ท่าเรือ-กิเลน ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

แม้ว่า ไทยลีก 2022-23 ทำท่าว่าน่าจะเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะขยับเข้าใกล้ถ้วยแชมป์ไปทุกขณะ ทว่าการแข่งขันในโซนอื่นๆ ทั้งการชิงอันดับ 2 หรือหนีตกชั้นนั้นยังเข้มข้นอยู่

   ด้วยความที่ แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ ชลบุรี มักจะสะดุดทำแต้มตกหล่นกันพอสมควร มันจึงทำให้ช่องว่างของคะแนนลดลงและส่งถึงทีมอื่นๆ ที่สามารถสอดแทรกสู่พื้นที่ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ทุกเมื่อ

   ส่วนโซนท้ายตารางก็ต่อสู้กันสนุก เนื่องจากไล่เลี่ยกันสุดๆ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่อาจจะอยู่อันดับสุดท้าย แต่พวกเขาก็มีคะแนนห่างจากพื้นที่สีเขียวแค่ 6 แต้ม เท่านั้น

   ยังถือเป็นฤดูกาลที่ขับเคี่ยวเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา

   อย่างไรก็ตาม แมตช์เดย์ ที่ 22 คู่เอกอยู่ที่ค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี ที่จะเปิดบ้านรับมือ เมืองทอง ยูไนเต็ด

   นัดนี้อาจจะเป็นการเผชิญหน้ากันของสองสโมสรที่อยู่อันดับ 6 และ 7 ของตาราง ทว่าบิ๊กเกมที่ แพท สเตเดี้ยม มีมากกว่าการแข่งขันแน่นอน

   การท่าเรือ กับ เมืองทอง ต่างกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดี มีความมั่นใจ 

   สิงห์เจ้าท่า ตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้ 'โค้ชคู่' โชคทวี พรหมรัตน์ - สุรพงษ์ คงเทพ พวกเขาชนะไปถึง 4 จาก 5 เกม ที่ลงสนาม โดยที่จริงแล้ว นัดที่แพ้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด หากไม่เจอจังหวะน่ากังขา บางทีพวกเขาอาจจะคว้าชัยได้รวดเดียวเลยด้วยซ้ำ

   ผลงานที่ดุดันในลักษณะนี้ไม่ได้เห็นจาก การท่าเรือ มาพักใหญ่ๆ แล้ว เนื่องจากก่อนหน้า พวกเขามักจะ 3 วันดี - 4 วันไข้ เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย 

   ผู้เล่นของสิงห์เจ้าท่านั้นอยู่ในระดับท็อปของประเทศอยู่แล้ว ขุมกำลังของยักษ์ใหญ่แห่งย่านคลองเตย ไม่ได้เป็นรอง บุรีรัมย์ หรือ แบงค็อก 2 ทีมหัวตารางเลยสักนิด หากแต่ยังขาดความต่อเนื่องในระยะยาว 

   ดังนั้นพอเก็บชัยชนะได้เรื่อยๆ มันจึงเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้พวกเขากลายเป็นทีมที่คู่แข่งต้องสะพรึงกลัว

   ขณะที่ เมืองทอง ก็ฟอร์มดีไม่แพ้กัน แม้จะไม่ได้ซิวชัยได้เยอะเท่า การท่าเรือ ทว่า 3 นัด ที่ผ่านมา กิเลนผยองแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังกลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง

   เสมอ บุรีรัมย์ 4-4 แบบน่าชนะ, บุกไปเฉือน ชลบุรี 1-0 และเชือด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อีก 1-0 ถือเป็นผลงานที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะได้ 7 คะแนน จากทีมใหญ่หมดเลย

   แถมรูปแบบการเล่นของพวกเขาก็ชัดเจนและมีสไตล์ ครองบอลบุกขย่มฝั่งตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นเกมเยือนหรือในบ้าน - มาริโอ ยูรอฟสกี้ จะสั่งให้ลูกทีมใส่เกียร์ 5 เดินหน้าเสมอ

   นี่คือการพบกันระหว่าง 2 ทีม ที่กำลังมั่นใจสุดขีด ณ วินาทีนี้ 

   นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการเผชิญหน้ากับอดีตอู่ข้าวอู่น้ำของ สุรพงษ์ เฮดโค้ช การท่าเรือ ที่คัมแบ็กสู่วงการลูกหนังอีกหน 

   คราวนี้เขาจะต้องนำสิงห์เจ้าท่าปะทะกิเลนผยอง ทีมที่เขาเริ่มต้นอาชีพกุนซือเมื่อสิบกว่าปีก่อน กระทั่งเติบใหญ่อยู่ในยุทธจักรลูกหนังไทย 

   เท่านั้นไม่พอ อดีตศิษย์เก่า เมืองทอง ที่ปัจจุบันอยู่ฝั่ง การท่าเรือ ก็มีเพียบ ไล่ตั้งแต่ ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ชาริล ชัปปุยส์, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, ปฐมพล เจริญ รัตนาภิรมย์, สมพร ยศ และอาจจะรวมถึงฝาแฝด ทิตาธร-ทิตาวีร์ อักษรศรี ซึ่งเคยเป็นเยาวชนที่เคยมาเรียนฟุตบอลในหลักสูตร โคเวอร์ โค้ชชิ่ง (Coerver Coaching) กับกิเลนผยองเมื่อตอนเด็กๆ

   โดยชื่อทั้งหมดนี้ต่างก็มีอดีตกับบิ๊กทีมแห่งย่านแจ้งวัฒนะทั้งนั้น

   ส่วนฝั่ง เมืองทอง ก็มี ปรเมศย์ อาจวิไล ศูนย์หน้าทีมชาติไทย ที่เคยเป็นนักเตะอะคาเดมี่ของ การท่าเรือ ก่อนจะมาฝึกปรือศาสตร์ลูกหนังต่อที่สถาบันเยาวชนของกิเลนผยอง 

   ขณะเดียวกัน ศิวกร จักขุประสาท มิดฟิลด์มันสมองของเจ้าถิ่นก็เคยเล่นให้ทั้ง การท่าเรือ และ เมืองทอง มาแล้วทั้งสองทีม

   เรียกได้ว่าคู่นี้มีความผูกพันกันในหลากหลายมิติ

   บทสัมภาษณ์ของฝั่ง การท่าเรือ โดย 'โค้ชอั๋น' สุรพงษ์ เองก็เชื่อมั่นว่าพวกเขาจะรักษาผลงานได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเชื่อว่าเกมนี้จะสนุกแน่นอน

   เช่นเดียวกันกับบรรดาผู้เล่นของกิเลนผยองหลายๆ คนก็ออกมาประสานเป็นเสียงเดียวกันว่า 'มั่นใจ' ว่าการบุก แพท สเตเดี้ยม จะได้รับผลการแข่งขันที่ต้องการกลับไป

   คือต่างฝ่ายต่างเชื่อว่าตนเองจะเก็บ 3 คะแนน ได้แน่ๆ

   ดังนั้น 19.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม การท่าเรือ - เมืองทอง คือ 'บิ๊กแมตช์' ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport