แมตช์เดย์ที่ 29 - สัปดาห์ที่ (อาจจะ) ตัดสินอันดับของสโมสร ไทยลีก

แม้จะมีนัดสุดท้ายในวันที่ 12 พฤษภาคม ให้ลุ้นต่อ แต่เกมในช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้นั้นสำคัญและสามารถชี้วัดได้เลย

เริ่มจากทีมที่ขับเคี่ยวกันไปศึกแชมป์สโมสรเอเชีย ที่มี 3 ทีม เกี่ยวข้อง - การท่าเรือ เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี 

กิเลนผยองจะลงสนามก่อนในวันเสาร์ เวลา 18.00 น. แต่งานของพวกเขาจัดว่าสาหัสสากรรจ์ทีเดียว เพราะต้องบุกไปเยือน แบงค็อก ยูไนเต็ด

แม้ว่าทีมแข้งเทพไม่ต้องลุ้นอันดับแล้ว แต่การเล่นต่อหน้าแฟนๆ เป็นนัดสุดท้ายของซีซั่น 2022-23 (ไม่นับรวมนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ) นั้นย่อมทำให้พวกเขาจัดเต็มแน่นอน แถมสถิติของ เมืองทอง ในการมา ทรู สเตเดี้ยม ก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เมื่อไม่ชนะที่นี่เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

หากกิเลนผยองปรารถนาจะไป เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาจะต้องควัก 3 คะแนนออกจากรัง แบงค็อก ให้ได้

ส่วนวันอาทิตย์ อีกหนึ่งบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ การท่าเรือ พบ ชลบุรี ที่ทีมเยือนเองก็ยังมีลุ้นไปถ้วยเอเชีย เช่นกัน แต่มีข้อแม้ว่าต้องบุกไปชนะที่ แพท สเตเดี้ยม ให้ได้เท่านั้น หากผลเป็นอย่างอื่น ฉลามชลจะหมดสิทธิ์ทันที

ขณะที่สิงห์เจ้าท่า หากผลการแข่งขันในวันเสาร์เป็น แบงค็อก ที่เก็บ 3 คะแนนจาก เมืองทอง ได้สำเร็จ พวกเขาก็แทบจะลอยลำในบัดดล

ดังนั้น การท่าเรือ กับ ชลบุรี จึงเป็นเกมที่เดิมพันสูง เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีตั๋ว เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รออยู่

อย่างไรก็ตาม ฉลามชล ดูจะเป็นรองอยู่พอสมควร เนื่องจากปล่อยผู้เล่นตัวหลักไปแข่งขัน ซีเกมส์ ที่กัมพูชา ทำให้นัดนี้จะต้องเล่นอย่างรัดกุม แล้วรอคอยจังหวะของตัวเองเพื่อปิดบัญชี

ปิดท้ายที่กลุ่มท้ายตาราง สุโขทัย เอฟซี, ประจวบ เอฟซี, ลำพูน วอร์ริเออร์ส, นครราชสีมา เอฟซี และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด กับตั๋ว ไทยลีก 2 ที่เหลืออยู่

โซนสีแดงถือว่าอีรุงตุงนังพอสมควร โดยที่วันเสาร์ ประจวบ จะไปเยือน ลำปาง เอฟซี ที่หล่นชั้นไปแล้ว แต่เชื่อว่าทีมรถม้ามรกตไม่อ่อนข้อแน่ เพราะมันคือเกมสุดท้ายของพวกเขาบนลีกสูงสุดที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับขึ้นมาอีกเมื่อไหร่

ดังนั้น ประจวบ ต้องการผลเสมอเป็นอย่างน้อย เนื่องจากยังเหลือเกมในบ้านที่จะรับมือ สุโขทัย ในแมตช์ปิดฤดูกาล

ส่วนอีกคู่ในวันเดียวกัน ขอนแก่น จะเปิดบ้านรับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่หล่นชั้นไปแล้วเช่นกัน - ทีมจงอางผยองไม่มีทางเลือกอื่น ต้อง 3 แต้ม เท่านั้น เพราะตัวเองอยู่ในพื้นที่ตกชั้น หากเก็บชัยชนะได้ก่อน จะโยนความกดดันไปที่วันอาทิตย์ในทันที

สำหรับโปรแกรมของโซนสีแดงในวันอาทิตย์นั้นเริ่มจาก สุโขทัย ที่เตรียมเปิด ทะเลหลวง สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ลำพูน ซึ่งนัดนี้ฝ่ายใดชนะคือการันตีว่าจะรอดตกชั้น 100 เปอร์เซ็นต์

แม้จะไม่ใช่ทีมใหญ่เจอกัน แต่เกมนี้เปรียบเสมือนนัดชิงชนะเลิศกลายๆ เพราะผู้แพ้ต้องลุ้นหนีตกชั้นในนัดสุดท้าย 

อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นค้างคาวไฟได้เปรียบตรงที่ผลเสมอก็เพียงพอจะอยู่รอดแล้ว แต่ถ้าปราชัยขึ้นมา อันนี้งานใหญ่แน่ เนื่องจากเกมปิดท้ายต้องไปเยือน ประจวบ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นจะร่อแร่หรือไม่

เพราะฉะนั้น สุโขทัย - ลำพูน จึงเป็นเกมที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกัน นครราชสีมา ทีมอันดับ 13 ที่มีแต้มเท่ากับ ขอนแก่น ที่ 29 คะแนน แต่ประตูได้-เสียดีกว่า (เฮด ทู เฮด เท่ากัน) จะต้องชนะสถานเดียวในการรับมือ โปลิศ เทโร เอฟซี โดยที่ตัวเองต้องภาวนาให้ผลการแข่งขันของทีมจงอางผยอง รวมไปถึง สุโขทัย, ประจวบ และ ลำพูน ไม่เป็นใจด้วย

เงื่อนไขของทัพแมวพิฆาตค่อนข้างน่าอึดอัด เพราะนอกจากจะต้องเก็บ 3 คะแนน จาก โปลิศ เทโร ให้ได้ โปรแกรมนัดสุดท้ายของพวกเขาจัดว่าโหดมหาหินกับการบุก ช้าง อารีน่า ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการฉลองแชมป์ด้วยชัยชนะต่อหน้าแฟนๆ

แมตช์เดย์ที่ 29 คือ สัปดาห์ที่ (อาจจะ) ตัดสินอันดับของสโมสร ไทยลีก ว่าใครจะได้ไป เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และรวมไปถึงทีมที่จะหล่นสู่ลีกรอง

ชิกกะด้าว