กิเลนสายฟ้า!! 14 แข้งที่เคยเล่นให้ทั้ง เมืองทอง และ บุรีรัมย์

ไทยลีก แมตช์เดย์ ที่ 12 ของฤดูกาล 2023-24 มีศึกแห่งศักดิ์ศรีรออยู่ที่ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

นี่คือการแข่งขันที่คอลูกหนังชาวสยามประเทศห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะมันเป็นมากกว่า 'ฟุตบอล' เนื่องจากไม่ว่าคราใดที่เผชิญหน้ากัน มักจะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เกาะเกี่ยวกิเลนผยองและปราสาทสายฟ้าเข้าด้วยกัน นั่นคือ 'นักเตะ' ที่เคยผ่านการรับใช้ทั้งสองสโมสรที่มีถึง 14 คน ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอนำคุณย้อนกลับไปในวันวานว่ามีใครกันบ้าง!!

____

[ 1 ] สุริยา ดอมไธสง

เมืองทอง: 2009

บุรีรัมย์: 2009-13


ศูนย์หน้าทีมชาติไทย ยุคกลาง 2000' ได้แชมป์ลีกกับ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในฤดูกาล 2006 ก่อนจะย้ายมาเป็นสมาชิกของ เมืองทอง ในปี 2009 พร้อมกับมีส่วนที่ทำให้กิเลนผยองฟาดโทรฟี่ ไทยพรีเมียร์ลีก ทันที

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นชาวบุรีรัมย์ โดยกำเนิด สุริยา จึงกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่โยกจาก เมืองทอง สู่ปราสาทสายฟ้า และก็แน่นอนว่าเขาไปคว้าแชมป์ลีกร่วมกับจังหวัดบ้านเกิดของตนเองได้เช่นกันเมื่อซีซั่น 2013

เขาถือเป็นนักเตะ 'คนแรก' ในประวัติศาสตร์ที่เคยเล่นให้ทั้ง เมืองทอง และ บุรีรัมย์

___________

[ 2 ] จักรพันธ์ แก้วพรม

เมืองทอง: 2010-11

บุรีรัมย์: 2011-22


ตอนที่ขึ้นมาเล่นอาชีพใหม่ๆ จักรพันธ์ คือดาวจรัสแสงของวงการลูกหนังสยามประเทศ ที่หลายทีมต่างต้องการตัว เขาเริ่มต้นกับ บีอีซี เทโรศาสน (โปลิศ เทโร เอฟซี ในปัจจุบัน) ก่อนจะย้ายมา เมืองทอง ในปี 2010 แม้จะถูกถอยไปเล่นแบ็กขวาอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ได้แชมป์ ไทยพรีเมียร์ลีก ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก

ห้วงเวลานั้น บุรีรัมย์ เพิ่งก้าวขึ้นมาท้าชิงความยิ่งใหญ่ บวกกับการที่หมอนี่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของจังหวัดอยู่เต็มๆ จึงเป็นเหตุให้ได้กลับมาอยู่บ้านเกิด ซึ่งต่อมาเขาได้กลายเป็น 'ตำนาน' ของสโมสรอย่างแท้จริง กับแชมป์ทุกถ้วยที่มีในผืนแผ่นดินไทย 

_________

[ 3 ] อดิศักดิ์ ไกรษร 

เมืองทอง: 2009, 2016-2022

บุรีรัมย์: 2011-14


เด็กหนุ่มผู้โด่งดังมากับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน กระทั่งถูก เมืองทอง จีบเข้ามาร่วมก๊วนในปี 2009 แต่ด้วยความที่ยังเยาว์วัย จึงถูกปล่อยไปเก็บประสบการณ์ที่ ภูเก็ต เอฟซี ซึ่งเวลานั้นอยู่ใน ดิวิชั่น 2 (ไทยลีก 3 ในปัจจุบัน)

หมอนี่เป็นอีกหนึ่งรายที่มีบุรีรัมย์ เป็นบ้านเกิด ว่าแล้วจึงย้ายมาร่วมทัพปราสาทสายฟ้าในปี 2011 ก่อนจะได้แชมป์ลีก 3 สมัย แต่ก็อยู่กับยอดทีมแห่งแดนอีสานไม่นาน เพราะโยกสู่ บีอีซี เทโรศาสน  เมื่อฤดูกาล 2015 กระทั่งกลับมา เมืองทอง อีกครั้งในซีซั่น 2016 

_______

[ 4 ] นฤพล อารมณ์สวะ

เมืองทอง: 2010-11

บุรีรัมย์: 2015-16


หนึ่งในผลิตผลจากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี รุ่นเดียวกับ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ไปได้สัญญาอาชีพฉบับแรกกับ โฮม ยูไนเต็ด (สิงคโปร์) ก่อนจะมา เมืองทอง ในปี 2010 

พอหมดสัญญากับกิเลนผยอง นฤพล ย้ายไป ราชบุรี เอฟซี ต่อด้วย บีอีซี เทโร ศาสน กระทั่งลงเอยที่ บุรีรัมย์ ในปี 2015 แต่ด้วยปัญหาบาดเจ็บรุมเร้า ทำให้เขาไม่ได้ลงสนามในนามปราสาทสายฟ้ามากเท่าที่ควร

___________

[ 5 ] ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร

เมืองทอง: 2013

บุรีรัมย์: 2012


นี่คือนักเตะคนแรกที่ย้ายจาก บุรีรัมย์ สู่ เมืองทอง โดยแรกเริ่มเขามีดีกรีเป็นถึงเยาวชน ซามพ์โดเรีย สโมสรดังของอิตาลี กระทั่งมาอยู่กับปราสาทสายฟ้าในฤดูกาล 2012

ชิตชนก ไม่สามารถสอดแทรกไปอยู่ในทีมตัวจริงของ บุรีรัมย์ ได้ดั่งใจหวัง แต่ทาง เมืองทอง ก็ยังเห็นแวว ว่าแล้วจึงดึงตัวมาอยู่ที่ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ในปี 2013 แต่ก็อยู่ได้แค่ซีซั่นเดียวเท่านั้น ก่อนระหกระเหินย้ายไปหลายสโมสร ซึ่งปัจจุบันปีกเชื้อสาย สปป.ลาว-ไทย เล่นให้ เชียงใหม่ เอฟซี ทีมดังของ ไทยลีก 2

___________

[ 6 ] ชาริล ชัปปุยส์

เมืองทอง: 2017-19

บุรีรัมย์: 2013-14


เทพบุตรของวงการลูกหนังไทย ผู้มีดีกรีตัวหลักของสวิตเซอร์แลนด์ชุด 'แชมป์โลก' ชุดยู-17 ปี เมื่อปี 2009 ผู้เคยปฏิเสธ ยูเวนตุส และ ฮัมบวร์ก ก่อนจะย้ายมาเมืองไทย โดยมีสถานีปลายทางคือ บุรีรัมย์ เป็นแห่งแรก (2013)

อย่างไรก็ตาม กับปราสาทสายฟ้า ชัปปุยส์ ไม่ได้เฉิดฉายนัก กระทั่งตอนที่โยกสู่ สุพรรณบุรี เอฟซี นี่แหละที่ทำให้เขาแจ้งเกิดจนติดทีมชาติไทย และด้วยภาพลักษณ์ บวกฝีเท้า ซึ่งผนวกเข้ากับสโมสรที่เก่งกาจด้านการตลาดอย่าง เมืองทอง ในที่สุด มิดฟิลด์รูปหล่อก็มาลงเอยกับกิเลนผยองในปี 2017 

_________

[ 7 ] นุกูลกิจ ครุฑใหญ่

เมืองทอง: 2017-19

บุรีรัมย์: 2015-16


หมอนี่เริ่มต้นอาชีพกับ บีอีซี เทโร ศาสน แต่ผลงานไปสะดุดตาแมวมอง บุรีรัมย์ จนได้ย้ายสู่ ช้าง อารีน่า ในฤดูกาล 2015 ทว่าได้เล่นน้อยนิด จนหมดสัญญา แล้วไปต่อที่ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ซึ่งที่นี่นี่เองที่เขาโชว์ฟอร์มเด่น

