุดน่าจะเป็นปี 2553 ที่สโมสรช้างไทยสแลมเมอร์สแข่ง ตอนนั้นมีจำนวนราวๆ 2,000 คน ส่วนจำนวนยอดคนดูถ่ายทอดสดในเกมนี้มีราวๆ 30,000 คนด้วยกัน

ในส่วนของเกมการแข่งขัน "เฮียต่าย" กล่าวว่า โค้ชเอดู ตอร์เรส วางแผนมาดีจริงๆ อันที่จริงเขาต้องการยิงชนะให้ขาดถึง 30 แต้ม เพื่อประโยชน์ในการดูสถิติเฮ้ดทูเฮ้ดภายหลัง แต่เสียดายที่ท้ายเกม โมเซส มอร์แกน ตัวทำแต้มเยอะที่สุดของเราในเกมนี้มีอาการกล้ามเนื้อขากระตุก ต้องออกไปพักเสียก่อน และโค้ชเอดูก็พยายามส่งเด็กใหม่ๆ ลงไปสร้างประสบการณ์ด้วย ดังนั้นจบลงด้วยผลห่าง 17 แต้มก็ถือว่าน่าชื่นชมแล้ว และตนก็อัดฉีดโบนัสให้นักกีฬาและสตาฟโค้ชไปหลายหมื่นบาทสำหรับเกมนี้ และได้แจ้งพวกเขาไปแล้วว่าพร้อมอัดฉีดให้หลายแสนถ้าสามารถช่วยกันเอาชนะเกาหลีใต้ในเกมต่อไปได้

"อยากฝากให้แฟนๆ กองเชียร์ร่วมส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬากันต่อในเกมกับเกาหลีใต้วันที่ 25 ก.พ.นี้ ผ่าน การถ่ายทอดสดของทางฟีบ้าเอเชีย คงต้องยอมรับว่าพวกเขามาตรฐานดีกว่า และได้ยินว่าน่าจะเอาชุดใหญ่ที่ไปแข่งเอเชียนเกมส์มาสู้ และไทยเราเองก็ไม่ได้เต็มทีมจากการขาด ไทเลอร์ แลมบ์ และ มาร์ติน บรอยนิก แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้าเป็นวันดีๆ สำหรับไทยก็อาจสร้างเซอร์ไพรส์ ก็อยากให้เชียร์กันสนุกๆ

"สุดท้ายนี้ผมในฐานะนายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยอยากกล่าวว่า ผมดีใจกับภาพความสวยงามที่เกิดขึ้นที่สนามนิมิบุตรแมตช์นี้ อยากให้คนดูมาร่วมเชียร์กันเยอะๆ แบบนี้อีกในการเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปในเดือนพฤศจิกายน เราจะพยายามจัดแข่งขันในสนามที่เดินทางสะดวกและจัดช่วงเวลาที่จะสะดวกคนดูมากที่สุด เผื่อโอกาสที่พวกเขาจะได้มีเวลาสัมผัสกับนักกีฬาอย่างใกล้ชิดมากขึ้นหลังจบการแข่งขัน สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะอย่าลืมว่าสิ่งที่พวกคุณทำในวันนี้ทั้งหมดจะเกิดเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทีมชาติไทยฮึกเหิม" นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร ประมุขยัดห่วงไทย กล่าวทิ้งท้าย


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport