"อัยยวัฒน์" เหมาคนเดียว 5 ลูก ไทยถล่มปินส์ เก็บชัย 2 นัดลิ่วตัดเชือก

 การแข่งขันขี่ม้าโปโล รายการ "ออล เอเชีย คัพ 2024 " ระหว่างวันที่ 4-10 ก.พ. 67 ที่สนามวีเอส สปอร์ตคลับ และสนามสยามโปโลปาร์ค บางบ่อ จ.สุทรปราการ มีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 5 ทีมประด้วย "แชมป์เก่า" ไทย ที่ส่งนักโปโลมือเก๋าเหรียญเงินซีเกมส์ครั้งที่ 29 ณ ประเทศมาเลเซีย นำโดย 2 พี่น้อง "ศรีวัฒนประภา" อภิเชษฐ์-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา, ณัฐพงษ์ ประทุมลี, ธนาศิลป์ เชื้อวังคำ  และ สาธิต วงศ์กระโซ่ , บรูไน ที่นำทัพโดย เจ้าอับดุล มาทีน โบลห์เกีย, มองโกเลีย, จีน และ ฟิลิปปินส์  จะใช้ระบบการแข่งขันแบบ สตาร์เชฟ แต่ละทีมจะลงสนามแข่งในรอบแรก 2 แมตช์เพื่อนำ 4 ทีมเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยทีมอันดับ 1 จะพบกับทีมอันดับ 4 และทีมอันดับ 2 จะพบกับทีมอันดับ 3  และเมื่อวันที่  5 ก.พ. 2567 เป็นการแข่งขันในวันที่ 2 รอบแรก ระหว่าง "แชมป์เก่า" ไทย ที่ลงสนามนัดแรก เอาชนะ มองโกเลีย 10.5-3 คะแนน  

 ส่วนเกมในนัดที่ 2  ไทยลงสนามพบกับ ฟิลิปปินส์ ที่เพิ่งลงสนามในนัดแรก นำทัพโดยนักโปโลมือเก๋า อินโทนี การ์เซีย ผู้เล่นที่มีแฮนดิแคปสูงที่สุด 4 โกล ส่งผลให้ไทยได้แต้มต่อ จากฟิลิปปินส์ 0.5 คะแนน และเมื่อเปิดเกมในชักก้าแรก ไทยทำฟาว์ให้ฟิลิปปินส์ ได้ฟาว์ลตั้งแต่นาที โดย การ์เซีย ออกมายิงลูกโทษ แต่บอลแฉลบออกข้าง แต่หลังจากนั้น ฟิลิปปินส์ กลับยังได้รุกจาก การ์เซีย อีกครั้งพร้อมยิงเปิดสกอร์ นำไทย 1-0.5 คะแนน  แต่ไทยยังไม่เร่งเกมรุก รออาศัยชิงจังหวะและเป็น "ต้อล" อภิเชษฐ์ ที่ได้ครองบอลและยิงยาวเลียดพื้นให้บอลไหลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม พาทีมไทยพลิกกลับมานำ 1.5-1 คะแนน จากนั้นช่วงท้ายเกมชักก้าที่ 1 "ต๊อบ" อัยยวัฒน์ ที่ได้บอลและตียาวพร้อมขึ้นไปเลี้ยงยิงเข้าประตู พาทีมไทยนำ 2.5-1 คะแนน 

 ชักก้าที่ 2 เกมของทั้งคู่ยังไม่ดุเดือดมากนัก ต่างฝ่ายต่างระวังเรื่องฟาว์ลและการครอบครองยังเป็นไทยที่สามารถเปลี่ยนเกมกลับมาเป็นของตัวเองได้มากกว่าฟิลิปปินส์ และในจังหวะฟิลิปปินส์ กำลังจะเปิดเกมรุก แต่โดนสะกัดกลับโดย ธนาศิลป์  และเลี้ยงบอลเข้าไปยิง แต่พลาด ก่อนที่ ณัฐพงษ์ ที่ขึ้นมาซัพพอร์ตซ้ำยิงประตูที่ 5 ให้กับไทยนำ 5.5-1 คะแนน และเกมในช่วงท้ายชักก้าที่ 2 ทีมเวิร์กของไทยยังทำได้ดี  และมีการเปลี่ยนแผนการเล่น ส่งให้ อภิเชษฐ์ ขึ้นไปเล่นแดนหน้า  และเมื่อบอลถึง อภิเชษฐ์  เลี้ยงยาวขึ้นไปยิงประตูที่ 6 ให้ไทยนำ 6.5-1 คะแนน

 ชักก้าที่ 3 ไทยได้ยิงลูกโทษตั้งแต่นาทีแรก เมื่อฟิลิปปินส์ ทำฟาว์ลเข้ามาเล่นในไลน์ของไทย โดย อัยยวัฒน์ ยิงลูกโทษทำประตูที่ 7 ให้ไทยนำห่าง 7.5-1 คะแนน หลังจากนั้นทั้งสองทีมต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับ ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้เข้าไปทำประตูได้ง่ายๆ จนมาถึงนาทีสุดท้ายของ ธนาศิลป์ ที่เปลี่บนเกมออกมาจากฟิลิปปินส์  ยิงยาวส่งบอลให้ "ต๊อบ" อัยยวัฒน์ เลี้ยงเข้าประตูพาไทยนำ 8.5.-1 คะแนน

 ชักก้า 4 ไทยเสียฟาว์ลตั้งแต่นาทีแรก แอนโทนี่ ยิง 30 หลาเข้าไปอย่างสวยงามไล่มา 2-8.5 คะแนน และฟิลิปปินส์ ที่เล่นเร็วฉกบอลมายิงทำประตูเพิมไล่มา 3-8.5 คะแนน และช่วงท้ายชักก้าที่ 4 ไทยกับ ฟิลิปปินส์ ได้เพิ่มมาอีกคนละ 1 คะแนน หมดเวลาแข่งขันไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 9.5-4 คะแนน โดย "ต๊อบ" อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ยิงคนเดียว 5 ประตู  ส่งผลให้ไทยเก็บชัย 2 นัดติด ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ 

 ส่วนอีกคู่เป็นการแข่งขันในนัดที่ 2 ของนักกีฬาจากทีม  มองโกเลีย พ่ายให้ไทย 3-10.5 และจีนพ่ายให้ บรูไน 1-11 คะแนน เกมคู่นี้จึงขับเคี่ยวกันอย่างสนุก เพื่อหวังจะเก็บชัยชนะ โดยจีนได้เปรียบ มองโกเลีย เล็กน้อย เมื่อได้แต้มต่อจากมองโกเลีย 1.5 คะแนน 

 เปิดเกมในชักก้า ที่ 1  มองโกเลีย รุกหนักเพื่อทำคะแนนเพิ่ม เกมนัดนี้  มองโกเลีย เล่นได้ดีกว่าแมตช์แรก โดยเฉพาะเกมรุก ที่เข้าไปเปลี่ยนเกม กลับขึ้นมาทำคะแนนไล่มา 1-1.5 คะแนน ด้านจีนยังไม่ลดละที่จะรุกไปทำคะแนนเพิ่ม แต่โดนเกมรับที่เหนียวแน่นของมองโกเลีย ไม่สามารถเปลี่ยนเกมกลับไปได้  และ ก่อนหมดเวลาในชักก้าที่ 1 มองโกเลีย หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงประตูที่ 2 พลิกกลับมานำ 2-1.5 คะแนน 

 ชักก้า 2 มองโกเลีย จีนยังเปิดเกมรุกหนัก หวังทำแต้มห่าง ปรากกว่าในนาทีที่ 3 เป่าอิง ที่เปลี่ยนเกมขึ้นมายิงประตูให้จีนไล่มา 2.5-3 คะแนน  ด้านมองโกเลียไม่ปล่อยให้จีน นำอยู่นาน เปิดเกมรุกและขึ้นมาครองบอลโดย เรนเซน ที่เลี้ยงบอลขึ้นไปยิงประตูด้วยตัวเองนำ 4-2.5 คะแนน  พร้อมหมดเวลาในชักก้าที่2 

 เปิดเกมในชักก้าที่ 3 ไม่ถึง 1 นาที มองโกเลีย เปิดบอลมาอยู่ในการครอบครอง และยิงไกลยิงทำประตูที่ 5 ตั้งแต่ต้นเกม จากนั้นเกมยังอยู่ที่ มองโกเลีย ก่อนที่จีนจะรุกหนักขึ้นมาตัดเกมโดย หนานลิว  และเลี้ยงไปทำประตูไล่มา 3.5-5 คะแนน  แต่เมื่อเข้าสู่นาทีที่ 3 จีนทำฟาว์ล ส่งผลให้ มองโกเลีย ได้จุดโทษ ยิงเข้าไปขึ้นนำ 6-3.5 คะแนน จากนั้นในช่วงท้ายชักก้า มองโกเลียยิง 3 ประตูติดนำห่าง 9-3.5 คะแนน

 ชักก้าที่ 4 เป็นการแข่งขันในชักก้าสุดท้าย  มองโกเลีย ที่เล่นง่ายขึ้น แต่ไม่ปล่อยให้จีน ได้รุกง่ายๆ ยังหาจังหวะเล่นเพื่อทำแต้มเพิ่ม ขยับนำห่าง 10-3.5 คะแนน ในขณะที่นักกีฬาจาก" แดนมังกร" ยังไม่ละความพยายามที่จะรุกทำแต้ม แต่ยิ่งรุกยิ่งฟาว์ล  ส่งผลให้มองโกเลียได้โดย ทาดาเนียม  แต่ลูกออกข้างพลาดคะแนนที่ 11 ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก่อนหมดเวลาในชักก้าที่ 4 โอกันบายา โบลด์ ยิงลูกที่ 11 ให้ มองโกเลีย  เอาชนะไป 11-3.5 คะแนน  ส่งผลให้ มองโกเลีย  ชนะ 1 แพ้ 1 ในขณะที่จีน แพ้ 2 นัดรวด 

 สำหรับในวันที่ 6 ก.พ. 2567 จะมีการแข่งขัน 1 คู่ ระหว่าง บรูไน กับ ฟิลิปปินส์ เวลา 17.00 น. ที่สนามสยามโปโล ปาร์ค บางบ่อ จ.สมุทรปราการ