พอถึงปี 2017 นุกูลกิจ จึงได้เซ็นสัญญากับ เมืองทอง และก็ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมออยู่ช่วงหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งได้ระยะยาว กระทั่งย้ายออกไป สุโขทัย เอฟซี, ราชบุรี เอฟซี, ประจวบ เอฟซี และลงเอยที่ เชียงใหม่ เอฟซี ในปัจจุบัน

___________

[ 8 ] พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี

เมืองทอง: 2015-17

บุรีรัมย์: 2021-ปัจจุบัน


ลูกชายแท้ๆ ของ ประภาส ฉ่ำรัศมี อดีตกองกลางทีมชาติไทย และโด่งดังตั้งแต่สมัยฟุตบอลนักเรียนกับ เทพศิรินทร์ ก่อนจะได้เริ่มต้นอาชีพที่ จามจุรี ยูไนเต็ด กระทั่งถูก เมืองทอง กระชากตัวมาร่วมทัพในปี 2015

อย่างไรก็ตาม เขาลงเล่นให้กิเลนผยองน้อยนิด เพราะส่วนใหญ่จะถูกปล่อยให้ พัทยา ยูไนเต็ด (สมุทรปราการ ซิตี้ ในปัจจุบัน) ยืมตัว ซึ่งกับเขี้ยวสมุทรนี่แหละที่สร้างชื่อจนติดทีมชาติชุดใหญ่ และได้โยกสู่ บุรีรัมย์ ในปี 2021 ถึงปัจจุบัน

___________

[ 9 ] ประกิต ดีพร้อม

เมืองทอง: 2007 และ 2017-18

บุรีรัมย์: 2015-16


เขาคือหนึ่งในผู้เล่น เมืองทอง ชุดแชมป์ ดิวิชั่น 2 (ไทยลีก 3 ในปัจจุบัน) เมื่อปี 2007 ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวยังเรียนไม่จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 (อัสสัมชัญ ธนบุรี) เลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม พอเลื่อนชั้น เขาไม่ได้ไปต่อกับกิเลนผยอง แต่ด้วยความมุ่งมั่น จึงไปโดดเด่นที่ ราชประชา ต่อด้วย ทีโอที เอสซี จนถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย

จากผลงานในนามทัพช้างศึก ประกิต ได้เซ็นสัญญากับ บุรีรัมย์ ในปี 2015 แต่ว่าไม่สามารถสอดแทรกสู่ทีมชุดตัวจริงได้ จึงย้ายออกไป ชลบุรี เอฟซี และก็กลับมา เมืองทอง อีกครั้งในซีซั่น 2017 

___________

[ 10 ] ธีราทร บุญมาทัน

เมืองทอง: 2016-20

บุรีรัมย์: 2009-16 และ 2022-ปัจจุบัน


จริงๆ แล้ว ธีราทร เกือบจะได้เป็นนักเตะ เมืองทอง ตั้งแต่สมัยเยาวชน แต่สุดท้ายเจ้าตัวไปลงเอยกับ การไฟฟ้า และทำให้ได้เล่นกับ บุรีรัมย์ ไปโดยปริยาย

ในสีเสื้อปราสาทสายฟ้า เขาคือนักเตะที่เก่งกาจมากๆ จนถูกยกให้เป็น 'สัญลักษณ์' ของสโมสร แต่แล้วในปี 2016 ก็เกิดเหตุการณ์ช็อกทั้งแผ่นดิน เพราะเจ้าตัวย้ายมาซบกิเลนผยองแบบที่แฟนฟุตบอลตะลึงงันสนั่นเมือง

ธีราทร อยู่กับ เมืองทอง ได้ไม่นานนัก ก็ได้ไปโลดแล่นที่ญี่ปุ่น ด้วยสัญญายืมตัว โดยเริ่มจาก วิสเซิล โกเบ (2018) ต่อด้วย โยโกฮามะ มะรินอส (2019) ที่ภายหลังถูกซื้อขาดจากกิเลนผยอง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จจนถึงการเป็นแชมป์ เจลีก ก่อนจะโยกกลับมา บุรีรัมย์ ในปัจจุบัน

________

[ 11 ] แชคซอน โคเอลโญ่ 'ชาช่า'

เมืองทอง: 2018

บุรีรัมย์: 2017


แชคซอน โคเอลโญ่ หรือ 'ชาช่า' ศูนย์หน้าที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่เก่งที่สุดที่มาเล่นใน ไทยลีก จากผลงานฤดูกาล 2017 ที่เป็นปีแรกกับ บุรีรัมย์ พี่แกก็ซัดไปถึง 34 ประตู พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ได้ทันที

ด้วยพฤติกรรมนอกสนาม ทำให้เขาไม่ได้ไปต่อกับปราสาทสายฟ้า แต่ เมืองทอง เห็นความเฉียบขาด จึงดึงตัวมาร่วมทัพในซีซั่น 2018 ทว่าก็อยู่ได้แค่ปีเดียวเท่านั้น ก็มีอันต้องแยกทางกันไป

________

[ 12 ] อ่อง ตู

เมืองทอง: 2019

บุรีรัมย์: 2020-21


อ่อง ตู มาสร้างชื่อในเมืองไทย กับ โปลิศ เทโร เอฟซี จนถูก เมืองทอง จีบมาร่วมก๊วนในฤดูกาล 2019 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เพราะตกเป็นตัวสำรองเสียส่วนใหญ่ กระทั่งต้องย้ายกลับเมียนมาร์ ไปพักหนึ่ง

พอถึงปี 2020 บุรีรัมย์ ไปกระชากตัวเขากลับมาสยามประเทศอีกครั้ง และก็มีส่วนกับ 'เทรเบิ้ลแชมป์' ในฤดูกาล 2021-22 

___________

[ 13 ] ปิยพล ผานิชกุล

เมืองทอง: 2010-16

บุรีรัมย์: 2020-22


ปิยพล คือนักเตะของ เมืองทอง ชุดแชมป์ลีก 2 สมัย และก็ลงสนามนามกิเลนผยองเกินกว่า 100 เกม ก่อนจะย้ายไป เชียงราย ยูไนเต็ด ในปี 2016 แล้วก็เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้กว่างโซ้งมหาภัยครองโทรฟี่ต่างๆ มากมาย

พอหมดสัญญากับ เชียงราย - เขาตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสร แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมาลงเอยที่ บุรีรัมย์ และการเล่นให้ปราสาทสายฟ้า หมอนี่ก็พาทีมคว้า 'เทรเบิ้ลแชมป์' ในซีซั่น 2021-22 ได้อีกด้วย 

___________

[ 14 ] สุพร ปีนะกาตาโพธิ์

เมืองทอง: 2013-2023

บุรีรัมย์: 2023-ปัจจุบัน


หากการย้ายสู่ เมืองทอง ของ ธีราทร สร้างความเจ็บปวดให้แฟนๆ บุรีรัมย์ - เคสของ สุพร ที่โยกมาเล่นให้ปราสาทสายฟ้า ก็คงไม่แพ้กัน เพราะหมอนี่คือ 'เด็กสร้าง' อีกทั้งยังเป็นถึงกัปตันทีมก่อนจะมาสวมเสื้อสีกรมท่า

กองหลังสารพัดประโยชน์อยู่กับ เมืองทอง ตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ และค่อยๆ ไต่เต้าจนกลายเป็นกำลังหลักของทีมที่ไม่มีใครคิดว่าจะย้ายออกจากสโมสร 

อย่างไรก็ตาม กลางปี 2023 บุรีรัมย์ ได้ประกาศคว้าตัวกัปตันกิเลนผยองมาร่วมทัพ ซึ่งดีลนี้ได้สร้างความช็อกให้กับแฟนๆ เมืองทอง เป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่มีทีท่าว่าจะเกิดขึ้นได้เลย

___________


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport