อย่ามองข้ามกิเลนผยอง

เมืองทอง ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย คือหนึ่งในสโมสรที่ยังจัดอยู่ในหมวดทีมใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะเหินห่างจากถ้วยรางวัลมาตั้งแต่ปี 2017 ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นการที่จะกาชื่อกิเลนผยองออกจากสารบบการลุ้นแชมป์นั้นคือเรื่องที่คิดผิดจริงๆ

   ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป บวกกับการปล่อยผู้เล่นหลักออกสู่ลีกต่างประเทศ ไล่ตั้งแต่ ธีรศิลป์ แดงดา, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ทำให้ยอดทีมแห่งย่านแจ้งวัฒนะต้องเผชิญกับห้วงเวลาที่ยากลำบาก

   มันคือ 'วัฏจักร' ของทุกสรรพสิ่งที่หมุนวนตามกฎธรรมชาติ ไม่มีใครยืนหยัดอยู่ยงคงกระพัน และก็ไม่มีใครที่จะตกต่ำไปตลอดกาลเช่นกัน

   แต่ถึงจะปล่อยบรรดาซูเปอร์สตาร์ออกจากรั้ว ธันเดอร์โดม ไปหลายราย ทว่า เมืองทอง ยังยืนหยัดในกลุ่มหัวแถวอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะ 2 ฤดูกาลหลังสุดที่จบอันดับ 4 ของตารางคะแนน

   สไตล์ฟุตบอลของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่เพียรพยายามมาโดยตลอดเริ่มออกดอก-ออกผล เพราะไม่ว่าคู่แข่งจะแกร่งกว่าเพียงใด แต่กิเลนผยองก็พร้อมจะบุกเข้าใส่แบบไม่มีเม้ม ไม่เว้นแม้แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, แบงค็อก ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี หรือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งมีทรัพยากรผู้เล่นที่ดูจะมีศักยภาพสูงกว่า

   ประมาณว่าใช้ระบบเข้าสู้ ซึ่งก็ทำได้ดีเสียด้วย

   เปอร์เซ็นต์การครองบอลที่สูงกว่าฝั่งตรงข้ามแทบทุกนัด บวกกับจำนวนการผ่านบอลที่มากที่สุดในลีก คือสิ่งที่บ่งชี้ชัดเจนว่า เมืองทอง คือหนึ่งในทีมที่เล่นได้ตื่นตาตื่นใจที่สุดในเมืองไทย 

   ขาดเพียงการจบสกอร์ในจังหวะสุดท้ายที่ยังไม่เฉียบขาดพอ รวมไปถึงความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้พวกเขาไม่ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ

   ซีซั่น 2023--24 กิเลนผยองก็มีการเปลี่ยนแปลงมากพอควร เพราะมีนักเตะที่ย้ายออกไปหลายราย ไล่ตั้งแต่ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, บุญทวี เทพวงศ์, ปฏิวัติ คำไหม, เยสเปอร์ นีโฮล์ม, ลูคัส โฮช่า, เฮนรี่ อานิเยร์ และ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ ซึ่งแต่ละคนคือตัวหลักในฤดูกาลที่ผ่านมา

   เมื่อมีออก ย่อมมีเข้า ซึ่งกลุ่มที่ทยอยตบเท้าสู่รั้ว ธันเดอร์โดม ก็มี ทริสต็อง โด, สุวิทย์ ไปพรมราช, ณัฐวัฒน์ โทบ้านซ้ง, ฌอง-โคล้ด บีลลง เซนเตอร์ฮาล์ฟดีกรีทีมชาติแคเมอรูน และล่าสุดเพิ่งประกาศคว้า ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กองกลางอนาคตไกลของทัพช้างศึก

   4 ใน 5 ราย คือผู้เล่นในแดนหลัง ซึ่งดูเหมือนว่า เมืองทอง จะรู้ดีถึงปัญหา เพราะความผิดพลาดในแนวรับนี่แหละที่ทำให้พวกเขามักจะเป็นฝ่ายปราชัยต่อคู่แข่ง ว่าแล้วเลยเสริมแบบนันสต๊อป เพื่อหวังมากลบจุดอ่อนตรงนี้ให้ได้

   ในรายของ โด นั้นคงไม่ต้องกังวล เรื่องจากคุ้นเคยกับสโมสรอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นแบ็กขวาเบอร์ต้นๆ ของทีมชาติไทย อีกด้วย ขึ้นอยู่ที่ว่าเขาจะสามารถรักษามาตรฐานของตนเองได้หรือเปล่าเท่านั้น เพราะครึ่งปีที่ผ่านมายังไม่มีเกมลงสนามอย่างเป็นทางการเลย

   ทว่าที่น่าสนใจคือ บีลลง นี่แหละที่อาจจะเป็น 'จิ๊กซอว์' ให้กิเลนกลับมาผยองอีกครั้งก็เป็นได้

   ปราการหลังวัย 29 ปี เคยเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว 

   เคยเผชิญหน้า ลีโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซึ่งเป็นสตาร์ระดับโลกมาแล้ว

   เคยติดทีมชาติแคเมอรูน มาแล้ว และทุกวันนี้ก็ยังถูกเรียกตัวอยู่เช่นกัน

   ด้วยความสูง 1.92 เมตร น่าจะทำให้อุ่นใจในเรื่องลูกกลางอากาศ หากแต่หมอนี่ยังเป็นกองหลังที่เล่นบอลกับพื้นได้ดี ซึ่งเหมาะเหม๋งกับสไตล์ของ เมืองทอง ซึ่งเน้นการบิ้วต์-อัพเกมจากแดนตัวเอง

   การมาของ บีลลง น่าจะทำให้ ชาติชาย แสงดาว กับ ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ 2 เซนเตอร์ฮาล์ฟชาวไทย ได้เรียนรู้และคงจะเก่งขึ้นด้วยแน่ๆ

   ทีนี้พอแนวรับแข็งแรง มันจะส่งผลไปถึงแดนบนทันที และเวลานี้กิเลนผยองก็ค่อนข้างจะลงตัวมากๆ ขาดแค่ศูนย์หน้าตัวเป้าที่จะเข้ามาเสียบโควตาของ อานิเยร์ ที่ย้ายออกไป

   แต่ถึงอย่างนั้น ปรเมศย์ อาจวิไล ก็พร้อมที่จะแบบความหวังในการพังสกอร์ เพราะหมอนี่เป็นนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และพัฒนาการด้านฝีเท้าก็ดีขึ้นในทุกๆ ปีอย่างชัดเจน

   แผงมิดฟิลด์ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ คือแกนกลาง โดยมี พิชา อุทรา ผู้เล่นชั้นเชิงเหลือร้ายเป็นคู่หู แถมการได้ ธนวัฒน์ ซึ่งเล่นอยู่ในยุโรป มาตั้งแต่ปี 2006 มาช่วยสร้างสรรค์เกม และมันคือเรื่องที่สโมสรอื่นๆ ต้องอิจฉา เนื่องจากแผงมิดฟิลด์กิเลนผยองนั้นอัดแน่นไปด้วยคุณภาพล้วนๆ

   ที่สำคัญอย่าลืมว่าพวกเขายังมี วิลเลียน พ็อพพ์ แนวรุกบราซิล ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดของ ไทยลีก ยุคปัจจุบัน ขนาดว่าเล่นแค่เลกเดียว แต่กดไปถึง 14 ประตู ถือเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมทีเดียว

   ด้วยขุมกำลังที่มีอยู่ ตอนนี้ เมืองทอง คงจะขาดเพียงผู้รักษาประตู เพราะยังไม่รู้ว่า กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จะกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้งเมื่อใด ดังนั้นจึงต้องหาจอมหนึบที่สร้างความอุ่นใจให้กองหลังได้จริงๆ กับหัวหอกตัวเป้าที่สามารถฝากความหวังและการันตีสัก 10 ประตู เป็นอย่างน้อย

   หากเติมช่องว่างที่ขาดหายได้ กิเลนผยองจะเป็นอีกหนึ่งทีมที่แข็งแกร่งไม่แพ้ใคร แม้ว่า บุรีรัมย์ กับ บีจี ปทุม จะเสริมทัพกันได้หนักหน่วง แต่อย่าลืมว่าฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ

   เมืองทอง ก็ค่อนข้างลงตัวมากๆ ในเรื่องของระบบการเล่นที่ ยูรอฟสกี้ ฟูมฟักมานานปี ซึ่งมันคงจะดีขึ้นกว่านี้อีกแน่ในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง

   ดังนั้น ไทยลีก 2023-24 อย่ามองข้ามกิเลนผยองเป็นอันขาด

ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport