8 ข้อ! สรุปประเด็นสำคัญ ทีมชาติไทยประเดิมคว้าสามแต้มเหนือสิงคโปร์

ความเคลื่อนไหวของทัพ” ช้างศึก”​ทีมฟุตบอลชายชุดซีเกมส์ ซึ่งอยู่ในสายบี ร่วมกับ แชมเก่า เวียดนาม, มาเลเซีย, สปป.ลาว และสิงคโปร์ ภายใต้การนำทัพของ “โค้ชหระ”​อิสระ ศรีทะโร พร้อมทีมงาน “โค้ชบุ๊ค” บำรุง บุญพรม ,โค้ชทู “​ครองพล ดาวเรือง, “​ดร.เชน”​ดร. ประสบโชค โชคเหมาะ และมี ”บิ๊กหยิม” ยุทธนา หยิมการุณ​ เป็นผอ.ทีมชาติไทย หลังจากประเดิมสนามนัดแรก รอบแบ่งกลุ่มบี อย่างสวยงาม เอาชนะ ทีมชาติสิงคโปร์ 3-1 เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 66

1 “บิ๊กหยิม” พอใจเชื่อจะขึ้นเรื่อยๆ

จากชัยชนะประเดิมสนามฟุตบอลชายซีเกมส์ เอาชนะสิงคโปร์ 3-1 ทาง”บิ๊กหยิม”ยุทธนา หยิมการุณ ผอ. ทีมชาติไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เกมนี้ถือว่าน้องๆ ทุกคนทำผลงานได้ดี ตามแผนของโค้ชอิสระ แต่ก็อาจจะมีเสียสมาธิไปบ้างในบางจังหวะ ซึ่งจุดนี้มองว่าเด็กๆ จะทำได้ดีขึ้นและยกระดับฟอร์มการเล่นได้อีก หลังจากผ่านเกมแรกที่มักจะยากเสมอเชื่อว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ" 

"นัดแรกเราได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ ในขณะเดียวกันเราได้เห็นศักยภาพของน้องๆ หลายคนซึ่งทำหน้าที่ได้ดีกับการเล่นระดับนานาชาติ แหละนี่คือสิ่งสำคัญที่เราต้องการพัฒนาขุมกำลังนักเตะให้พร้อมเพื่อต่อยอดในรายการใหญ่ที่ระดับสูงขึ้น”

2 แข้งไทยเฮรับก่อน 2 แสน

จากชัยชนะเกมแรกในศึกฟุตบอลชายซีเกมส์ทีมชาติไทยก็มีข่าวดี เมื่อทาง ”บิ๊กหยิม”ยุทธนา ได้ให้สัมภาษณ์ต่อว่า “ในการแข่งขชันฟุตบอลชายคราวนี้ ทางตนเองได้มีรางวัลให้กับน้องๆเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการแข่งขัน โดยเกมแรกที่สามารถเอาชนะได้นั้น อัดฉีดให้ 2 แสนบาท และรอบแรกที่ยังเหลืออีก 3 นัดหากชนะ ก็จะให้นัดละ 2 แสน หากเสมอจะให้นัดละ 1 แสนบาทในเกมต่อๆไป”

3 หากแชมป์รับเบื้องต้น 2.6 ล้าน

“บิ๊กหยิม” กล่าวต่ออีกว่า หากสามารถเข้ารอบรองชนะเลิศ หรือผ่านรอบแรกไปได้ ก็จะอัดฉีดให้ 3 แสนบาท  ส่วนเกมรอบรองชนะเลิศหากนักเตะไทยชนะในรอบตัดเชือกนี้ ก็จะมอบให้ 5 แสนบาท ส่วนรอบชิงชนะเลิศ ตอนนี้เบื้องต้นวางเอาไว้ 1 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมาเพิ่มเติมหากว่าน้องๆสามารถที่จะเอาชนะคว้าเหรียญทองกลับไปฝากแฟนบอลชาวไทย

สรุปว่าในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งนี้เบื้องต้นหากสามารถคว้าเหรียญทองสำเร็จ ทีมชาติจะรับแน่นอนกรณีชนะรอบแรกทุกนัด ยอดจะอยู่ที่ 2,600,000 บาท

4 “หนึ่ง”วิ่งเยอะสุดเกมกับสิงคโปร์ 

ส่วนของสถิตินักเตะทีมชาติไทยที่น่าสนใจในเกมลงสนามนัดแรกชนะสิงคโปร์ 3-1 นั้นปรากฎว่าคนที่วิ่งมากที่สุดในเกมนี้ได้แก่ “หนึ่ง” ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว  9.723 ก.ม. ลำดับรองลงมา 2-4  ได้แก่ อิรฟาน ดอเลาะ 9.436 ก.ม, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย 9.362 ก.ม., จักรพงษ์ แสนมะฮุง 8.749 ก.ม. และ  พงศกร ตรีสาสร์ 8.365 ก.ม.

ส่วนสถิตินักเตะที่สปีดการวิ่งแยกตามความเร็ว 1-4 คนแรกตามลำดับ ได้แก่ อชิตพล คีรีรมย์ 34 ก.ม./ชม. , ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท 32 ก.ม./ชม. , ธีระศักดิ์ เผยพิมาย 31 ก.ม./ชม.,  ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว 30 ก.ม./ชม. และทรงชัย ทองฉ่ำ 30 ก.ม./ชม.

5 "อชิตพล “ มั่นใจหลังประเดิมซัด

“เจ้าไม้” อชิตพล คีรีรมย์  มิดฟิลด์ริมเส้นทางซ้ายในเกมชนะสิงคโปร์ 3-1 เผย “มีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากที่ยิงประตูให้ทีมชาติไทย ได้ตั้งแต่เกมแรกของ การแข่งขันและทำอีก 1 แอสซิสต์ ต้องขอบคุณโค้ชที่ให้โอกาสลงเล่น ดีใจและมีความสุขกับการเล่นฟุตบอลในเกมนี้ แน่นอนว่ามันเพิ่มความมั่นใจและความเชื่อมั่นมากขึ้นกับเป้าหมายว่า เราจะไปในทางที่ดี และขอบคุณแฟนๆที่มาเชียร์วัในเกมนี้ จะคว้าเหรียญทองให้ได้”

6 โค้ชหระไม่หลงกับจ่าฝูง

ด้านโค้ชหระ กุนซือใหญ่ของทีม หลังจากเก็บชัยชนะคว้า 3 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มบี เผยว่า “ยังต้องทำงานหนัก ไม่หลงระเริงแน่นอน เพราะการแข่งขันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายเกม ต้องทำงานหนักร่วมกับทีมสตาฟโค้ชต่อไป โดยในช่วง 5 วันหลังจากนี้ก็ต้องฟื้นฟูร่างกาย และเพิ่มเติมในส่วนที่ขาดหาย เราก็มีเวลาที่จะแก้ไข”

ทั้งนี้ส่วนของการฝึกซ้อมวันที่ 1 พ.ค. 66 ในช่วงเช้าทางทีมงานให้นักเตะลงมายืดกล้ามเนื้อเพือ่ผ่อนคลายเท่านั้นภายในบริเวณโรงแรมที่พัก ก่อนที่ช่วงเย็นจะปล่อยให้พักยาวไม่มีการซ้อม เพื่อให้นักเตะได้ฟื้นฟูร่างกายอย่งเต็มที่

7 ข่าวดีไม่มีแข้งเจ็บหนัก

ส่วนของสภาพร่างกายนักเตะหลังจากลงทำการแข่งขันในเกมแรก ซึ่งใช้นักเตะไปทั้งหมด 16 รายลงสนามท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนในเวลา 16.00 น.นั้น แต่ก็มีข่าวดีว่าหลังจบเกมดังกล่าวไม่มีนักเตะรายใดได้รับบาดเจ็บหนักเลย มีเพียงอาการตึงและเจ็บเล็กๆน้อยเท่านั้น ทุกคนพร้อมที่จะลงสนามในเกมหน้ากับมาเลเซีย  ในวันที่ 6 พ.ค. 66 เวลา 16.00 น. ที่สนามปริ๊นซ์ สเตเดี้ยม แบบฟูลทีมอย่งแน่นอน

8 สื่อเหงียนตีข่าวเขมรกั๊กตั๋วบอลไทย

ทัพ”ดาวทอง”ทีมชาติเวียดนาม ซึ่งอยู่ในสายเดียวกับทีมชาติไทย และลงสนามนัดแรกเป็นคู่ที่ 2 ต่อจากไทย ก่อนเอาชนะสปป.ลาว 2-0 นั้น มีรายงานว่าทางสื่อของเวียดนามมีการรายงาน แฟนบอลชาวกัมพูชามีการกั๊กตั๋วที่มีการจองขอเข้าชมการแข่งขันที่สนามในเกมที่ทีมชาติไทยลงสนามนัดล่าสุดที่ชนะสิงคโปร์ 3-1 แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมมาดูการแข่งขัน เพื่อไม่ต้องการให้แฟนบอลไทยมาเชียร์ทีมชาติไทย

โดยประเด็นดังกล่าวจากการสังเกตุในเกมแรกแฟนบอลไทยก็ถือว่ามีจำนวนประมาณ 400 กว่ารายที่เข้ามาชมเกมนัดดังกล่าว และจากการสอบถามกลุ่มแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมก็ทราบว่ายังมีแฟนบอลอีกไม่น้อยที่ไม่มีตั๋วในเกมนี้ ทว่าพอคู่เวียดนามกลับมีแฟนบอลล้มสนามฝั่งที่เจ้าภาพเปิดให้ชม หากเรื่องนี้เป็นความจริงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น


ที่มาของภาพ : SIAMSPORT
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport