10สิ่งตราตรึง"นครสวรรค์เกมส์"

เป็นอีกหนึ่งมหกรรมที่ประทับใจคนในวงการกีฬาไทยสำหรับ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ​ ครั้งที่​ 38 "นครสวรรค์เกมส์" ที่เพิ่งรูดม่านปิดฉากกันไปเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ ซึ่งต้องถือว่ารายการนี้เป็นมหกรรมกีฬาที่ลงท้ายด้วยคำว่าแห่งชาติมหกรรมแรกๆ ที่กลับมาจัดขึ้นหลังประเทศไทยเริ่มที่ปลอดเชื้อไวรัสโควิดชนิดเกือบที่จะร้อยเปอร์เซนต์​ ซึ่งก่อนหน้านั้นในปีที่แล้วทั้งกีฬาแห่งชาติและเยาวชนแห่งชาติผู้คนยังระแวดระวังกันอย่างตรึงเครียดมากกว่าในเวลานี้

ตลอดระยะเวลาการแข่งขันระหว่างวันที่ 25 มี.ค. - 3 เม.ย.66 ที่จังหวัดนครสวรรค์มีเรื่องราวความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ และสีสันมากมายให้ผู้ถึง ซึ่งเหล่านักกีฬาเยาวชนทั่งประเทศรวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่เดินทางไปเข้าร่วมต่างรับรู้ดีกันถ้วนหน้าว่าแมตช์ครั้งนี้ก็มีความน่าประทับใจไม่แพ้ปีไหนๆ ที่ผ่านมา แม้บางคนจะมองว่าเป็นมหกรรมกีฬาเล็กๆ มหกรรมหนึ่งที่ไม่ได้มีกระแสเปรี้ยงปร้างมากมาย แต่เชื่อเถอะว่าทุกมหกรรมในแต่ละปีจะมีเรื่องราวความประทับใจที่สามารถเก็บไว้ให้พูดถึงในวันข้างหน้าเสมอ และนี่คือ 10 สิ่งใน "นครสวรรค์เกมส์" ที่ทีมข่าวสยามกีฬาได้ไปสัมผัสในช่วงระยะเวลาการแข่งขันทั้ง 10 วันที่นั่น และจะตราตรึงอยู่ในใจตลอดไป

1. "บิว" พังสถิติ 2 รายการ

"บิว" ภูริพล บุญสอน ลมกรดหนุ่มระยะสั้นหมายเลขหนึ่งของประเทศไทย ถือเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้ ด้วยดีกรี 3 เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ 2022 ที่ประเทศเวียดนาม ผลงานระเบิดระเบ้อที่สุดในบรรดานักกีฬาทุกคนที่มาเข้าร่วมนครสวรรค์เกมส์ อีกทั้งยังเป็นการมาแข่งขันในกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย ทำให้สปอร์ตไลต์ทุกดวงจึงส่องไปยังที่หนุ่มบิว โดยแม้เจ้าตัวจะไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ครบ 3 อีเวนต์ที่ตนเองลงชิงชัย แต่ 2 เหรียญทองที่เขาทำได้ก็ยอดเยี่ยมพอที่จะทำให้ทุกคนประทับใจ เพราะเป็นการทำลายสถิติทั้งหมด ประกอบด้วยการทำลายสถิติในรอบ 15 ปีของรายการ 100 ม. และทำลายสถิติเดิมในรอบ 14 ปีของรายการ 200 ม. คงไม่ต้องกล่าวอะไรมากกว่านี้ว่าทำไมประเด็นนี้ถึงมาอยู่ใน 10 เรื่องตราตรึงของนครสวรรค์เกมส์

2. กทม.คว้าทองมากสุดประวัติศาสตร์

แน่นอนว่ายังคงเป็นทัพนักกีฬาจากเมืองหลวง "กรุงเทพมหานคร" ที่ยังคงครองบัลลังก์ คว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 33 แต่ที่น่าสนใจและดูยิ่งใหญ่มากกว่านั้นก็คือครั้งนี้เป็นการคว้าเจ้าเหรียญทองในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ 25 สมัยติดต่อกันของพวกเขา นับตั้งแต่ปี 2538 อีกทั้งยังเป็นการคว้าจำนวนเหรียญทองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ 144 เหรียญทอง นับตั้งแต่มีการจัดชิงชัยเกิดขึ้นทั้งหมด 38 ครั้งอีกด้วย

3. "นครสวรรค์เกมส์" ร้อนระอุที่สุด

ต้องบอกท่านผู้อ่านก่อนว่าอาจจะไม่ได้มีการนำอุณหภูมิองศาฟาเรนไฮน์ใดๆ ไปเปรียบเทียบกับกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งก่อนๆ แต่เป็นการรับเอาเสียงกระแสจากผู้เข้าร่วมทุกๆคนในนครสวรรค์เกมส์ครั้งนี้มาเปิดเผยถึงการพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้มีอากาศที่ร้อนที่สุด สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดมีผู้เข้าร่วมไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์ ครอบครัว หรือนักกีฬาต่างเป็นลมกันในหลายๆ สนาม โดยเฉพาะในพิธีการเปิด-ปิด ด้วยเมืองนครสวรรค์ถูกล้อมรอบด้วยทิวเขา และแทบจะไม่มีลมพัดผ่านมาให้คนในเมืองได้สัมผัสเลย บวกกับแดดที่แรงเปรี้ยงพร้อมจะทำให้มนุษย์สลบ และอุณหภูมิที่สูงถึง 40 องศาในบางวัน "นครสวรรค์เกมส์" จึงถูกยกให้เป็นกีฬาแห่งชาติที่ร้อนระอุที่สุดปีหนึ่งไปโดยปริยาย 

4. ทำลายสถิติ 24 รายการ

นายปรีชา ลาลุน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า นครสวรรค์เกมส์ ครั้งนี้มีการทำลายสถิติมากถึง 24 รายการ แบ่งเป็น ยกน้ำหนัก 12 รายการ, ว่ายน้ำ 8 รายการ และ กรีฑา 4 รายการ ซึ่งทั้งหมดเป็นกีฬาสากลในโอลิมปิกเกมส์ เชื่อว่าเป็นสถิติการพัฒนาที่ดีต่อนักกีฬาไทยในการทำผลงานในซีเกมส์ที่กัมพูชาเดือนพ.ค.นี้

5. จังหวัดนักกีฬาคุณภาพ

หากไม่นับกรุงเทพมหานครเจ้าเหรียญทองแล้ว "หนองบัวลำภู" ถือเป็นอีกจังหวัดที่ชื่นชมอย่างมาก เพราะพวกเขาส่งนักกีฬาเข้าร่วมเป็นจำนวนน้อยที่สุดจากบรรดา 77 จังหวัดในกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้ที่จำนวนเพียง 20 คน แต่พวกเขากลับมาสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้ที่จำนวน 1 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง จบอันดับที่ 65 ของสรุปตารางเหรียญการแข่งขัน ซึ่งเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ที่ส่งเข้าร่วมกว่าร้อยคนอัพ แต่ทำผลงานได้แทบไม่ต่างหรือน้อยกว่าทัพนักกีฬาหนองบัวฯ เสียด้วยซ้ำ นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า "คนน้อยแต่ร้อยเปอร์เซนต์"

6. หวาดเสียวเอาเรื่อง !

แน่นอนว่าในทุกๆ มหกรรมกีฬาย่อมต้องมีการแข่งขันชนิดกีฬาทางน้ำ อาทิ เรือพาย, เจ็ตสกี และอีกมากมาย ซึ่งทางจังหวัดนครสวรรค์ก็มีสังเวียนประจำที่ใช้รองรับกีฬาทางนี้ในทุกๆ ครั้งนั่นคือ "บึงบอระเพ็ด" และหากใครพอทราบก็น่าจะพอจำกันได้ว่าที่นั่นมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของ "จระเข้" ซึ่งได้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ ของจระเข้อยู่ที่นั่นด้วย แน่นอนว่าตลอดช่วงเวลาการแข่งขันไม่ได้มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น แต่เหล่านักกีฬาก็อาจจะมีการแอบเสียวบ้างพอสมควรเพราะชาวบ้านแถวนั้นเขาก็ยังเล่าว่ายังเจอเหล่าจระเข้อยู่เรื่อยๆ อย่างไรก็ดี คนแถวนั้นค่อนข้างมั่นใจว่าจระเข้บึงบอระเพ็ดไม่ทำร้ายคน ไม่มีอันตรายกับผู้คน และยังมีความเชื่อด้วยว่าใครที่ได้พบเห็นจะได้รับโชคดีอีกด้วย

7. มหกรรมแรกแห่งความไร้พรมแดน

นครสวรรค์เกมส์ครั้งนี้น่าจะเป็นมหกรรมกีฬาในประเทศไทยมหกรรมแรกๆ ที่มีการออกมาแสดงความเป็นตัวตนของเหล่านักกีฬาสีรุ้งอย่างชัดเจนและเป็นทางการ นำโดย "น้องคุนนี่" มงคลศิริ ศิริวงศ์ ยูยิตสูคนสวยจากเชียงใหม่ที่ออกมาเปิดอกเป็นแอลจีบีทีไม่เคยอายยามลงแข่งขันกีฬาต่อสู้ พร้อมชวนเหล่าเพื่อนๆ แอลจีบีทีมาร่วมเล่นกีฬาต่อสู้ด้วยกันเยอะๆ ไม่ต้องกลัวเจ็บ

8. ราชา-ราชินีสระ

ว่ายน้ำยังคงเป็นชนิดกีฬาที่นักกีฬาคนหนึ่งสามารถมีโอกาสคว้าเหรียญทองได้เยอะที่สุดมากกว่าชนิดกีฬาใดๆ ในมหกรรมนั้น เนื่องด้วยคนหนึ่งสามารถเข้าร่วมได้หลายอีเวนต์หลายรายการ และในนครสวรรค์เกมครั้งนี้ เจ้าสระฝั่งชายก็ตกเป็นของ สุรสิทธิ์ ทองแดง ฉลามหนุ่มจากพังงา และ พงศ์ปณต ไตรทาน ดาวรุ่งหนุ่มจากกรุงเทพมหานครที่กวาดไปเท่ากันที่ 5 เหรียญทองกับอีก 2 เหรียญเงิน ส่วนตำแหน่งราชินีสระได้แก่ พัณณิตา ชวานุชิต เงือกสาวของกรุงเทพมกานคร ที่คว้าไป 5 เหรียญทองกับ 1 เหรียญเงิน ทั้ง 3 คนคือหัวใจหลักของทีมชาติไทยในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน

9. แข้งเพชรบูรณ์สร้างเซอร์ไพรส์

ทีมฟุตบอลชายเพชรบูรณ์สร้างเซอร์ไพรส์แบบสุดๆ หลังพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 38 ปี จากที่ปกติตกรอบคัดภาคโดยตลอด แถมทะยานขึ้นไปคว้าเหรียญทองมาได้ด้วยการชนะดวลจุดโทษเจ้าภาพนครสวรรค์ 6-5 หลังเสมอกันในเวลา 2-2 ช็อกชาวเจ้าภาพทั้งจังหวัด

10. สวยเด่นเตะตาที่สุด

สวยเด่นเป็นสง่าที่สุดในกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 38 ทีมข่าวสยามกีฬาขอยกให้ "น้องพัด" พัชลิน หนุนกลาง ตัวเสริฟสาวสวยของนครปฐมที่ช่วยทีมคว้าเหรียญทองตะกร้อทีมเดี่ยวหญิง ออร่าความน่ารักของเจ้าตัวร้อนแรงแซงทะลุแดดอันระอุของเมืองนครสวรรค์ ทั้งๆ ที่มีวัยเพียง 16 ปี ใครอยากพิสูจน์ว่าทีมข่าวสยามกีฬากล่าวจริงๆ ไม่จริงก็สามารถไปฟอลโลว์สาวพัดกันได้เลยที่อินสตาแกรม phat nunkang



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport