หงส์เหนือสาลิกา,เกมของ โม ซาลาห์! 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ขย้ำ นิวคาสเซิ่ล สุดมัน

ลิเวอร์พูล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก มอบของขวัญวันขึ้นปีใหม่ให้กับสาวก เดอะ ค็อป ได้ตามความคาดหมายเมื่อเปิดรัง แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ นิวคาสเซิ่ล ทีมวัวเคยขาม้าเคยขี่ และจัดการหักปีก สาลิกาดง ได้อีกตามเคยด้วยสกอร์ 4-2 จากการฟาดแข้งคู่เดียวโดดๆเมื่อวันจันทร์ที่ 1 ม.ค. โดยเกมนี้ โม ซาลาห์ กระทุ้งประตูสองประตูสั่งลาก่อนผละไปรับใช้ชาติในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ขณะที่ มาร์ติน ดูบราฟก้า นายทวารทีมเยือนงัดฟอร์มเหนียวหนึบประดุจถูกผีเข้าสิงออกมาเซฟลูกอันตรายเป็นว่าเล่นช่วยให้ เดอะ แม็กพายส์ รอดพ้นการเสียประตูอย่างเหลือเชื่อหลายต่อหลายครั้ง

1. หงส์ปรับสี่ตำแหน่ง,แม็ค อัลลิสเตอร์ หายเดี้ยง

เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล เปลี่ยนโผนักเตะตัวจริงรวมสี่รายจากเกมบุกสอย เบิร์นลีย์ 2-0 ในวันบ๊อกซิ่งเดย์โดยที่ได้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ หายเจ็บกลับมานั่งเป็นตัวสำรองหลังดาวเตะทีมชาติ อาร์เจนติน่า เข่าเดี้ยงจนพลาดการลงสนามไปหกนัด

เริ่มจากแนวรับ อิบราฮิม่า โกนาเต้ แย่งตำแหน่งคืนไปจาก จาเรลล์ ควานซาห์ ขณะที่ โดมินิก โซโบซไล กับ เคอร์ติส โจนส์ คุมแดนกลางแทน ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ค

สุดท้ายในแผงรุก หลุยส์ ดิอาซ ได้ลงเล่นก่อนหน้า โคดี้ กัคโป ส่งผลให้ ดาร์วิน นูนเญซ สวมบทกองหน้าตัวเป้า

สำหรับ อลิสซง มือกาวทีมชาติ บราซิล ลงเฝ้าเสาเกมนี้เป็นนัดที่ 250 ในทุกรายการของเขากับ เร้ด แมชีน พอดี

2.สาลิกา ไร้กัปตัน ทริปเปียร์

เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีม นิวคาสเซิ่ล เปลี่ยนทีม 11 ตัวแรกสองรายจากเกมแพ้คารังให้กับ ฟอเรสต์ 3-1 เมื่อหกวันก่อนโดย คีแรน ทริปเปียร์ กัปตันทีมไม่ได้ร่วมเดินทางมาด้วยเนื่องจากบาดเจ็บเช่นเดียวกับหัวหอก คัลลั่ม วิลสัน

นอกจากกองหลังจอมเก๋าแล้ว มิเกล อัลมิรอน หล่นไปนั่งสำรองโดยที่ ติโน่ ลิฟราเมนโต้ กับ โชลิตอน ได้ออกสตาร์ต

อย่างไรก็ดี สาลิกาดง ได้ จามาล เลสเซลล์ ปราการหลังฟิตกลับมานั่งอยู่ในซุ้มข้างสนามได้

ต่อการได้ลงเล่นเกมนี้ ทำให้ ลูอิส ไมลีย์ กองกลาง เดอะ แม็กพายส์ เป็นนักเตะวัยละอ่อนที่สุด 17 ปี 245 วันที่ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ครบ 10 นัดต่อจาก โจนาธาน เลโก้ ที่ลงบู๊กับ เวสต์บรอมวิช ในเดือนต.ค.2016

3.บังโมพลาดมหันต์

ถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อไม่น้อยที่ ลิเวอร์พูล ไม่อาจสอยตาข่ายออกนำได้ทั้งๆที่เป็นฝ่ายเดินเกมรุกเข้าใส่อาคันตุกะอย่างน่าสะพรึงกลัวตั้งแต่นาทีแรก และมีโอกาสทำเสียวอย่างต่อเนื่อง แต่จนแล้วจนรอดตลอด 45 นาทีแรก นักเตะของ คล็อปป์ ยังเรียกเสียงเฮจากสาวกไม่สำเร็จ และจำใจเสมอกับ นิวคาสเซิ่ล ไปแบบไร้สกอร์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าบ้านน่าจะมีประตูตุนไว้ก่อนด้วยในจังหวะได้ลูกโทษ แต่ปรากฏว่า  ซาลาห์ สังหารพลาดอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเลือกยิงแบบเต็มข้อไปที่กลางประตู และถูก  ดูบราฟก้า เซฟได้

ถึงตรงนี้ ดาวยิงไอยคุปต์จึงยิงลูกโทษพลาดเป็นหนที่สี่แล้วจากสิบหนหลังซึ่งถือเป็นสถิติที่เริ่มถดถอยอย่างน่าใจหาย แถม คิงโม เป็นนักเตะรายเดียวใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ด้วยที่ซัดลูกโทษพลาดมากกว่าหนึ่งหนโดยก่อนหน้านี้เขาสังหารไปโดน เนโต้ นายทวารทีม บอร์นมัธ ปัดได้

ขณะเดียวกัน หากนับรวมซีซั่นก่อนเข้าไปด้วย อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช เป็นคนเดียวที่ส่องลูกโทษพลาดในเกม พรีเมียร์ลีก มากกว่า ซาลาห์ โดยสตาร์ทีม ลิเวอร์พูล ทำพลาดในเกมบู๊กับ บอร์นมัธ สองหน รวมทั้ง อาร์เซน่อล ก่อนผ่านมาถึงนัดล่าสุดกับ เดอะ แม็กพายส์

พร้อมกันนี้ นับตั้งแต่ย้ายมาค้าเกือกกับ หงส์แดง ในซีซั่น 2017/18 ซาลาห์ กลายเป็นนักเตะที่ยิงลูกโทษในเกม พรีเมียร์ลีก มากที่สุดไปแล้วรวมหกครั้ง (เข้า 24จาก 30 ครั้ง)

อย่างไรก็ดี หากนับรวมขุนพล ลิเวอร์พูล ทั้งหมด สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ ไมเคิ่ล โอเว่น ยิงลูกโทษในเกม พรีเมียร์ลีก พลาดมากกว่า ซาลาห์ จากจำนวนเก้า และเจ็ดครั้ง

ในทางกลับกัน ดูบราฟก้า กลายเป็นนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในช่วง 45 นาทีแรกที่ แอนฟิลด์ โดยเฉพาะการป้องกันลูกยิงจาก นูนเญซ ได้อย่างเหลือเชื่อถึงสามครั้งโดยที่ยังไม่นับครึ่งหลังอีกสองครั้ง รวมแล้วในครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ซึ่งครองบอลเหนือกว่าบานเบอะ 63:37% ได้ส่องยิง 18 ครั้ง และเข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้ลุ้นครั้งเดียว และไม่เข้ากรอบ

4. ซาลาห์ ใจถึงพึ่งได้

ในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็เจาะไข่แดง นิวคาสเซิ่ล ได้ช่วงต้นครึ่งหลัง และไม่ใช่ใครแต่เป็น ซาลาห์ เจ้าเก่าซึ่งพาทีมออกนำจนได้อันทำให้สตาร์แอฟริกันตะบันประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ให้ หงส์แดง ครบ 150 ลูกแล้วโดยเขาเป็นพ่อค้าแข้งรายที่ห้าที่คลำเป้าผ่านมาถึงหลักนี้ได้กับสโมสรเดียวต่อจาก แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส) 213 ประตู , เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้) 184 ประตู , เวย์น รูนีย์ (แมนฯ ยูไนเต็ด) 183 ประตู และ เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล) 175 ประตู

เท่านั้นไม่พอ แม้จะยิงลูกโทษพลาดในครึ่งแรก แต่ ซาลาห์ ยังขันอาสาขอลองอีกหนหลัง ลิเวอร์พูล ได้ลูกโทษอีกครั้ง และคราวนี้เขาแก้ตัวได้สำเร็จพาทีมกำชัยอย่างเด็ดขาด 4-2 เป็นประตูที่ 151 ของเขากับ เร้ด แมชีน ในเกม พรีเมียร์ลีก นำเป็นดาวซัลโวของซีซั่นนี้ 14 ประตูร่วมกับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ หัวหอก แมนฯ ซิตี้ แถมนำเป็นจอมแอสซิสต์ 8 ประตูเท่ากับ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ด้วย

ขณะเดียวกัน ซาลาห์ เป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล คนแรกที่ทั้งยิงลูกโทษพลาด และตุงตาข่ายในเกมลีกนัดเดียวกันต่อจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด นัดบุกถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2014

หลังจบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ครองบอลเหนือกว่าเหมือนเคย 63:37% และได้ส่องยิงมากถึง 34 ครั้ง เข้ากรอบ 15 ครั้ง ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ได้ยิง 5 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้งโดยเกมนี้ ดูบราฟก้า เซฟลูกยิงได้ 10 ครั้งซึ่งเป็นสถิติสูงสุดร่วมของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

5. สาลิกาช้ำยันเต

ไม่ใช่เรื่องผิดคาดเมื่อ นิวคาสเซิ่ล เป็นฝ่ายพ่ายให้กับ ลิเวอร์พูล อย่างที่แฟนบอลได้เห็นจนชินตาเสมอมาไม่ว่า สาลิกาดง จะเล่นได้อย่างน่าประทับใจแค่ไหนก็ตาม แต่เหมือนพวกเขาจะถูกฟ้าลิขิตให้เป็นทีมจอมแจกแต้มให้กับ หงส์แดง 

อย่างเกมล่าสุดนี้ก็เช่นกันที่แม้ทีมอีสานจะมีลูกฮึดยิงประตูตีเสมอ และไล่จี้ตามมาได้อย่างไม่ลดละ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นโดน ลิเวอร์พูล กำราบอยู่นั่นเองจนทำให้พวกเขาไม่ชนะเกมลีกที่ แอนฟิลด์ นานถึง 28 นัดเข้าไปแล้ว และเป็นผลงานที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีกอิงลิชสำหรับทีมเยือนเท่ากับที่ เอฟเวอร์ตัน ไม่เคยบุกชนะ เชลซี นาน 28 นัดหลังเท่ากันโดยสถิติที่ว่านี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1995 เช่นกันด้วย

สำหรับ เร้ด แมชีน แม้จะปราศจาก ซาลาห์ ในเดือนนี้ แต่สถิติบ่งชี้ว่าแฟนบอล เดอะ ค็อป ไม่จำเป็นต้องกังวลไปเนื่องจากในเกมลีก 10 นัดที่กองหน้าหัวหยิกหยองไม่ได้ลงเล่นนับตั้งแต่เขาย้ายมาร่วมทัพในซีซั่น 2017/18  ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้เลยจากผลงานชนะ 7 เสมอ 3


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport