บรูโน่ ปลุกผี,อาหมัด เปิดซิง! 5 ประเด็น แมนฯ ยูไนเต็ด กู้ชื่อปลิดชีพ นิวคาสเซิ่ล

1. ผีเฮกัปตันคืนฟิต-ดร็อป ฮอยลุนด์

แมนฯ ยูไนเต็ด ได้รับข่าวเมื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กลับมาลงสนามได้หลังจากกัปตันคนสำคัญเจ็บมือจนพลาดการลงเล่นไปสองนัดซึ่ง ผีแดง แพ้แบบดูไม่จืดทั้งสองเกม

อย่างไรก็ดี เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวดัตช์เลือกดร็อป ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าทีมชาติ เดนมาร์ค ที่อยู่ในช่วงฟอร์มแย่อีกหนให้เป็นตัวสำรองโดยสตาร์เลือดโคนมสอยตาข่ายได้แค่เม็ดเดียวจาก 12 นัดกับทั้งสโมสร และทีมชาตินับตั้งแต่หายเจ็บกลับมาลงสนามได้เมื่อเดือนมี.ค.

ด้าน ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่กลับมาลงซ้อมได้แล้วมีชื่อนั่งข้างสนามด้วยกันทั้่งคู่

เทียบไลน์อัพจากเกมแพ้ อาร์เซน่อล คารัง 1-0 นัดก่อน เจ้าถิ่นปรับโผรายเดียวเท่านั้นโดยกองกลางทีมชาติ โปรตุเกส ได้เสียบแทน ฮอยลุนด์ ขณะที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ถูกจับให้รับบทหัวหอก

สำหรับ อ็องเดร โอนาน่า ผู้รักษาประตูทีม แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นนักเตะใน พรีเมียร์ลีก ที่ได้ออกสตาร์ตในทุกรายการของซีซั่นนี้มากที่สุดแล้วจากจำนวน 49 นัด

2.สาลิกาไม่โกงปรับหนึ่งตำแหน่ง

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วางหมากด้วยการเปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงแค่รายเดียวเช่นกันจากเกมเปิดบ้านไล่ตีเสมอ ไบรท์ตัน 1-1 

เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือ เดอะ แม็กพายส์ เลือกใช้งาน คีแรน ทริปเปียร์ กองหลังจอมเก๋าลงเล่นเป็นตัวจริงเกมแรกนับตั้งแต่เดี้ยงไปเมื่อวันที่ 2 มี.ค.โดย ติโน่ ลิฟราเมนโต้ หายหน้าไปจากทีม

ด้วยเหตุนี้จึงหมายความว่า อเล็กซานเดอร์ อิซัก กองหน้าตัวกลั่นที่มีข่าวว่าป่วยสามารถฟื้นตัวลงเล่นได้

ด้าน นิค โป๊ป นายทวารมือหนึ่งของทีมซึ่งไหล่หลุดไปตั้้งแต่เดือนธ.ค.ยังต้องรอคัมแบ็คต่อไปหลังมีชื่อเป็นตัวสำรองสามนัดติดต่อกันแล้ว และยังไม่ได้เล่นเลยนับตั้งแต่ย่างเข้าสู่ปี 2024

3. แฟร์นันด์ส ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามย้าย

หลังได้ แฟร์นันด์ส กลับมาลงสนาม เห็นได้ชัดว่าเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีชีวิตชีวามากขึ้่นทันที อีกทั้งนักเตะหลายรายออกอาการคึกคักกันโดยพร้อมเพรียงหลังได้จอมทัพคนเก่งกลับมาช่วยบงการเกม

และในที่สุด ปีศาจแดง ก็ได้ประตูขึ้นนำ นิวคาสเซิ่ล 1-0 จากฝีเท้าของ ค็อบบี้ เมนู ในนาทีที่ 32 หลังจากสองเกมก่อนหน้านี้ที่ทีมปราศจากดาวเตะทีมชาติ โปรตุเกส เร้ด เดวิลส์ แพ้ทั้งสองเกมชนิดที่ยิงประตูไม่ได้เลย และโดนสอยตาข่ายมากถึงห้าประตูซึ่งก่อให้เกิดความสุ่มเสี่ยงถึงการพลาดโควต้าลงเล่นถ้วยยุโรปในซีซั่นหน้า

แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น การขาด แฟร์นันด์ส ทำให้ฟอร์มของ ปีศาจแดง เลวร้ายอย่าบอกใครเนื่องจากทีมไม่มีกองกลางคนไหนสามารถแทนที่เขาได้ แต่หลังจากดาวเตะจอมอึดซึ่งเจ็บจนพลาดการลงบู๊เป็นครั้งแรกในชีวิตกลับมาลงสนามได้ เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่แลดูตีบตันไร้ไอเดียเนื่องจากไม่มีใครสร้างสรรค์เกมได้ก็มีความวูบวาบมากขึ้น และสร้างปัญหาให้แผงหลัง สาลิกาดง ได้บ่อยครั้ง

นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงการเป็นคีย์แมนของทีมแล้ว แฟร์นันด์ส ยังจัดแอสซิสต์เพิ่มได้อีกสำหรับประตูตอกฝาโลงที่ ฮอยลุนด์ ลงสนามไปได้แค่พริบตาเดียว และจัดการกระทุ้งเม็ดสามให้ ผีแดง กำชัยไปได้ในท้ายที่สุดด้วยสกอร์ 3-2 

