ชานุกูล ก๋ารินทร์ จากไทยลีก 3 สู่ โปลิศ เทโร และปัจจุบันกับทีมชาติไทย

รายชื่อทีมชาติไทย ชุด ฟีฟ่า เดย์ มีนาคม 2023 ทั้ง 25 คน ล้วนแล้วแต่ผ่านประสบการณ์กับทัพช้างศึกมาแล้วพอสมควร ทว่ามีอยู่หนึ่งรายที่ถือว่าเป็น 'น้องใหม่' และเขาคนนั้นก็คือ ชานุกูล ก๋ารินทร์ มิดฟิลด์ฟอร์มร้อนแรงจาก โปลิศ เทโร เอฟซี ที่เข้ามาเป็นสมาชิกคนล่าสุด

ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงบุกไปสัมภาษณ์กองกลางวัย 25 ปี ถึงเรื่องราวในวันวานกับ เชียงราย ยูไนเต็ด, ชีวิตในเมืองหลวงกับ นอร์ธ-กรุงเทพ รวมไปถึงที่รั้วมังกรโล่เงิน และการติดทีมชาติไทย หนนี้ เขามีความคาดหวังอย่างไรบ้าง ทั้งหมดนี้เชิญคุณคลิ๊กเข้าไปอ่านได้เลย!!

1 เชียงราย รำลึก

ช่วยเล่าความเป็นมาของคุณตั้งแต่เริ่มต้นหน่อย...

   "ผมเริ่มต้นจากการศึกษาอยู่โรงเรียน อบจ.เชียงราย ซึ่งอยู่ในอำเภอเมือง เป็นโรงเรียนกึ่งกีฬา มันเลยทำให้ได้เข้ามาอยู่ในอะคาเดมี่สโมสร เชียงราย ตอนอายุ 16 ปี"

ในโรงเรียนมีใครบ้างที่ก้าวขึ้นสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ?

   "ถ้ารุ่นใกล้เคียงกัน ตอนนี้ก็มีบุ๊ก (เอกนิษฐ์ ปัญญา) ที่มาพร้อมๆ กับตัวผม แต่เขาเป็นรุ่นน้อง 2 ปี แล้วก็พี่สอง (อภิรักษ์ วรวงษ์)"

ดูเหมือนว่าคุณจะเคยลงเล่นให้ เชียงราย ตั้งแต่อายุแค่ 16 ปี ใช่ไหม?

   "ไม่เคยนะ แต่ตอนที่ผมอยู่อะคาเดมี่ของ เชียงราย ได้ 1 ปี ตัวผมถูกดันขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ รวมทั้งมีชื่อใน ไทยลีก 2014"

ตอนนั้นที่ เชียงราย มีใครบ้างที่เล่นในตำแหน่งเดียวกับคุณ?

   "โอ้โห คือกองกลางระดับเทพของลีกเลยล่ะ ตอนนั้นมีทั้งพี่แป๊ะ (พิชิตพงษ์ เฉยฉิว), พี่เบ๊นซ์ (พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์), พี่หนอน (ยุทธจักร ก้อนจันทร์) แต่ละรายนี่สายคลาสสิก ผมตื่นเต้นมากๆ ที่ได้ซ้อมกับพวกเขา"

แล้วเฮดโค้ชคือ?

   "ตอนนั้นเป็นโค้ชโจ (ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น)" 

ตัวคุณได้เรียนรู้อะไรจากพี่ๆ เหล่านั้นบ้าง?

   "ผมโชคดีมากๆ ที่ได้เห็น ได้ซ้อมกับพวกเขา ผมพยายามศึกษาทุกๆ เรื่องทั้งในและนอกสนาม การได้เจอกับพี่ๆ ซึ่งเป็นอดีตทีมชาติไทย มันทำให้ผมได้เรียนรู้ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตแบบนักฟุตบอลอาชีพ ได้เรียนรู้เรื่องจังหวะการเล่น รวมทั้งเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย"

2 หิ้วสตั๊ดล่าฝันในเมืองกรุง

คุณถูกปล่อยไปให้ อุตรดิตถ์ เอฟซี กับ น่าน เอฟซี เมื่อไหร่?

   "ประมาณฤดูกาล 2014 และ 2015 คือผมได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในระดับ ดิวิชั่น 2 (ไทยลีก 3 ในปัจจุบัน) เพื่อที่จะกลับมาเล่นให้ เชียงราย อีกครั้งในอนาคต"

ตอนนั้นคุณท้อแท้ไหมที่ต้องถูกปล่อยยืม?

   "ไม่นะ ผมคิดว่าไปเพื่อพัฒนาตัวเอง เพราะเราได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอด้วย ดังนั้นจึงตั้งใจมากๆ ที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด"

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เล่นให้ เชียงราย?

   "ตอนนั้นสัญญาของผมกับ เชียงราย หมดลงพอดี ทางสโมสรก็เรียกผมเข้าไปต่อสัญญา แต่ตัวผมอยากจะไปหาความท้าทายใหม่ๆ จึงตัดสินใจมาเรียนต่อที่กรุงเทพมหานคร"

ตอนนั้นอายุเท่าไหร่?

   "18 ย่าง 19 คือเราเรียนจบมัธยมปลายพอดีด้วย"

แล้วก็ลงเอยกับ นอร์ธ-กรุงเทพ?

   "ใช่ ผมเข้าโครงการช้างเผือกของมหาวิทยาลัยนอร์ธ-กรุงเทพ"

ตื่นเต้นหรือเปล่ากับชีวิตในเมืองหลวง?

   "ยอมรับเลยว่าช่วงแรกที่กรุงเทพฯ ผมยังปรับตัวไม่ค่อยได้ เพราะมันคือการเข้าเมืองหลวงครั้งแรกในชีวิต"

คือก่อนหน้านี้ 18 ปี ยังไม่เคยเข้ามากรุงเทพฯ เลยสักครั้ง?

   "ใช่ มันคือการมากรุงเทพฯ ครั้งแรกของผมจริงๆ"

แบบนี้แสดงว่าคงปรับตัวยากพอสมควรเลยทีเดียวใช่ไหม?

   "ก็ใช่อีก คือชีวิตความเป็นอยู่แตกต่างกับการอยู่ที่เชียงราย มากๆ ทั้งอาหารการกิน, ผู้คน, อากาศและอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เหมือนกันเลย"

อยากกลับบ้านบ้างไหม?

   "มีนะ เพราะอย่างที่บอกไป ทุกอย่างใหม่มากๆ สำหรับผม กดดันเหมือนกัน เพราะตอนนั้นเพื่อนๆ ในอะคาเดมี่ของ เชียงราย ก็ได้เล่นลีกอาชีพบ้างแล้ว ส่วนตัวผมมานับหนึ่งที่กรุงเทพฯ มันจึงทำให้ผมเริ่มคิดมาก"

คิดว่าตัดสินใจผิดไหมที่เข้ามากรุงเทพฯ?

   "ตอนนั้นก็คิดนะ บวกกับทาง เชียงราย เองก็อยากให้เรากลับไป แต่พอผมไปปรึกษากับโคต้ชแบงค์ (ดำรงค์ศักดิ์ บุญม่วง) เขาก็ให้คำปรึกษาที่ดีมากๆ และมันก็เปลี่ยนชีวิตของผมไปเลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา"

โค้ชแบงค์บอกอะไรกับคุณบ้าง?

   "คือเราคุยกันเรื่องของความฝัน ตัวผมอยากเล่น ไทยลีก ส่วนโค้ชแบงค์ก็อยากพาทีมไปเล่น ไทยลีก ให้ได้เหมือนกัน มันคือความฝันทั้งของผมและโค้ชแบงค์ เรามีจุดหมายเดียวกัน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะสู้ต่อ"

แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ขึ้น ไทยลีก 2 สักที?

   "ใช่ ตอนที่ผมอยู่ระหว่างปี 2016-2021 ผมได้แชมป์โซน 4 ครั้ง แต่พอไปถึงรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก เรา (นอร์ธ-กรุงเทพ) ไปไม่ถึง ไทยลีก 2 สักที ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้เล่นของเรามีแต่นักเตะอายุน้อยทั้งนั้น ขณะที่คู่แข่งทีมอื่นๆ มีทั้งต่างชาติ บางสโมสรก็มีอดีตทีมชาติไทย"

3 ก้าวสำคัญกับ โปลิศ เทโร

แล้วตัวคุณมาอยู่กับ โปลิศ เทโร ได้อย่างไร?

   "คือตอนนั้น นอร์ธ-กรุงเทพ ลงสนามอุ่นเครื่องกับ โปลิศ เทโร บ่อยๆ แล้วทางโค้ชอ้น (รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค) คงจะเห็นแววของผม ก็เลยได้มาลงเอยกับ โปลิศ เทโร เมื่อปี 2021"

คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้ โปลิศ เทโร เซ็นสัญญากับคุณ?

   "อาจจะเป็นเรื่องของความตั้งใจ เพราะผมรักฟุตบอลมากๆ ผมอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ อยากเล่น ไทยลีก มันจึงทำให้ทุกๆ วันของผม ผมจะซ้อมอย่างเต็มที่เสมอ"

จาก ไทยลีก 3 แล้วขึ้นมาลีกสูงสุดเลย กดดันหรือเปล่า?

   "ยอมรับเหมือนกันว่าเกร็งๆ เหมือนกัน อย่างแรก ไทยลีก คือความฝันของเราอยู่แล้ว พอได้มาเล่นจริง มันเลยรู้สึกตื่นเต้น อย่างที่สองคือการที่ต้องได้เจอกับคนเก่งๆ ในทุกๆ สัปดาห์ มันเป็นอะไรที่ต้องปรับตัวกันมากทีเดียว เพราะไม่ใช่แค่ผู้เล่นไทย ยังมีนักเตะต่างชาติที่ทั้งแข็งแกร่งและสร้างความแตกต่างได้ในเสี้ยววินาที"

แต่ตัวคุณก็ไปได้สวยนะ อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ผลงานกับ โปลิศ เทโร ยอดเยี่ยมแบบนี้?

   "ผมว่ามันเกิดจากการฝึกซ้อม อย่างที่ผมได้บอกไปว่าผมจะเต็มที่ทุกๆ ครั้งในสนามซ้อม คือโค้ชสั่งมา 100 ผมจะทำ 120 เสมอ เพราะผมเชื่อว่าผลจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก มันจะเห็นในเกมแข่งขันจริงๆ"

แล้วปีแรกกับ โปลิศ เทโร ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?

   "ใน ไทยลีก 2021-22 ผมลงสนามเกือบครบทั้ง 30 เกม แต่พลาดไปแมตช์เดียว คือติดโทษแบน"

4 สู่ทำเนียบทีมชาติไทย

ฟอร์มการเล่นของคุณดีขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่ามันย่อมอยู่ในสายตาของ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ตอนนั้นคุณเริ่มคิดแล้วหรือเปล่าว่าจะติดทีมชาติไทย?

   "ตอนแรกก็ไม่ได้คิดไกลไปขนาดนั้นเลย เพราะตัวผมเองก็เพิ่งเล่น ไทยลีก เป็นฤดูกาลที่ 2 แถมกองกลางคนอื่นๆ ในเมืองไทย ก็เก่งๆ ทั้งนั้น เลยรู้สึกว่าคงจะไวเกินไปที่จะฝันถึงทีมชาติไทย"

แต่คุณก็อยู่ในลิสต์ 50 รายชื่อล็อตแรกของทีมชาติช่วง ฟีฟ่า เดย์ มีนาคม 2023?

   "ยอมรับตามตรงว่าแค่นั้นก็ดีใจมากๆ แล้ว แต่ก็แอบคาดหวังนิดๆ ว่าผลงานที่ทำได้ดีกับสโมสรจะทำให้โค้ช (อเล็กซานเดร โพลกิ้ง) สนใจเราบ้าง ทว่าก็เผื่อใจไว้เหมือนกัน เพราะอย่างที่บอกไปว่าในทีมชาติมีกองกลางเก่งๆ อยู่เยอะมาก"

แล้วพอรู้ว่าเป็น 1 ใน 25 คนล่ะ?

   "ตอนแรกก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน แม้ว่าการติดทีมชาติไทย เป็นความฝันของผม แต่เพราะมันคือครั้งแรกสำหรับผม ผมเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง ในรายชื่อก็มีแค่บุ๊ก (เอกนิษฐ์ ปัญญา) ที่ผมรู้จัก แต่ตอนหลังเขาก็ถอนตัวอีก"

ใครคือคนแรกที่คุณโทรศัพท์ไปบอก?

   "จริงๆ ไม่ได้โทรศัพท์ไป ผมไลน์บอกครอบครัว แล้วก็ส่งข้อความไปหาครูบา-อาจารย์ในสมัยเด็ก บอกพวกเขาว่าผมติดทีมชาติแล้วนะ ทุกคนก็ตื่นเต้นกันมาก พวกเขาเป็นกำลังใจ แล้วก็บอกให้ผมทำหน้าที่ให้ดีที่สุดกับโอกาสในครั้งนี้"

5 ความคาดหวังในอนาคต

การได้ซ้อมกับ ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในไอดอลของคุณ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?

   "ตื่นเต้นมาก เกร็งมาก แต่พอเวลาผ่านไป มันเริ่มผ่อนคลาย เพราะพวกพี่ๆ ต่างก็ให้คำแนะนำและปฏิบัติกับเราเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของทีม ซึ่งมันคือความประทับใจของผมเลยล่ะ กับการได้รู้จักกับคนเก่งๆ แบบนี้"

ตัวคุณคาดหวังอะไรกับการติดทีมชาติไทย ในครั้งนี้?

   "ผมอยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด อยากเรียนรู้จากรุ่นพี่ทีมชาติทุกคน และผมจะมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อนำไปปรับใช้กับตัวเองในอนาคต"

แล้วเป้าหมายของตัวเองต่อจากนี้ล่ะ?

   "ผมอยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อยากพา โปลิศ เทโร ประสบความสำเร็จในวันใดวันหนึ่ง และก็อยากมีชื่อกับทีมชาติไทย ในครั้งต่อๆ ไป"


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport