ญี่ปุ่น 4-2 เวียดนาม กับภาพสะท้อนถึงบางพื้นที่

   ก่อนการแข่งขัน สื่อทุกสำนักหรือผู้เชี่ยวชาญทุกแห่งหนต่างฟันธงว่ายังไง เดอะ บลู ซามูไร ก็จะเคี้ยวชาติเบอร์หนึ่งจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แบบไม่ยากนัก ด้วยมาตรฐานและศักยภาพต่างๆ ที่เหนือกว่าบานตะไท

   รูปเกมที่ออกมาก็ไม่ผิดเพี้ยนจากที่คิดกันไว้ ญี่ปุ่น เป็นฝ่ายครองบอลโหมกระหน่ำใส่ทัพดาวทองตั้งแต่วินาทีแรก กระทั่งขึ้นนำในนาทีที่ 11 จาก ทาคุมิ มินามิโนะ ซึ่งชวนให้แฟนฟุตบอลประเภท 'ท่านต่อ' ยิ้มกริ่มกันถ้วนหน้า เพราะสกอร์น่าจะไหลไปในทิศทางบวก

   แต่กลับผิดคาด เวียดนาม ดันตีเสมอจากลูกโหม่งสุดมหัศจรรย์ มิหนำซ้ำยังผงาดพลิกแซง 2-1 อีกต่างหาก

   เอเชียถึงกับสะเทือน เพราะสกอร์ที่ออกมา หลายๆ คนต้องขยี้ตาไป-มาว่านี่มันเรื่องจริงหรือเปล่า

   นาทีที่ 33 เวียดนาม ขึ้นนำญี่ปุ่น 2-1

   นี่ขนาดไม่มี เหงียน กวง ไฮ ซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งอยู่ในสนาม, ไม่มี โดน วาน เฮา กับ เหงียน เทียน ลินห์ ที่ได้รับบาดเจ็บจนพลาดการทัวร์กาตาร์ แถมนักเตะหลายๆ คนก็เป็นแข้งหน้าใหม่ที่ประสบการณ์ในเวทีนานาชาติยังน้อยนิด แต่ลูกทีมของ ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ กลับทำในสิ่งที่เหลือเชื่อ โดยตอนที่สกอร์เป็นต่ออยู่ พวกเขาก็ยังเล่นได้อย่างมีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด 

   แต่ด้วยมาตรฐานและศักยภาพของญี่ปุ่น ที่ค่อยๆ หาช่องเข้าทำทีละนิด จนได้ประตูตีเสมอ ก่อนจะพลิกขึ้นนำอีกครั้งก่อนจบครึ่งแรก สถานการณ์ทุกอย่างก็คลี่คลาย

   ในทางกลับกัน หากไม่ได้ประตูแซง 3-2 ในช่วงทดเวลาครึ่งแรกนาทีที่ 4 บางทีผลการแข่งขันอาจจะกลับตาลปัตรเลยก็ได้

   ตลอด 90 นาที ในสนาม เวียดนาม แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจในการเล่น แม้จะเสียประตูเร็ว แต่ก็ไม่ท้อแท้ แม้คู่แข่งจะเป็น 'เต็งหนึ่ง' ของทัวร์นาเมนต์ แถมยังยกระดับไปเป็นทีมระดับโลกแล้วอีกต่างหาก

   ในเมื่อรู้ว่าเป็นรอง พวกเขาก็ใช้ลูกฮึด ลูกขยันเข้าสู้ เล่นด้วยวินัย จนสร้างความลำบากให้กับ เดอะ บลู ซามูไร อย่างที่เห็น

   2 ประตูที่ทัพดาวทองทำได้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ หากแต่เกิดจากการฝึกซ้อมซ้ำๆ ย้ำๆ จนเป็นที่มาของลูกเซ็ตพีซที่ ฮาจิเมะ โมริยะซุ กุนซือญี่ปุ่น ต้องออกมาบอกว่านี่คือ 'บทเรียน' ที่ลูกทีมของเขาต้องนำไปปรับปรุง

   แม้จะปราชัย แต่มันคือพ่ายแพ้ที่แสดงให้เห็นว่าเวียดนาม ยังคงพัฒนาศักยภาพของตัวเองอยู่เสมอ การจัดการภายในมีการวางแผนระยะยาว เพราะรู้อยู่แล้วว่าโปรแกรมทีมชาติมีแข่งขันในเดือนไหนบ้าง 

   ส่วนฟุตบอลลีก ก็หลีกทางให้ เพราะปิดฉาก (แข่งขันถึงนัดที่ 8 ของฤดูกาล 2023-24) ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2023 เพื่อให้ทีมชาติได้เตรียมตัวกันเต็มๆ

   สโมสต่างๆ ใน วีลีก ต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะมันคือ ออล ฟอร์ วัน ไม่ใช่ วัน ฟอร์ ออล

   ตอนอุ่นเครื่องตามปฏิทิน ฟีฟ่าเดย์ พวกเขาก็ไม่ได้บินไปไหนไกล เพราะรู้ดีว่า เอเชียน คัพ 2023 และฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก นั้นต้องแข่งขันกับชาติในเอเชีย ล้วนๆ ดังนั้นจึงเลือกเตะกระชับมิตรกับจีน, อุซเบกิสถาน, คีร์กีซสถาน และเกาหลีใต้ แม้ว่าทุกนัดจะจบลงด้วยความแพ้พ่าย แต่สิ่งที่ได้มาคือประสบการณ์อันล้ำค่าที่จะนำไปปรับปรุงเพื่อต่อยอดในอนาคต

   ญี่ปุ่น 4 - 2 เวียดนาม มันคือภาพสะท้อนถึงบางพื้นที่เหมือนกัน

ชิกกะด้าว