บีจี ปทุมฯ,กฤษดา กาแมน และบันไดสู่ เจลีก!?

    นี่เป็นอีกหนึ่ง 'บิ๊กดีล' ที่ทีมดังแห่งย่านรังสิตแสดงแสนยานุภาพถึงกำลังทรัพย์ของสโมสร

   ก่อนหน้านี้พวกเขาคว้านักเตะดีกรีทีมชาติระดับ 'เอ-คลาส' เข้าสู่รั้ว บีจี สเตเดี้ยม มากมาย ไล่ตั้งแต่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (2018), สารัช อยู่เย็น (2020), ธีรศิลป์ แดงดา (2021), วรชิต กนิษศรีบำเพ็ญ (2022), พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (2022), เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (2022) และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ (2023)

   กระทั่งถึง กฤษดา เป็นรายล่าสุด

   การมาของแนวรับจากจังหวัดตราด ทำให้แผงมิดฟิลด์ของ บีจี ปทุม ต้องแข่งขันกันสูงลิ่ว เพราะขุมกำลังเดิมก็อัดแน่นไปด้วยกองกลางชั้นยอดของประเทศทั้งนั้น

   สารัช, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, ฉัตรมงคล ทองคีรี, ณัฐพล วรสุทธิ์ และรวมไปถึง เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ ในโควตาต่างชาติ ชื่อเหล่านี้คือแข้งระดับท็อปของ ไทยลีก ที่เล่นทีมอื่นก็เป็นตัวจริงได้สบายๆ

   ในเมื่อกองกลางล้นทีมขนาดนี้ เชื่อว่าอีกไม่นานน่าจะมีการย้ายออกเพื่อเปิดทางให้ กฤษดา ผู้มาใหม่แน่ๆ เพราะนักเตะวัย 24 ปี คงไม่ถูกซื้อตัวมาเพื่อเล่นกองหลัง หากแต่จะยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ทว่าจะในระบบใด คงต้องขึ้นอยู่ที่ มาโกโตะ เทกูระโมริ จะจัดการ

   นอกจากคุณภาพของกระต่ายแก้วจะเพิ่มขึ้น อีกสิ่งที่น่าสนใจคือเรื่องของ 'อนาคต' ข้างหน้า

   เป็นที่รู้โดยทั่วกันว่า กฤษดา ปรารถนาจะไปเล่นในลีกต่างประเทศ ซึ่งด้วยมาตรฐานการเล่น บวกกับฝีเท้าที่พัฒนาไปในทิศบวกทุกๆ ปี และด้วยอายุเพียง 24 มันจึงใกล้จะถึงเวลาที่เขาจะออกโบยบินสู่โลกกว้าง

   บีจี ปทุม เองก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่สนับสนุนนักเตะไทย ให้ไปเล่นในต่างแดนอยู่แล้ว หลักฐานชั้นดีกับกรณี ฐิติพันธ์ และ เชาว์วัฒน์ ที่ได้โลดแล่นกับ โออิตะ ทรินิตะ รวมไปถึง เซเรโซะ โอซากะ ทำให้เชื่อได้เลยว่าโอกาสที่ กฤษดา จะเดินตามรอยสู่ญี่ปุ่น นั้นอยู่ไม่ไกล

   ที่สำคัญคือทีมกระต่ายแก้วเองก็มีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับ เจลีก อยู่แล้วด้วย โดยเฉพาะ เซเรโซะ ที่เป็นสโมสรพันธมิตรกันมาตั้งแต่ปี 2012 เลยทีเดียว

   ดังนั้นการย้ายมา บีจี สเตเดี้ยม ของ กฤษดา จึงถือเป็นประตูสู่การไปเติบใหญ่ในลีกต่างประเทศแน่นอน

   แต่จะได้ลัดฟ้าไปค้าแข้งเมื่อใดนั้น ให้เข็มนาฬิกาและผลงานในสนามเป็นเครื่องตัดสิน

   บีจี ปทุม, กฤษดา และบันไดสู่ เจลีก กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

ชิกกะด้าว