การเข้ารอบ 16 ทีม สุดท้าย พร้อม 5 คะแนน แบบไม่แพ้ใครและยังทำสถิติ 'คลีนชีต' ได้อีกต่างหาก คือผลงานอันเลิศหรูของทีมชาติไทย ภายใต้การกำกับของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น
แน่นอนว่าด้วย 'ทรงบอล' ที่เล่นกันอย่างมีระบบและแบบแผนชัดเจน มันจึงทำให้ทัพช้างศึกสามารถเรียก 'ศรัทธา' กลับมาได้อย่างรวดเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ แฟนๆ เริ่มเหนื่อยหน่ายกับการจัดการหลายๆ อย่างจนเกิดความยุ่งเหยิงตามามากมาย
ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ที่ประเทศกาตาร์ ทั้งแฟนฟุตบอลหรือบรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างไม่เชื่อมือทีมชาติไทย ว่าจะผ่านเข้าสู่รอบน็อก-เอาต์ได้สำเร็จ ด้วยเหตุผลนานาประการ จากผลงานที่ผ่านมา ซึ่งค่อนข้างกระท่อนกระแท่น
แต่ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยนด้วยมันสมองของ อิชิอิ ที่นำทีมเชิดหน้าชูตาได้อย่างเต็มภาคภูมิ
คีร์กีซสถาน, โอมาน และซาอุดีอาระเบีย คือชาติทีมมีแรงกิ้งสูงกว่า ซึ่งก็แน่นอนว่ามาตรฐานการเล่นของพวกเขาย่อมเหนือกว่าเช่นกัน
อิชิอิ เองก็รู้ดีว่าเป็นรองเพื่อนร่วมกลุ่ม แต่ด้วยความที่เป็นกุนซือที่ปราดเปรื่องเรืองปัญญา เขาจึงวางกลยุทธ์อย่างแยบยลแบบเกมต่อเกม
สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงมันสมองของเฮดโค้ชวัย 56 ปี คือเกมที่เสมอกับซาอุดีอาระเบีย 0-0 ด้วยตัวผู้เล่นที่เปลี่ยนแบบยกชุด แถมไม่มี ธีราทร บุญมาทัน ที่ติดโทษพักแข้ง รวมไปถึง นิโคลัส มิคเคลสัน และ สุภโชค สารชาติ ซึ่งถือเป็นนักเตะคีย์แมนของทัพช้างศึกชุด เอเชียน คัพ 2023
ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปในทิศบวก เข้ารอบน็อก-เอาต์, ฟอร์มการเล่นดี, สปิริตในทีมเยี่ยม, ความฮึกเหิมเพิ่มพูน และอีกหลายสิ่งที่ช่างกระชุ่มกระชวยหัวใจคนไทย ทั้งชาติ
แฟนฟุตบอลจำนวนไม่น้อยเริ่มมองถึง 'ฟุตบอลโลก' ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะมันความคือความฝันร่วมกันและมันคือสิ่งที่คนทั้งประเทศปรารถนาว่ามันจะเกิดขึ้นในสักครั้งหนึ่งของช่วงชีวิต
บทความนี้ไม่ได้เขียนเพื่อต่อต้านความฝันนั้น หากเพียงต้องการกระตุกความคิดให้กลับมาสู่ความจริงก่อน เพราะการจะไป เวิลด์ คัพ นั้นต้องอาศัยปัจจัยรอบด้านมากมาย ซึ่งวงการลูกหนังไทย ยังห่างไกลจากชาติชั้นนำของเอเชีย อยู่พอสมควร
ย้อนกลับมาดูการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศ เอาแค่เรื่อง 'ผู้ตัดสิน' ก็ยังมีปัญหาให้ถกเถียงกันแทบทุกสัปดาห์
ตัวอย่างชัดเจนล่าสุดกับการ 'แบน' กรรมการเป็นจำนวน 1 อาทิตย์ แต่เป็นการแบนในช่วงที่ไม่มีแข่งขัน - มันคือความมหัศจรรย์ที่มักจะเกิดขึ้นให้เห็นเป็นประจำ
มาตรฐานของสนาม, สภาพความฟิตของนักเตะ, การจัดการของหลายๆ สโมสรที่ยังไม่เป็นมืออาชีพเต็มตัว, การวางรากฐานเยาวชน, แผนงานระยะยาว, การจัดการอบรมโค้ชที่ควรจะกระจายให้ทั่วถึงทุกท้องถิ่น เพื่อเพิ่มศักยภาพผู้เล่น และอีกมากมายที่ยังต้องปรับปรุงกันต่อ
ไม่นับรวมการแทรกแซงจากภายนอกต้องไม่มีให้เห็น ซึ่งมักจะส่งผลต่อเนื่องเป็นทอดๆ
อิชิอิ น่ะเก่งแน่ ฝีมือของเขาเก่งกาจพอที่จะคุมทีมใดก็ได้ในเอเชีย ไม่เว้นแม้กระทั่งสโมสร (ซึ่งเจ้าตัวเคยประสบความสำเร็จมาแล้วที่ คาชิมะ แอน์เลอร์ส) แต่ถ้าอยากให้เขาพาทัพช้างศึกไปให้ไกลกว่านี้ ก็ต้องมีทรัพยากรและสร้างความเป็นเอกภาพภายในเช่นกัน
ฟุตบอลไทย ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่มันคือศูนย์รวมจิตใจของผู้คนทั้งประเทศ
จับมือกัน ร่วมพัฒนาไปด้วยกัน ไม่เล่นนอกกติกาหรือหาผลประโยชน์เพื่อให้ตนเองพองใหญ่ แล้ววันหนึ่งความฝันเรื่องฟุตบอลโลกก็จะค่อยๆ เป็นจริงขึ้นมา
ค่อยเป็นค่อยไป อย่าเพิ่งฝันไกลเกินตัว
ชิกกะด้าว