แล้วกลับมาพบกันอีกครั้ง - นครราชสีมา เอฟซี

นครราชสีมา เอฟซี คือหนึ่งในสโมสรที่มีผู้ติดตามมากที่สุดของเมืองไทย ด้วยจำนวนแฟนฟุตบอลที่เข้ามาให้กำลังใจ ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่เนืองแน่นอย่างหนาตาเสมอมา ไม่ว่าจะเจอกันทีมเล็กหรือใหญ่ แฟนๆ ของพวกเขาพร้อมจะเข้ามาเปล่งเสียงเชียร์แบบสุดเสียงทุกครั้ง

   จังหวัดนครราชสีมา เป็นเมืองแห่งกีฬา โดยแท้จริง พวกเขาเคยจัดการแข่งขัน ซีเกมส์ และรวมไปถึง เอเชียนเกมส์ มาแล้ว จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมชาวโคราชถึงหลงใหลในการแข่งขันเป็นอย่างยิ่ง

   พอถึงปี 1999 ทีมฟุตบอลจึงถือกำเนิดขึ้น โดยเข้าร่วมแข่งขันในศึก โปรวินเชียลลีก พร้อมกับฉายา 'สตริงเรย์' เนื่องจากสมัยก่อน กองบิน 1 มีรถถังคอมมานโด สตริงเรย์ เป็นจำนวนมาก และทีมงานที่ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลสมัยนั้น ส่วนใหญ่เป็นทหารในกองทัพจึงได้เลือกใช้ชื่อว่า 'นครราชสีมา สตริงเรย์' 

   กระทั่งวันเวลาผันผ่าน จึงได้เปลี่ยนโลโก้และฉายาใหม่จากรถถังมาเป็น 'สวาทแคท' อันมีที่มาจากแมวสีสวาดซึ่งเป็นสัตว์ประจำท้องถิ่นโคราช

   จากนโยบายการบริหารงานที่ค่อนข้างชัดเจนและไม่หยุดนิ่งต่อการสานต่อความสำเร็จ นครราชสีมา จึงมีผู้เล่นชั้นยอดตบเท้าเข้าสู่สโมสรในทุกๆ ฤดูกาล

   ที่ผ่านมายังมีดาวดังหลายรายที่เคยมารับใช้สโมสรแห่งนี้ ทั้ง ไกรเกียรติ เบียดตะคุ, อานนท์ สังข์สระน้อย, อนนท์ บุญสุโข, อานนท์ นานอก, เทวา ศรีธรรมานุสาร, ชัชปภพ อุสาพรหม, พร้อมพงษ์ กรานสำโรง, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว รวมไปถึง สารัช อยู่เย็น เองก็เคยผ่านการเล่นกับ นครราชสีมา มาก่อน

    นครราชสีมา ไต่เต้าจาก ดิวิชั่น 2 สู่ ดิวิชั่น 1 แล้วจึงทะยานสู่ ไทยลีก เมื่อปี 2015 และก็อยู่โยงยาวนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

   เพียงขวบปีแรกบนเวทีสูงสุดของประเทศ พวกเขาก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการจบอันดับที่ 8 ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมไม่เบาเมื่อเทียบกับสโมสรที่เลื่อนชั้นจากลีกรองสู่ ไทยลีก

   จากนั้นพวกเขาก็เป็นขาประจำของลีกสูงสุดในทุกๆ ปี โดยไม่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น โดยมีเกมในบ้านเป็นจุดแข็ง ขณะที่เกมเยือนสาวกสวาทแคทก็มักจะตามไปให้กำลังใจกันเสมอ

   อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงมากมายในช่วง 2-3 ซีซั่นหลังสุด ทำให้ทีมแมวพิฆาตต้องกระเสือกกระสนไม่น้อย กระทั่งฤดูกาล 2022-23 ที่พวกเขามีอันต้องหล่นสู่ ไทยลีก 2 เป็นหนแรก นับตั้งแต่เลื่อนชั้นมาในปี 2015

   8 ฤดูกาลบนลีกสูงสุดของสยามประเทศ พวกเขาสร้างปรากฏการณ์มากมาย โดยเฉพาะเรื่องของแฟนๆ ที่เป็นจุดเด่น เพราะไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน กองเชียร์ชาวโคราช ก็จะติดตามไปให้กำลังใจทีมรักอยู่เสมอ

   ความพ่ายแพ้ 4 จาก 5 นัด หลังสุด คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ นครราชสีมา ต้องโบกมือลา ไทยลีก เพราะทีมอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเช่นกัน ไล่ตั้งแต่ ลำพูน วอริเออร์, ประจวบ เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ต่างก็เก็บคะแนนในช่วงเวลาที่ต้องการแต้ม

   3 ใบแดง จาก 2 เกม ท้ายซีซั่ย ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น กับการที่ทีมกำลังต้องดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อให้อยู่รอด มันจึงถือเป็นห้วงเวลาที่ไม่โสภาของพวกเขานัก

   อย่างไรก็ตาม การที่ ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือแมวพิฆาตประกาศชัดเจนว่าจะไม่ทิ้งทีมไปไหน ขอเพียงฝ่ายบริหารยังเชื่อใจ เขาก็จะพยายามพา นครราชสีมา กลับสู่ลีกสูงสุดให้ได้อีกครั้ง

   'โค้ชโจ' ถือเป็นเทรนเนอร์ชาวไทย ที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของยุค แท็กติกยืดหยุ่น-จิตวิทยาเยี่ยม เพียงแต่ช่วงเวลาที่เขาคัมแบ็กสู่รั้ว สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นั้นมันน้อยไปนิด มันจึงทำให้ทัพแมวพิฆาตต้องหล่นสู่ลีกรองไปแบบน่าเจ็บปวด

   ทว่าถ้ามองถึงมันสมองและฝีมือในการทำทีม กุนซือวัย 44 ปี ก็ไม่เป็นสองรองใครในใต้หล้าเช่นกัน ดังนั้นถ้าเขาได้คุมต่อ รับประกันได้เลยว่า นครราชสีมา จะกลับมา ไทยลีก ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วแน่นอน

    ตอนนี้พวกเขาต้องลืมความเจ็บปวดให้ไวที่สุด แล้วลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เพื่อพี่-น้องชาวโคราชที่หลงใหลในกีฬาลูกกลมๆ แบบเต็มเปา

   หวังว่าจะกลับมาพบกันอีกครั้ง - นครราชสีมา เอฟซี

ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport