หลังจากรับสืบทอดปลอกแขนมาจาก แอชลี่ย์ ยัง เมื่อปี 2020 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็โดนถอดจากการเป็นกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากทั้งตัว แม็กไกวร์ และสโมสรออกมาบอกถึงเรื่องนั้นเอง
ตลอดช่วงราวๆ 3 ปีที่ผ่านมานั้น แม็คไกวร์ โดนตำหนิหนักพอตัวว่าไม่เหมาะสมกับการเป็นกัปตันทีมของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเช่นการไม่ปลุกใจลูกทีมมากเท่าที่ควรหรือไม่พยายามปกป้องคนในทีมมากนัก ซึ่งหลายคนบอกว่ามันส่งผลกระทบกับฟอร์มในสนามด้วย หลังจากในยุคที่มี แม็กไกวร์ เป็นผู้นำนั้น ทีมได้แชมป์ คาราบาว คัพ มาครองแค่ 1 สมัย นั่นคือในซีซั่น 2022-23 ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ
ถึงกระนั้น ในอดีตก็เคยมีนักเตะที่เข้าขั้นเป็นตำนานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เคยได้รับโอกาสเป็นกัปตันทีม แต่ก็ไม่สามารถพาทีมได้แชมป์ในยุคที่ตัวเองเป็นเจ้าของปลอกแขนเช่นกัน ลองไปดูตัวอย่างกันสักหน่อยว่ามีใครบ้าง
- อัลเลนบี้ ชิลตัน (เป็นกัปตันทีมช่วง 1953-1955)
สมัยนั้น ชิลตัน ถือเป็นหนึ่งในคนที่สร้างความฮือฮาได้ระดับหนึ่ง เพราะเขาเคยเป็นนักเตะของ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 1938 แต่ไม่มีโอกาสได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของที่นั่นแม้แต่นัดเดียว ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่นานหลังจากนั้น
ชิลตัน เคยทำผลงานได้โดดเด่นจนถึงขั้นเป็นแกนหลักของทีมในยุคของ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ รวมถึงเคยได้แชมป์ร่วมกับทีม อย่างเช่นแชม์ เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาล 1947-48 กับแชมป์ลีกสูงสุดเมื่อซีซั่น 1951-52 และพอถึงฤดูกาล 1953-54 เขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม น่าเศร้าที่ในช่วงนั้นทีมกลับมีผลงานไม่น่าประทับใจจนถึงขั้นไม่ได้แชมป์อะไรเลย ก่อนที่เขาจะต้องบอกลาทีมแล้วไปอยู่กับ กริมส์บี้ ทาวน์ ในปี 1955
- บิลล์ โฟล์กส์ (เป็นกัปตันทีมช่วง 1958-59)
หากถามว่าเซนเตอร์แบ็กคนไหนที่ถือเป็นตำนานของ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วล่ะก็ โฟล์กส์ ก็คือหนึ่งในชื่อแรกๆ ที่คู่ควรกับสถานะนั้น เพราะเขาอยู่กับสโมสรมาตั้งแต่ระดับเยาวชนในปี 1950 ก่อนจะขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ในปี 1951 และเล่นให้ "ปีศาจแดง" แค่ทีมเดียวตลอดอาชีพการค้าแข้งรวมถึงได้แชมป์หลายรายการร่วมกับทีม ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 4 ครั้ง, เอฟเอ คัพ 1 หน, ยูโรเปี้ยน คัพ 1 สมัย และ แชร์ริตี้ ชิลด์ 3 รอบ ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 1970
ทั้งนี้ ตอนปี 1958 โฟล์กส์ ได้รับมอบหมายให้เป็นกัปตันทีมต่อจาก โรเจอร์ เบิร์น ซึ่งเคยพาทีมได้แชมป์ 4 รายการ ประกอบด้วยแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัยกับ แชร์ริตี้ ชิลด์ 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 1958-59 แมนฯ ยูไนเต็ด ไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์เลย ดีที่สุดคือในลีกที่เป็นอันดับ 2 จากการแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 5 แต้ม
- เดนนิส ไวโอลเล็ต (เป็นกัปตันทีมช่วง 1959-60)
หลังจากยุคของ โฟล์กส์ จบลงแบบน่าผิดหวัง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เปลี่ยนให้ ไวโอลเล็ต ได้เป็นกัปตันทีมแทน โดยช่วงนั้น ไวโอลเล็ต ฟอร์มฮอตสุดขีดเพราะทำประตูให้ทีมได้อย่างน้อย 20 ลูกในทุกรายการมาถึง 5 ฤดูกาลติดต่อกัน
ทั้งนี้ ในซีซั่น 1959-60 ไวโอลเล็ต ระเบิดฟอร์มได้สุดยอดด้วยการทำไป 32 ประตูจากการลงเล่นในลีกสูงสุด 36 นัด ซึ่งนั่นถือเป็นฤดูกาลที่เขาทำประตูในลีกได้เยอะที่สุดในอาชีพการค้าแข้งด้วย แต่น่าเสียดายที่ฟอร์มระดับนั้นกลับไม่สามารถพาทีมได้แชมป์มาครองได้เลยในฤดูกาลดังกล่าว
- เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน (เป็นกัปตันทีมช่วง 1968-1973)
ด้วยความที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่อะคาเดมี่ และเป็นกำลังหลักให้กับทีมมาอย่างยาวนานและพาทีมได้แชมป์หลายต่อหลายรายการ แมนฯ ยูไนเต็ด เลยตัดสินใจแต่งตั้งให้ ชาร์ลตัน ได้เป็นกัปตันทีมแทน เดนิส ลอว์ ในปี 1968
อย่างไรก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยได้แชมป์แม้แต่รายการเดียวในสมัยที่ ชาร์ลตัน เป็นผู้นำของทีม แถมในฤดูกาล 1972-73 ทีมถึงขั้นเคยจบฤดูกาลด้วยการเป็นอันดับที่ 18 ของลีกด้วยซ้ำ ก่อนที่ ชาร์ลตัน จะบอกลาทีมไปตอนปี 1973
- เด็กเกร็ดบอล -