เลสเตอร์เตรียมจัดกิจกรรม LCFC LIVE สุดเฟสติวัล 5 วันที่เมืองไทย

หลังจากที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่จะมีคิวลงเตะฟุตบอลอุ่นเครื่องพบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ค.2566 เวลา 17.00 น. โดยเกมดังกล่าวถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรม LCFC Live สนับสนุนโดย King Power ร่วมสนับสนุนโดย FBS และ เครื่องดื่มตราช้าง โดยตั้งใจทำให้แฟนบอลชาวไทยทุกคนเข้าถึงประสบการณ์การรับชมฟุตบอลกับ เลสเตอร์ ซิตี้ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

กิจกรรมดังกล่าวมีกำหนดจัดขึ้นรวม 5 วันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 21-26 กรกฎาคม โดยแฟนบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ในประเทศไทย จะได้รับประสบการณ์สุดพิเศษ มีการนำเสนอกิจกรรมกับแฟนบอลชาวไทยที่หลากหลาย เพื่อโปรโมตการแข่งขันนัดสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ

ขณะที่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผู้จัดการทีมคนใหม่ของเลสเตอร์ ซิตี้ จะเตรียมทีม "จิ้งจอกสยาม" โฉมใหม่อย่างเต็มที่ เพื่อเริ่มต้นฤดูกาล 2023/24 โดย มาเรสก้า จะนำลูกทีมลงฝึกซ้อมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันเสาร์ที่ 22 ก.ค.2566 โดยจะเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนอุ่นเครื่องกับ "ไก่เดือยทอง" และการเตรียมตัวก่อนการเกมเปิดฤดูกาลพบ โคเวนทรี่ ซิตี้ ในวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค.2566

สำหรับแฟนบอลพลาดไม่ได้ที่จะได้ชมการซ้อมของนักเตะเลสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันเสาร์ ที่ 22 กรกฎาคม แฟน ๆ สามารถซื้อบัตรได้ที่ https://www.ticketmelon.com/lcfc/opentraining

ทั้งนี้ การเดินทางมาเยือนดินแดน "สยามเมืองยิ้ม" ของเลสเตอร์ จะเดินทางมาถึงในวันศุกร์ที่ 21 ก.ค.2566 ซึ่งเป็นวันแรกของกิจกรรมทั้งหมด 5 วัน โดยจะมีทั้งนักเตะปัจจุบันของสโมสร และนักเตะระดับตำนานร่วมเดินทางมาด้วย นำโดย เวส มอร์แกน กัปตันทีมชุดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก นักเตะระดับตำนานของสโมสรอย่าง เอมิล เฮสกีย์ แชมป์ลีกคัพ, เจอร์รี่ แท็กการ์ท และ แม็ตต์ เอลเลียตต์ จะเดินทางมาที่ประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่เปิดโอกาสให้แฟนบอล "จิ้งจอกสยาม" ได้เข้าร่วมด้วย เช่น คลินิกฟุตบอล "COACHING CLINIC 2023" การเปิดให้แฟนบอลเข้าชมการฝึกซ้อมของทีมชุดใหญ่ และกิจกรรมแฟนโซนในวันแข่งขันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

นอกจากนี้ ตึกมหานคร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ จะเป็นสถานที่จัดงานเปิดงาน LCFC LIVE อย่างเป็นทางการ ในวันเสาร์ที่ 22 ก.ค.2566 โดยในงานแฟนๆ จะได้เจอพบ เวส มอร์แกน และ เอมิล เฮสกีย์ ซึ่งทั้งสองจะมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในโครงการ "คิง เพาเวอร์ ไทย พาวเวอร์" ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อแจกฟุตบอลหนึ่งล้านลูก เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในประเทศไทย

เท่านั้นไม่พอยังมีการจัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Q&A กับแฟนบอล จองบัตรเข้างานฟรี ด่วนจำนวนจำกัด ที่ พาร์เลอร์ บาร์แอนด์ เรสเตอร็องต์ โรงแรมเดอะสแตนดาร์ด ในวันจันทร์ที่ 24 ก.คึ.2566 รวมถึงนิทรรศการพิเศษ "การเดินทางของจิ้งจอกสยาม" Foxes Journey ตลอดทั้ง 5 วัน ซึ่งจะมามอบประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมให้กับเหล่าแฟนบอลทุกเพศทุกวัย โดยกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นที่ชั้น 74 ตึก คิง เพาเวอร์ มหานคร

แฟนๆ ยังสามารถร่วมสนุก พร้อมลุ้นของรางวัลสุดพิเศษจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ โดยการเข้าร่วมกิจกรรมการตามล่าหาเหรียญจากแอพพลิเคชั่น “Find Filbert” โดย "ฟิลเบิร์ต ฟ็อกซ์" มาสคอตสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ จะปรากฏอยู่ในสถานที่ยอดนิยมของ กรุงเทพฯ โดยสามารถสแกน QR ตำแหน่งตลอดทั้งสัปดาห์ รวมถึงการสแกน QR บนตัวของ ฟิลเบิร์ต เองด้วย! แฟนๆ สามารถสะสมคะแนนเพื่อแลกรางวัลพิเศษจากแอพพลิเคชั่น “ Find Filbert”  

ทั้งนี้ ฐานแฟนบอลของ ซิตี้ ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เข้าเทคโอเวอร์สโมสรในปี 2010 ภายใต้การบริหารของครอบครัวศรีวัฒนประภา การมาเยือนในช่วงซัมเมอร์นี้ จะมอบโอกาสที่ยอดเยี่ยมให้สโมสรได้มีส่วนร่วมกับกองเชียร์ที่ติดตามการเดินทางอันน่าทึ่งของ เลสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา รวมถึงผู้คนกว่าหนึ่งล้านคนที่เข้าร่วมขบวนพาเหรด และฉลองถ้วยรางวัล พรีเมียร์ลีก ตามท้องถนนในกรุงเทพฯ ในปี 2016

สำหรับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ยังร่วมมือกับ คิง เพาเวอร์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในช่วงฤดูกาล 2020/21 เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ผ่านแคมเปญ Thailand Smiles With You อีกด้วย