ซาลาห์, เอ็นโด ฟอร์มดุก่อนช่วยชาติ, โกเมซ แบ็กซ้ายแจ่ม!ตัดเกรด ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิ่ล เกมพรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูล สร้างโอกาสได้เป็นกอบเป็นกำแต่ต้องใช้ความพยายามหลายครั้งกว่าจะเจาะตาข่าย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จนสามารถเอาชนะด้วยสกอร์ 4-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนามแอนฟิลด์ แมตช์นี้ มาร์ติน ดูบราฟก้า นายทวาร "สาลิกาดง" เซฟอุตลุด แต่สุดท้ายไม่สามารถต้านทานเกมรุกที่สุดดุดันของ"หงส์แดง" ได้

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แม้จะพลาดจุดโทษ แต่เจ้าตัวก็สามารถแก้ตัวได้ทั้งการสร้างโอกาสให้ทีม และยิงสองประตูกับ 1 แอสซิสต์ ทำให้ตอนนี้ "บังโม" ตะบันไปแล้ว 14 ประตูในลีกเท่ากับ เออร์ลิง ฮาลันด์ หัวหอกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

สำหรับตอนนี้ "เดอะ เร้ดส์" เก็บไปแล้ว 45 ประตูจาก 20 เกมรั้งตำแหน่งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น โดยนำ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า รองจ่าฝูง 3 คะแนน และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 ถึง 5 แต้มแต่ "เรือใบสีฟ้า" แข่งน้อยกว่า 1 นัด ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล อยู่อันดับ 9 มี 29 คะแนน  

11 ตัวจริง

อลีสซง เบ็คเกอร์ : 6

ครึ่งแรกแทบไม่ต้องออกแรง ครึ่งหลังจังหวะเสียประตูเปิดมุมกว้างไปหน่อยทำให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ได้ยิงประตูสบายๆ ส่วนจุดเด่นที่ต้องชมก็คือการเปิดบอลเร็วทำให้ทีมมีลุ้นยิงประตู 

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 7

หัวใจในเกมรุกของ ลิเวอร์พูล มีโอกาสเปิดบ้านสวยๆ หลายครั้ง เกือบยิงประตูได้จากมุมแคบแต่ชนเสาออกไป แต่จังหวะเสียประตูดันปล่อยให้ แอนโธนี่ กอร์ดอน เลี้ยงหลบได้ง่ายๆ ก่อนจะส่งให้ อิซัค ตะบันประตู

อิบราฮิม่า โกนาเต้ : 7.5

รับมือกับความคล่องแคล่วว่องไวของ อิซัค ได้ดีเยี่ยม อ่านจังหวะบอลได้ดี แข็งแกร่งทั้งลูกบนพื้นและกลางอากาศ บางครั้งพยายามลากบอลขึ้นมาช่วยเกมรุก 

เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 8

หัวใจในเกมรับ ดักสกัดบอลได้ตลอด ลูกกลางอากาศเก็บกินเรียบ จัดการแนวรุก นิวคาสเซิ่ล ได้ตลอด

โจ โกเมซ :  7.5

เล่นเกมรับได้แข็งแกร่ง ส่วนเกมรุกก็พัฒนาขึ้นกว่าเดิม ถือเป็นการรับบทบาทใหม่ที่ลงตัว 

วาตารุ เอ็นโด : 7.5

โดดเด่นในการเล่นเพรสซิ่งสูงจนทำให้ นิวคาสเซิ่ลตั้งเกมไม่ได้ เก่งในการแย่งบอลและตัดบอล ครองบอลเหนียวแน่น เอาชนะในการสกัดจังหวะสำคัญได้บ่อยๆ 

เคอร์ติส โจนส์ : 8

ขยัน ทำงานหนัก วิ่งไล่บดไล่บี้ทำให้แดนกลาง "สาลิกาดง" เล่นไม่ถนัด จ่ายบอลแม่น ครองบอลดี มีจังหวะยิงประตูแต่ติดบล็อก ก่อนที่จะได้บอลถวายพานจาก โชต้า ซัดเข้าไปไม่เหลือซาก 

โดมินิค โซโบซไล : 6

พยายามทำงานหนักในการเชื่อมเกมรุก และขยันมาเล่นเกมรับ มีส่วนในการสร้างเกมจนนำไปสู่ประตูขึ้นนำ 1-0 แต่จ่ายบอลเสียบ่อยเกินไป บางครั้งทำให้ "สาลิากง" ได้สวนกลับจนเกือบได้ประตู

หลุยส์ ดิอาซ : 7.5 

ความรวดเร็วทำให้แนวรับทีมเยือนรับมือแทบไม่ได้ ได้ยิงประตูแต่โดนวีเออาร์ริบ เรียกจุดโทษในครึ่งแรกแต่ โม ซาลาห์ ยิงไม่เข้า ครึ่งหลังฟอร์มยังอันตราย ประสานงานกับ นูนเญซ ก่อนที่ "บังโม" จะกดประตูปลดล็อกให้ทีม 

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 9

พลาดจุดโทษในครึ่งแรก แต่หลังจากนั้นฟอร์มก็โดดเด่น สร้างโอกาสให้ทีมหลายครั้ง มีโอกาสทำประตูมากมาย ก่อนจะซัด 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ 

ดาร์วิน นูนเญซ : 6

มีโอกาสหลายครั้งที่จะได้จบสกอร์ แต่ยังขาดความเฉียบคม ครึ่งหลังยกระดับการเล่นได้ดีขึ้นทำ 1 แอสซิสต์ให้ ซาลาห์ จากนั้นก็มีโอกาสทั้งโหม่งและยิงแต่ไม่เป็นประตู อย่างไรก็ตามถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ หัวหอกชาวอุรุกวัย ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม

โคดี้ กัคโป (แทน ดาร์วิน นูนเญซ น. 64) : 7

อีกหนึ่งนักเตะที่ลงมาสร้างความแตกต่างทำให้เกมรุกของ "หงส์แดง" อันตรายมากขึ้น จัดการจบสกอร์ได้ด้วย 

ไรอัน กราเฟ่นแบร์ก (แทน โดมินิค โซโบซไล น. 64) : 6

ช่วยเติมพลังในแดนกลาง พยายามครองบอลและคุมจังหวะการเล่น

ดีโอโก้ โชต้า (แทน หลุยส์ ดิอาซ น. 64) : 7.5

ลงมามีอิทธิพลกับทีมอย่างมาก ทั้งการวิ่งหาพื้นที่เพื่อสร้างโอกาส การทำแอสซิสต์ให้ โจนส์ รวมทั้งเรียกจุดโทษให้ทีมช่วงท้ายเกม 

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (แทน วาตารุ เอ็นโด น. 75) : 6.5

ได้ลงเล่นเกมแรกหลังหายเจ็บ เล่นด้วยความนิ่ง การผ่านบอลเฉียบคมให้ โชต้า หลุดเข้าไปเรียกจุดโทษ 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport