ศุภชัยดาวซัลโวนำทัพ!ทีมยอดเยี่ยมไทยลีกประจำฤดูกาล 2022-23

ผู้รักษาประตู: ไมเคิ่ล ฟาลเคสการ์ท (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

   การที่ แบงค็อก เสียประตูน้อยที่สุดในฤดูกาล 2022-23 (22 ประตู) ซึ่งน้อยกว่าทีมแชมป์เสียอีก ต้องยกเครดิตให้กับจอมหนึบทีมชาติฟิลิปปินส์ ไปไม่น้อย ด้วยมาตรฐานการเล่นที่อยู่ในระดับสูงทุกๆ สัปดาห์ ก่อนจะทำไป 14 คลีนชีต เป็นสถิติที่สูงที่สุดในลีก

แบ็กขวา: นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม  (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

   กัปตันทีม บุรีรัมย์ คือหนึ่งในผู้เล่นที่ฟอร์มสม่ำเสมอที่สุดในลีก เกมรับมีวินัย เกมรุกก็เติมได้ถึงสุดเส้น นานวันเข้า นฤบดินทร์ พัฒนาตนเองได้สูงขึ้นเรื่อยๆ และซีซั่นนี้ก็ทำไปถึง 8 แอสซิสต์ เลยทีเดียว เป็นตัวเลขสูงสุดในนักเตะที่เล่นกองหลังด้วยกัน

เซนเตอร์ฮาล์ฟ: เอเวอร์ตัน (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

   หัวใจสำคัญในเกมรับของ แบงค็อก เพราะเมื่อใดที่ เอเวอร์ตัน อยู่ในสนาม เปอร์เซ็นต์การเสียประตูของบียูจะลดลงทันที และนั่นจึงที่มาว่าเหตุใดเขาจึงเป็นโควตาต่างชาติเพียงหนึ่งเดียวที่ยังเหลือสัญญาอยู่กับสโมสร 

เซนเตอร์ฮาล์ฟ: เรบิน ซูลาก้า (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

   นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นใน ไทยลีก เมื่อปี 2021 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซูลาก้า ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความเก่งกาจในเกมรับ เพราะสองซีซั่นในสีเสื้อ บุรีรัมย์ นั้นเสียประตูในลีกรวมกันเพียง 46 ลูก น้อยกว่าหลายๆ ทีมในฤดูกาลเดียวเสียอีก

แบ็กซ้าย: ธีราทร บุญมาทัน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

   ก้าวมารับบทบาทกองกลางเต็มตัว และก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากๆ คลาสฟุตบอลของ ธีราทร สามารถสร้างความแตกต่างได้เพียงเสี้ยววินาที การมีเขาอยู่ในสนาม ทีมของคุณก็ได้เปรียบคู่ต่อสู้ไปแล้วก้าวหนึ่ง และซีซั่น 2022-23 ก็ทำไปได้ 8 แอสซิสต์ อีกต่างหาก

กองกลาง: โกรัน เคาซิช (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

   หนึ่งในดีล 'สุดคุ้ม' ของฤดูกาล 2022-23 กับผลงาน 14 ประตู ทั้งๆ ที่เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง แต่คุณประโยชน์ของ เคาซิช ไม่ได้มีแค่การสอดไปพังสกอร์ หากแต่เขายังเป็นคีย์แมนที่ทำให้การเล่นของ บุรีรัมย์ สมดุลทั้งรับและรุก 

กองกลาง: วีรเทพ ป้อมพันธุ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

   เขาคือนักเตะที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทักษะการเอาตัวรอดในภาวะคับขันยอดเยี่ยม, เซ้นส์ฟุตบอลเหลือร้าย แต่ที่เก่งกาจสุดๆ คือการจ่ายบอลอันเฉียบคม แม้จะมีเพียง 5 แอสซิสต์ ทว่าประตูส่วนใหญ่ที่ เมืองทอง ทำได้นั้นมีจุดเริ่มมาจาก วีระเทพ นี่แหละ

กองกลางตัวรุก: วิลเลียน พอพพ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

   แม้จะเล่นได้แค่เลกเดียว แต่ผลงานของ พ็อพพ์ จัดจ้านมากๆ กับการซัดไป 14 ประตู จาก 14 เกม ที่ลงสนาม และผลงานชนะ 8 นัดรวดของ เมืองทอง ในปี 2023 ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับแนวรุกบราซิล คนนี้ที่มีส่วนผลักดันให้ทีมฟอร์มร้อนแรง จนจบอันดับ 4 ทั้งๆ ที่เลกแรกนั้นอยู่กลางตาราง

กองหน้าฝั่งขวา: ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

   ตอนนี้ ไทยลีก คงจะเล็กไปสำหรับ ศุภณัฏฐ์ เสียแล้ว ด้วยมาตรฐานการเล่นสม่ำเสมอ ร่างกายที่แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ และมันสมองอันปราดเปรื่อง นานวันเข้า เขายิ่งเก่งกว่าเก่า จนปีนี้ซัดไป 8 ประตู และทำได้ 10 แอสซิสต์ ซึ่งมากที่สุดในซีซั่น 2022-23 

กองหน้าตัวเป้า: ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

   ความภาคภูมิใจของแข้งไทย ที่ฝ่าด่านหินขึ้นมาคว้ารางวัล 'ดาวซัลโว ไทยลีก' ได้เป็นหนแรกในรอบกว่า 10 ฤดูกาล ที่ไม่มีนักเตะสยามประเทศคนใดอาจหาญมาท้าชิงพื้นที่นี้ได้เลย กระทั่งเด็กหนุ่มจากจังหวัดปัตตานี ทำได้สำเร็จ กับการกดไป 19 ประตู พร้อมกับพา บุรีรัมย์ คว้าแชมป์ไปครอง

กองหน้าฝั่งซ้าย: ซามูเอล โรซา (พีที ประจวบ เอฟซี)

   อีกหนึ่งดีลอันคุ้มค่าของซีซั่น 2022-23 กับผลงาน 18 ประตูในลีก ซึ่งมีส่วนมากๆ กับการที่ ประจวบ ยังได้ไปต่อในฤดูกาลหน้า เพราะการที่มี โรซา ยืนค้ำอยู่ในแดนบน ทำให้ต่อพิฆาตสามารถต่อกรได้กับทุกทีม

เฮดโค้ช : มาริโอ ยูรอฟสกี้

   จริงๆ แล้ว 'โค้ชยอดเยี่ยม' นั้นมีทั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ (บุรีรัมย์), ธชตวัน ศรีปาน (แบงค็อก) และ  รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค (โปลิศ เทโร) ที่อยู่ในข่าย แต่สุดท้ายยังไงก็ต้องเป็น ยูรอฟสกี้ จาก เมืองทอง ที่สามารถทำทีมได้อย่างมีสไตล์ และเมื่อบวกกับการที่ขุมกำลังไม่ได้มีนักเตะระดับดาวดังเหมือนสโมสรอื่นๆ ทว่ากลับฝ่าด่านจบอันดับ 4 ของตารางได้อย่างเหลือเชื่อ ดังนั้นกุนซือชาวมาซิโดเนีย จึงควรค่าแก่การได้รับคำสรรเสริญจากทั่วทุกสารทิศ