ปราการหลังผู้ยิ่งใหญ่แห่งไทยลีก อันเดรส ตูเญซ

นับตั้งแต่ ไทยพรีเมียร์ลีก หรือ ไทยลีก ในปัจจุบัน มีความเป็นฟุตบอลอาชีพเต็มรูปแบบในปี 2007 ก็มีนักเตะต่างชาติไหลหลั่งเข้ามาค้าแข้งมากมาย ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้วงการลูกหนังของสยามประเทศพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

   ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, ฟร้องค์ อาเชียมปง, มาริโอ ยูรอฟสกี้, ดาร์โก ทาร์เซฟสกี้, เจย์ โบธรอยด์, โดมินิก อาดิเยียห์, รี ควาง ชอน, พัก นัม โชล, ไดกิ อิวามาสะ, คิม ดอง-จิน, อี โฮ, ลอนซาน่า ดูมบูญ่า, โอ บัน-ซ็อค, เฮนรี่ อานิเยร์, เจฟเฟรน ซัวเรซ, อาลี่ ชิสโซโก้ และอื่นๆ อีกมากมาย คือนักเตะที่มีดีกรีทีมชาติพ่วงท้าย ทั้งยังเคยโลดแล่นในลีกที่มาตรฐานสูง บางรายก็ผ่านฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว ก่อนจะย้ายมาเล่นในเมืองไทย

   พวกเขาเหล่านี้ช่วยยกระดับให้ ไทยลีก เป็นลีกที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

   ทว่ามีอยู่คนหนึ่งที่เข้ามาเป็นทั้ง 'ต้นแบบ' และ 'ก่อร่างสร้างฐาน' ให้กับฟุตบอลในเมืองไทย อย่างแท้จริง

   เขาคนนั้นคือ อันเดรส ตูเญซ เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติเวเนซูเอล่า 

   ปราการหลังผู้นี้จริงๆ แล้วเป็นชาวสเปน แท้ๆ แต่ด้วยความที่ครอบครัวของเขาอพยพไปเวเนซูเอล่า ทำให้เจ้าตัวเกิดและโตที่นั่น จนอายุได้ 7 ขวบ จึงย้ายกลับสู่ดินแดนกระทิงดุ

   จากอะคาเดมี่ของ  โรซาเลีย เดอ คาสโตร สู่ คอสโปสเตล่า กระทั่งวัย 17 - ตูเญซ เก่งกาจจนได้เข้าไปเป็นนักเตะเยาวชนของ เซลต้า บีโก้ หนึ่งในสโมสรเก่าแก่ของสเปน

   พัฒนาการของเขาไปได้สวยกับ โลส เกเลสเตส (ฉายา เซลต้า บีโก้) กระทั่งได้เลื่อนสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2009 (อายุ 22) และก็ค่อยๆ กลายเป็นตัวหลักให้ทีม โดยเฉพาะการเลื่อนชั้นสู่ ลา ลีกา ในฤดูกาล 2012-13 ซึ่งนับเป็นหนแรกในรอบกว่า 5 ซีซั่นที่ทีมได้กลับมาลีกสูงสุดอีกครั้ง

   ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแท้ๆ แต่การที่ เซลต้า บีโก้ แต่งตั้ง หลุยส์ เอ็นริเก้ มาเป็นเฮดโค้ชในฤดูกาล 2013-14 ทำให้มีการใช้จ่ายเงินมากมาย และว่ากันว่า มันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ตูเญซ ถูกปล่อยไปให้ เบตาร์ เยรูซาเล็ม ทีมในลีกอิสราเอล ด้วยรูปแบบของสัญญายืมตัว

   จากจุดเปลี่ยนนั้นเอง ทำให้สัญญาของเขากับ เซลต้า บีโก้ หมดลง และไม่ได้ขยายออกไป บวกกับมีข้อเสนอจากแดนไกล - ไทยแลนด์ โดยมีสถานีปลายทางที่ชื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

   ตูเญซ ย้ายมาในซีซั่น 2014 และปีแรกเขาก็พาทีมคว้าแชมป์ ไทยลีก ทันที

   ตั้งแต่ปราสาทสายฟ้ามีปราการหลังทีมชาติเวเนซูเอล่า บัญชาการ - โทรฟี่มากมายก็ทยอยกันเข้ามาประดับตู้โชว์ของสโมสร 

   ไทยลีก 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และ ลีก คัพ อีก 1 สมัย คือความสำเร็จในระดับเมเจอร์ตอนที่ ตูเญซ อยู่กับ บุรีรัมย์ โดยที่ช่วงหนึ่ง เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมอีกด้วย

   พอย้ายออกไป บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในช่วงเลกที่สองของฤดูกาล 2020-21 เขาก็ยังไปคว้าแชมป์ ไทยลีก ร่วมกับทัพกระต่ายแก้วในทันที

   เรียกได้ว่าอยู่ที่ไหน การันตีถ้วยรางวัลแน่นอน

   จุดเด่นของปราการหลังคนนี้คือการอ่านจังหวะฟุตบอลที่เฉียบขาดและการเข้าสกัดที่หนักหน่วง แต่แม่นยำ และนั่นจึงทำให้ศูนย์หน้าของคู่แข่งต่างก็หวาดหวั่นยามต้องเผชิญหน้า

   นอกจากนี้เรื่องของความเป็นผู้นำในสนามก็โดดเด่นเป็นสง่า เพราะว่า ตูเญซ คือนักเตะที่มีแพสชั่นกับการแข่งขันสูงลิ่ว ภาพที่แฟนๆ มักจะคุ้นชินคือการที่เขาแหกปากโวยวายเสมอ ยามที่ทีมของตนเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบ 

   แม้มันจะดูกร้าวร้าว แต่สิ่งที่เป็นผลบวกกับฝั่งตนเองคือการโยนความกดดันไปให้กับคู่แข่ง และรวมถึงผู้ตัดสินที่บางทีก็ต้องใจสั่นๆ เหมือนกันหากโดนเขาปรี่เข้าหา

   ออร่าของ ตูเญซ ทำให้ ประทุม ชูทอง, ธนะศักดิ์ ศรีใส, กรวิทย์ นามวิเศษ, พรรษา เหมวิบูลย์ และ จักพัน ไพรสุวรรณ ได้เรียนรู้ ซึ่งแต่ละคนก็ดูเก่งกาจขึ้นชัดเจน เมื่อได้คู่ขาอย่างเซนเตอร์ฮาล์ฟเชื้อสายสเปน

   โดยเฉพาะในรายของ กรวิทย์ กับ พรรษา นี่ก้าวไปติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่เลยทีเดียว

   ตลอดระยะ 10 ปี ในเมืองไทย - ตูเญซ คือหนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่ทำให้มาตรฐานของฟุตบอลลีกก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ทั้งในเรื่องของการพัฒนาทางด้านฝีเท้า รวมไปถือความเป็นมืออาชีพที่ส่งต่อถึงเพื่อนร่วมทีมและเยาวชนที่กำลังเติบโต

   นักเตะที่เก่งกางมีมากมาย แต่ผู้เล่นที่เป็น 'ต้นแบบ' นั้นมีไม่เยอะนัก

   ตูเญซ คือหนึ่งในจำนวนน้อย และโชคดีที่ ไทยลีก ได้มีโอกาสต้อนรับเขาในฐานะหนึ่งในกองหลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์

   แม้ว่าเกมสุดท้ายในบทบาทนักฟุตบอลอาชีพจะจบลงด้วยรองแชมป์ ลีก คัพ กับ บีจี ปทุม แต่มีมากมายหลายสิ่งอย่างที่เขาได้ร่วมสร้างกับวงการลูกหนังแดนขวานทอง

   ปราการหลังผู้ยิ่งใหญ่แห่ง ไทยลีก

   อันเดรส ตูเญซ


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport