โค้ชฉ่วย โมโห เจอความไม่เท่าเทียมในสังคมฟุตบอล

ทีมงานฟุตบอลสยามรายวัน ได้รับการเปิดเผยจาก "โค้ชฉ่วย"สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือฟุตบอลลีกไทยวัย 69 ปี ที่ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวถึงความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการคัดเลือกผู้ที่จะเข้ารับการเรียนโค้ชในระดับ โปรไลเซนต์ งวดใหม่ที่กำลังจะเปิดครอสในเร็วๆนี้ โดย โค้ชฉ่วย ตัดสินใจยื่นสมัครเข้าเรียนด้วย โดยใช้ทุนส่วนตัว ซึ่งค่าเรียนก็ปาไปกว่า 500,000 บาท ก็จำเป็นต้องเรียน เพราะต้องการที่จะปฎิบัติตามกฏระเบียบที่ ส.บอลฯ กำหนด เกี่ยวกับโค้ชไทยลีกจะต้องมีโปรไลเซนต์ เพื่อที่จะได้ใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินในวิชาชีพโค้ช แต่สุดท้ายก็ไม่มีชื่อเข้าครอสเรียน พยายามสอบถามไปกับเจ้าหน้าที่ต่างๆ ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าเพราะอะไร 

"ผมพยายามทำตามกฏ โค้ชที่คุมข้างสนาม ต้องมีโปรไลเซนต์ ผมก็จะไปเรียน ใช้เงินส่วนตัว แต่ก็ไม่มีชื่อเรียน ผมถามว่าเพราะอะไร ก็ไม่มีใครตอบผมได้ ผมว่าเรื่องการเลือกโค้ชที่ไปเรียน ซี / บี / เอ หรือ โปรไลเซนต์ ก็คงจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนกลุ่มนึง บางคนไม่มีโปรไฟล์มาเลย แต่ได้ไปเรียน ไหนจะต่างชาติอีก ก็ต้องบอกว่ากลุ่มผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจในการเลือก เลือกแต่พรรคพวกตัวเองหรือเปล่า"

 "ปัญหามันน่าจะอยู่ใต้พรม ยังไม่มีใครสะบัดให้สังคมได้รับรู้ ส.บอล ไม่สามารถจัดการเรียนด้วยการหาสปอนเซอร์มาได้ ก็ต้องมีค่าสมัคร สมัยก่อนมีเรียนไลเซนต์ แต่ไม่เสียเงินเยอะอะไรขนาดนี้ โอเคครั้งนี้ต้องเสียเงินเยอะ ผมก็อยากจะเรียนเพื่อให้ได้ตามหลักการของ ส.บอล แต่บางทีก็เสียความรู้สึกเหมือนกัน"

"คนได้เรียน กับคนที่ไม่มีชื่อ กระบวนการคัดเลือก เอาอะไรมาตัดสินว่าใครจะได้ หรือ ไม่ได้ ต่างชาติที่มาทับกับโค้ชคนไทย ทำไมถึงให้สิทธิ์โค้ชต่างชาติมาก่อนคนไทย แล้วโค้ชที่เขาทำฟุตบอลอาชีพในปัจจุบัน เขาจะเอาไลเซนต์จากไหนมาประกอบวิชาชีพ ถ้าไม่มีชื่อเรียน จริงๆก็น่าจะให้สิทธิ์กับโค้ชที่ทำลีกอาชีพก่อน โค้ชบางคนไม่เคยทำฟุตบอลระดับไทยลีก หรือ ลีกอื่นๆมาเลย แต่มีชื่อ ถ้าถามถึงเรื่องอายุ อายุเยอะเกี่ยวไหม แล้วทุกวันนี้ผมอายุเยอะ ก็ยังมีสโมสรเขาจ้างทำทีม ทำอยู่ตลอด พาทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ไทยลีก2 พาทีมขึ้นไทยลีกมาก็เยอะ ผลงานทุกคนเห็นอยู่แล้ว ถ้าผมอายุเยอะแล้วไม่มีใครจ้างก็ว่าไปอย่าง"