ถึงตรงนี้ มันจึงชัดเจนว่า แฟร์นันด์ส คือ "เดอะ แบก" ตัวจริงของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด และบอกได้เลยว่าสโมสรห้ามปล่อยให้เขาย้ายออกไปเด็ดขาดหลังมีข่าวลือว่าเจ้าตัวอาจโบกมือลาทีมในซัมเมอร์นี้โดยมี บาเยิร์น ให้ความสนใจ รวมถึง อัล นาสเซอร์ ทีมใน ซาอุดิ อาระเบีย ที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติ โปรตุเกส อยู่ในสังกัดด้วย

4. อาหมัด เริ่มนับหนึ่ง

ในที่สุด อาหมัด ดิยัลโล่ ดาวเตะวัย 21 ปีก็ซัดเม็ดเบิกร่องของตัวเองในเกม พรีเมียร์ลีก ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จนได้หลังย้ายมาจาก อตาลันต้า ตั้งแต่ปี 2021 และถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวไปใช้งานในช่วงแรก

นอกจากนี้ต้องบอกว่าประตูของดาวเตะแอฟริกันมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดด้วยเนื่องจากเขาพาทีม แมนฯ ยูไนเต็ด กลับไปนำหน้าอย่างรวดเร็วอีกหน 2-1 ในนาทีที่ 57 หลังจาก แอนโธนี่ กอร์ดอน ยิงตีเสมอให้ทีมอีสานได้ในนาทีที่ 49 ซึ่งเป็นการเพิ่มความอุ่นใจให้กับขุนพล ผีแดง ได้อีกครั้ง

ไม่เพียงเท่านั้น อาหมัด ยังผ่านบอลให้ ค็อบบี้ เมนู กดเม็ดแรกของเกมด้วย และทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะวัยรุ่นสอยตาข่ายในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้เป็นลูกที่ 10 แล้ว (อเลฮานโดร การ์นาโช่ 7) ,เมนู (3) ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดอันดับสามของทีมต่อจากซีซั่น 2004/05 (15ประตู) และ 2019/20 (11 ประตู)

ในส่วนของ อาหมัด เอง เขากลายเป็นขุนพลทีมชาติ ไอวอรี่ โคสต์ รายที่สองที่ยิงประตูเกม พรีเมียร์ลีก ให้ เร้ด เดวิลส์ ได้ต่อจาก เอริค ไบยี่ ซึ่งกระทุ้งได้เม็ดเดียวในปี 2017

5. ดราม่าวีเออาร์???

จากจังหวะที่ นิวคาสเซิ่ล ไม่ได้ลูกโทษ เชื่อเหลือเกินว่าสาวก ทูน อาร์มี่ ย่อมเห็นต่างจากผู้ตัดสินเพราะแม้ กาเซมีโร่ จะเสียบสกัดโดนบอล แต่ โซฟียาน อัมราบัต เหมือนปะทะใส่ กอร์ดอน จากด้านหลังจนล้มคว่ำ หากแต่วีเออาร์ไม่เห็นแย้งกับท่านเปา

หลังจากเจ้าบ้านรอดพ้นจากเสียลูกโทษ เวย์น รูนีย์ ซึ่งเป็นอดีตกองหน้า ผีแดง เองลงความเห็นในฐานะคอมเมนเตเตอร์ว่า เดอะ แม็กพายส์ สมควรได้ลูกโทษ และบอกได้เลยว่ามันจะเป็นกรณีถกเถียงกันอย่างหนักโดยเฉพาะล่าสุด วูล์ฟส์ ส่งเสียงเรียกร้องให้มีการโหวตยกเลิกการใช้วีเออาร์ในซีซั่นหน้าในการประชุมเดือนหน้าโดยจะต้องมี 14 จาก 20 สโมสรโหวตสนับสนุนจึงจะสามารถยกเลิกเทคโนโลยีดังกล่าวได้

ว่ากันตามจริง ต่อให้สุดท้ายอาจมีการโหวตเห็นชอบให้มีการยกเลิกวีเออาร์ก็เชื่อได้เลยว่าฟุตบอล พรีเมียร์ลีก จะกลับไปอยู่ในวังวนเดิมๆที่ผู้ตัดสินจะเป็นใหญ่ที่สุดในสนามโดยไม่มีใครเห็นแย้งได้ ขณะที่แม้วีเออาร์อาจมีปัญหา และมีความน่ากังขาในหลายๆเกม แต่หลายครั้งที่มันเป็นหลักฐานบ่งชี้ได้ว่านักเตะสมควรได้ใบแดงหรือไม่ และมันสมควรเป็นประตูหรือเปล่าซึ่งน่าจะดีกว่าการย้อนเวลากลับไปหาอดีตที่ไม่มีการนำหลักฐานมายืนยันความถูกต้องหรือความบกพร่องของท่านเปา

ฉะนั้นแล้วหากมีการยกเลิกวีเออาร์ สิงห์เชิ้ตดำจะทำงานได้อย่างสะดวกใจมากขึ้นกว่าปัจจุบันอย่างแน่นอนเนื่องจากพวกเขาไม่ต้องเกรงว่าจะมีหลักฐานประจานความผิดพลาดให้ต้องโดนพักงานในเมื่อสโมสรส่วนใหญ่เห็นชอบที่จะให้ฟุตบอลกลับไปสู่จุดเดิมที่พึ่งพาความผิดพลาดของมนุษย์เป็นหลักซึ่งในเวลาต่อมาเป็นสโมสรต่างๆเองนั่นแหละที่เรียกร้องให้มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยงานผู้ตัดสินก่อนนึกอยากเปลี่ยนใจขึ้นมาซะอย่างนั้น

กระนั้นก็ดี ต้องรอดูว่าทีมส่วนใหญ่จะเห็นดีด้วยกับทีม หมาป่า หรือเปล่าเพราะหากพวกเขาล็อบบี้เสียงโหวตได้ไม่มากไปกว่า 14 เสียง การยกเลิกวีเออาร์ก็จะไม่เป็นผล