"ฮาลันด์ & นูนเญซ" กับการตกเป็นเป้าของการวิจารณ์

เออร์ลิง ฮาลันด์ กับ ดาร์วิน นูนเญซ ตกเป็นเป้าของการวิจารณ์อีกครั้ง

ทั้งที่สองคนนี้ก็มีผลงานแบบต่อเนื่องเชิงตัวเลข 

ลองดูผลงานสองคนในซีซั่นนี้กันสักนิดครับ

ฮาลันด์ นำดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 19 ลูก จากการยิงทั้งสิ้น 97ครั้ง/25 เกม

  • ยิงชนเสาและคาน 2 ครั้ง
  • ค่า xG 0.80
  • แอสซิสต์ 5 
  • (รวมทุกรายการ ยิง30 ลูก แอสซิสต์ 6)

ดาร์วิน นูนเญซ ยิงไป 11 ลูก จากการยิง 100ครั้ง/29 เกม

  • ยิงชนเสาและคาน 9 ครั้ง
  • ค่า xG 0.70
  • แอสซิสต์ 8
  • (รวมทุกรายการ ยิง  18 ลูก แอสซิสต์13)

ภาพรวมเชิงตัวเลขสองคนนี้ถือว่า "มีส่วนร่วม" กับการได้ประตูของทีมเยอะมาก

ประตูได้ของแมนฯซิตี้ในพรีเมียร์ลีกล่าสุดคือ 71 ลูก เท่ากับ ฮาลันด์ มีส่วนในการได้ประตูทั้งยิงและแอสซิสต์ 17.04%

ขณะที่ลิเวอร์พูลยิงในลีกไป 72 ลูก โดยดาร์วินมีส่วนกับการได้ประตูจำนวน 13.68%

ถือว่าทำงานได้ตามเป้า ด้วยระบบและรูปแบบการเข้าทำของสองทีมนี้เอื้อให้ทั้งดาวยิงของทีมและนักเตะคนอื่นๆมีส่วนร่วมในการได้ประตูกันเฉลี่ยหลายคนอยู่

แน่นอน ฮาลันด์ คือดาวยิงของเรือใบ ส่วน ดาร์วิน อาจเป็นพระรองเพราะดาวยิงหงส์แดงคือ โม ซาลาห์ (17+9) ที่ผลงานชัดสุดเรื่องนี้ เขาไม่ค่อยโดนเรื่องผลงาน จะโดนก็คงเป็นเรื่อง "หวงการยิง" ในบางเกมเท่านั้น

เมื่อดูเชิงตัวเลขแล้ว.....ฮาลันด์ กับ ดาร์วิน นูนเญซ ไม่สมควรโดนวิจารณ์

แต่ก็นั่นแหละครับท่านผู้ชม....นักวิเคราะห์ วิจารณ์ คงไม่มองมิติใดมิติหนึ่งในการวิจารณ์ คงมองภาพรวมแล้วเลือกสักหนึ่งมิติหรือหนึ่งประเด็นเพื่อมาวิจารณ์

ไม่งั้นจะเป็นนักวิจารณ์ไปทำไม อันนี้เช่นเดียวกันกับแฟนบอลทีมตัวเองด้วยนะครับ

ขึ้นกับว่าการวิจารณ์นั้นออกแนวไหน...โลกยุคโซเชียลว่ากันว่า การวิจารณ์ต้องดุดัน เผ็ดร้อนเพื่อเรียกร้องความสนใจ ยอดไลค์, ยอดแชร์ ให้กับสื่อทั้งของตัวเองและสื่อที่ตัวเองไปทำงานด้วย

อันนี้ผมหมายถึงที่อังกฤษนะครับ....ไม่เกี่ยวกับที่อื่น

อย่างเช่นนักเตะคนโปรดของผมคนหนึ่งยุคพรีเมียร์ลีกที่ชื่อ รอย คีน

เวลาพี่แกวิจารณ์ ถ้ามีมุมฟุตบอลก็จะดีมากแต่ถ้าออกแนวตำหนิ แบบให้เจ็บใจ นั้นก็ดูจะแรงมากเกิน

อย่างล่าสุดเมื่อต้นเดือนเม.ย.หลังเกมเสมออาร์เซน่อล 0-0  แกบอกว่า ฮาลันด์ นั้นมีส่วนร่วมกับเกมรุกแมนฯซิตี้น้อย และต้องปรับปรุงผลงานโดยรวมกับทีมให้ดีขึ้น ผลงานของเขาตอนนี้เหมือนกันกับนักเตะลีกทู (ดิวิชั่นสี่อังกฤษ)

โห...แรงจริง ฮาลันด์ จะเป็นนักเตะลีก ทู ได้ไง

วิจารณ์แบบนี้ ยอดไลค์ ยอดแชร์ สนั่นโลก

ยิ่ง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ออกมาปกป้อง ฮาลันด์ ยิ่งทำให้เกิดประเด็นถกเถียงวงกว้าง

"ผมไม่เห็นด้วยกับ รอย คีน มันเหมือนกันกับว่า ถ้าผมวิจารณ์ว่าเขาคือ ผ.จ.ก. ทีมฟุตบอลระดับ ลีกวัน ลีก ทู นั่นแหละ"

นอกจากนั้นยัง "แซะ" นักข่าวด้วย "ผมเข้าใจนักข่าวในการวิจารณ์ เพราะพวกเขาไม่เคยอยู่ในสนามฟุตบอล"

อุ้ยยยยย.....เสียงพี่หนุ่ม กรรชัย ดังขึ้น 

มีใครถูกผิดจากเรื่องนี้....บ้าง

ต่างมุมมอง แต่การวิจารณ์หรือการติ ติง ก็ไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป

บางที รอย คีน อาจจะยังแค้นพ่ออัลฟี ฮาลันด์ สมัยปะทะกันในสนามทั้งที่ลีดส์ และแมนฯซิตี้ อยู่ก็ได้

5555 

ส่วน ดาร์วิน นูนเญซ ก็มีทั้งนักวิจารณ์ที่เห็นด้วยและเห็นต่างจากผลงานของเขา รวมทั้งแฟนหงส์แดงเองก็มีไม่น้อยที่วิจารณ์เขาว่าเป็นกองหน้าที่ขาดความคม และใช้โอกาสเปลืองเกินไป

มุมของ ดาร์วิน มีความต่างในแง่การมีส่วนร่วม จะเน้นไปทาง "การยิง" หรือ "จบสกอร์" ในฐานะหน้าเป้า 

หลุดเดี่ยงยิงออก บอลกระฉอก ยิงข้ามคาน

แทนที่จะแม่นตาข่ายดันไปแม่นเสากับคาน

นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่โดนเต็มๆน่าจะหลังเกมแดงเดือด ที่ไม่สามารถตัดสินใจทำอะไรให้เด็ดขาดในการสถานการณ์กรอบเขตโทษแมนฯยูฯ จังหวะสองสามหลาควรยิงก็ดันส่ง และส่งไปให้ผู้เล่นคู่แข่ง จากจังหวะที่ทีมตัวเองได้เปรียบ บอลจะเข้าประตูอยู่แล้ว

ถ้าให้ผมประเมินการวิจารณ์ของนักวิจารณ์ แม้กระทั่งตัวผมเองด้วยนะครับ

ผมคิดว่ามุมมองของ คีน และหลายๆคนที่ มุ่งเป้าวิจารณ์ ฮาลันด์ กับ นูนเญซ คงเป็นมิติเดียว

นั่นคือสองคนนี้ "ไม่ฉายเกมใหญ่"

อย่างที่ทราบกันดี big games need big player 

ถ้าอยากเป็นนักเตะระดับเวิลด์ คลาสหรือ A+ เกมใหญ่ เกมสำคัญ หรือเกมที่ต้องการประตูอย่างยิ่ง ต้องทำได้ ต้องยิงให้เข้าประตู

เช่นยิงเข้าประตูเพื่อตีเสมอทีมแบ่งแต้มสำคัญ

ยิงได้ทีมชนะหรือคว้าแชมป์ไปครอง 

อย่างที่ผมเขียนไปในเพจนะครับ....เราต้องแยกเรื่องในการวิจารณ์

เราจะวิจารณ์เรื่องไหน....การมีส่วนร่วมกับทีม หรือ ความคมในการยิง

ฮาลันด์ จะโดนเรื่องที่ว่าพอถึงเกมใหญ่มักหายไป อย่างล่าสุดแชมเปี้ยนส์ลีกยิงกันโครมคราม 6 ลูก นอกจากจะไม่ยิงแล้วยังโดนมองว่ามีส่วนร่วมเล่นน้อย อันนี้ผมก็คิดว่า มุมโค้ชไม่สนใจนะครับ เพราะโค้ชมองว่าการร่วมเล่นไม่จำเป็นต้องรับส่งบอลให้เพื่อน แค่พาตัวประกบหนี เปิดพื้นที่ให้คนอื่นๆเล่น นี้ก็มีส่วนร่วมที่ไม่ด้อยค่ากว่าการแอสซิสต์ เลยนะครับ

ส่วน ดาร์วิน นั้น คงเป็นเรื่องเดียวแหละครับ

"ยิงไม่คม" และ "ใช้โอกาสเปลือง" 

อย่าว่าแต่เกมใหญ่เลย เกมเล็กก็บ่อย

กล่าวคือฝากผีฝากไข้อะไรไม่ได้ ว่ากันแบบนั้น แล้วเมื่อถึงช่วงสำคัญของซีซั่นแบบนี้ ยิ่งจำเป็นเหลือเกิน

ดาร์วิน นูนเญซ มีจำนวนแมตช์เหลืออีก 7 นัด ที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง

หรือไม่เขาก็จะจบซีซั่นนี้ในฐานะนักเตะเกรดบี+

ที่ยิงได้เล่นกับทีมได้ แต่เป็นที่พึ่งของทีมในยามคับขันไม่ได้ 

ถ้าวิจารณ์มุมนี้........มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดไปจากความจริงสักเท่าไหร่

หรือมีใครเห็นต่างก็เม้นต์กันเข้ามา

โลกต้องการ...การแชร์ไอเดีย (ที่สร้างสรรค์) 

- JACKIE -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport