เจาะ 'แดนกลาง' บิ๊กทีม ไทยลีก

อีกไม่ถึงหนึ่งเดือน ไทยลีก 2023-24 ก็จะเปิดฉากกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง และดูเหมือนว่าซีซั่นนี้จะทวีคูณความเข้มข้นหลายเท่า เพราะหลายๆ สโมสรต่างเสริมทัพกันสนั่นเมือง ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงมาวิเคราะห์ขุมกำลังใน 'แดนกลาง' ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการแข่งขัน ไปดูกันว่าทีมใดมีแผงมิดฟิลด์ที่ดูไฉไลมากกว่ากัน!!

[ 1 ] บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 

ผู้เล่นในตำแหน่งนี้ : ลีออน เจมส์, ธีราทร บุญมาทัน, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, รัตนากร ใหม่คามิ, โกรัน เคาซิช, เสกสรรค์ ราตรี   

   แชมป์เก่ายังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่งในทุกขุมกำลัง ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู ไปจนถึงกองหน้า ทว่า 'จุดเด่น' จากฤดูกาลที่ผ่านมาคือแผงมิดฟิลด์ที่ครบเครื่อง บู๊-บุ๋นพอๆ กัน เพราะการที่มี ธีราทร บุญมาทัน เป็นแกนกลาง

   อดีตนักเตะ โยโกฮามะ มะรินอส มีจุดเด่นที่การจ่ายแบบ 'คิลเลอร์พาส' แถมบอลจากเท้าของเขายังอันตรายในทุกๆ จังหวะ มันจึงทำให้ บุรีรัมย์ มีการโจมตีที่หลายหลาก ซึ่งเมื่อบวกกับ โกรัน เคาซิช ที่มักจะสอดไปทำประตูได้บ่อยๆ อีกทั้งยังแข็งแกร่งและดุดัน ปราสาทสายฟ้าเลยมีความสมดุลทั้งรับ-รุก

   นอกจากนี้ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของประเทศ ก็เชื่อมเกมได้เนียนตา รวมไปถึง รัตนากร ใหม่คามิ ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ การมีผู้เล่นเหล่านี้คือปัจจัยที่ทำให้ยักษ์ใหญ่แห่งแดนอีสานไล่ขย่มคู่ต่อสู้อยู่บ่อยๆ 

   แม้ว่าแผงมิดฟิลด์ที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ทว่าพวกเขาไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงไปคว้า ลีออน เจมส์ ดาวโรจน์ที่ฝีเท้ารุดหน้าแบบไวว่อง ซึ่งหมอนี่อาจจะมาเป็นอะไหล่ก่อนในตอนแรก แต่อนาคตข้างหน้า เขาจะก้าวสู่ตัวหลักแน่นอน

   บุรีรัมย์ ยังคงเป็นทีมที่น่ากลัวเสมอ และการที่ ธีราทร - เคาซิช จับคู่กันได้ลงตัว มันจึงทำให้ฝั่งตรงข้ามยากที่จะจับทางถูก ดังนั้นปราสาทสายฟ้าจึงเป็นทีมที่มีแดนกลางแข็งแกร่งไม่แพ้ใคร

[ 2 ] แบงค็อก ยูไนเต็ด

ผู้เล่นในตำแหน่งนี้: อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, วิศรุต อิ่มอุระ, ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, รัชนาท อรัญญไพโรจน์, ปกเกล้า อนันต์, มะห์มู๊ด ดาฮัดดา

   แบงค็อก มีนักเตะในตำแหน่งนี้ล้นทีม คือทุกคนต้องเบียดแย่งเพื่อลงสนามกันทุกๆ สัปดาห์ ทว่าตัวหลักๆ คงหนีไม่พ้น ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร และ ปกเกล้า อนันต์ ที่มีดีกรีทีมชาติไทย ต่อท้าย

   โดยเฉพาะ ฐิติพันธ์ ที่เป็นขาประจำของทัพช้างศึก ทำให้หมอนี่คือตัวหลักแน่ๆ 

   อย่างไรก็ตาม การได้ วิศรุต อิ่มอุระ ที่หายบาดเจ็บกลับมาลงสนามนั้นทำให้ ธชตวัน ศรีปาน เฮดโค้ชบียูมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เพราะมิดฟิลด์วัย 25 ปี มีจุดเด่นในเรื่องการทำลายเกมฝั่งตรงข้าม ซึ่งมันส่งผลให้แนวรุกของ แบงค็อก เล่นได้สบายใจกว่าเดิม

   นอกจากนี้ รัชนาท อรัญญไพโรจน์ ที่ฟอร์มดีกับ สุพรรณบุรี เอฟซี เมื่อซีซั่น 2021-22 ก่อนจะย้ายมา ทรู สเตเดี้ยม แต่ยังไม่ได้รับโอกาสมากนัก ทว่าถ้าไม่ท้อเสียก่อน รับประกันเลยว่าเขาจะระเบิดฟอร์มเด่นได้แน่

   อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของบียูคือมิดฟิลด์ตัวรุก เพราะสามารถเล่นได้หลายคน ไม่ว่าจะเป็น อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ที่กลับมาจากการยืมตัว, มะห์มู๊ด ดาฮัดดา แข้งทีมชาติปาเลสไตน์ หรือแม้แต่ เฮแบร์ตี้ รวมไปถึง วานแดร์ ลุยซ์ ก็ขยับมายืนตรงนี้ได้

   ด้วยชื่อชั้นและชั้นเชิงลูกหนัง พวกเขาจึงมีแดนกลางที่ครบเครื่อง รับก็เยี่ยม รุกก็ยอด แถมยังมี 'ทีเด็ด' จากการยิงไกลจากแถวสองอีกต่างหาก 

   ดังนั้นมิดฟิลด์ของ แบงค็อก จึงไม่เป็นสองรองใครใน ไทยลีก เช่นกัน

[ 3 ] การท่าเรือ เอฟซีผู้เล่นในตำแหน่งนี้: ชาริล ชัปปุยส์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, เนเกบา, วิลเลี่ยม ไวเดอร์สเฌอ, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ชานุกูล ก๋ารินทร์, โนบูรุ ชิมูระ

   นี่คือทีมที่มีขุมกำลังในแดนกลางมากที่สุดในบรรดาทีมใหญ่ด้วยกัน แถมแต่ละรายนั้นมีดีกรีทีมชาติ ทั้งชุดอดีต, ปัจจุบันและอนาคตรวมตัวอยู่ที่นี่ที่เดียว

   วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ คือตัวเลือกลำดับแรกๆ ของทีม ด้วยเซ้นส์ฟุตบอลที่ร้ายกาจ จึงสามารถสอดประสานกับคนอื่นๆ ได้ไม่ยาก ซึ่งถ้าพวกเขาเล่นระบบมิดฟิลด์ 3 คน เท่ากับว่าจะเหลือที่ว่างอีกเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้น

   ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่ถูกถอยไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟบ่อยๆ คงจะได้เล่นในพื้นที่ที่ตัวเองถนัดแล้ว เพราะว่าสิงห์เจ้าท่ามีทั้ง เฉลิมศักดิ์ อักขี, ชาร์ลี คลัฟ, วรวุฒิ นามเวช และ ฟรานส์ ปูโตรส ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง ทำให้ 'บุสเกตส์ เมืองไทย' จะได้เฉืดฉายสักที

   อย่างไรก็ตาม เขาคงต้องขับเคี่ยวกับ โนบูรุ ชิมูระ มิดฟิลด์ตัวรับชาวญี่ปุ่น ที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ซึ่งก็คงจะสนุกแน่ เพราะหมอนี่มีประสบการณ์โชกโชนในลีกยุโรป

   ขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ก็พร้อมจะสอดแทรกสู่ 11 ผู้เล่น ตัวจริง ไล่ตั้งแต่  ชาริล ชัปปุยส์, วิลเลี่ยม ไวเดอร์สเฌอ และสองแข้งใหม่อย่าง ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช กับ ชานุกูล ก๋ารินทร์

   ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะตำแหน่งกองกลางตัวรุก เนเกบา ซึ่งมีภาษีดีที่สุด ก็ต้องแย่งพื้นที่กับ  ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ในบทบาทเพลย์เมเกอร์คอยสร้างสรรค์เกม

   จากทรัพยากรนักเตะที่มีอยู่ การท่าเรือ จึงเป็นทีมที่คาดเดาได้ลำบากว่าแต่ละนัดจะจัดผู้เล่นตัวจริงเช่นไร เนื่องจากแต่ละชื่อล้วนแล้วแต่คับแก้วไปด้วยคุณภาพ มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ซึ่งโค้ชคู่อย่าง สุรพงษ์ คงเทพ และ โชคทวี พรหมรัตน์ คงจะต้องขบคิดแบบถี่ถ้วนในการเลือกคนที่จะลงสนาม 

   เพราะด้วยแข้งชั้นนำของประเทศที่เต็มทีม ถ้าผลงานไม่เข้าเป้า พวกเขาก็อาจจะตกงานได้เลยทีเดียว

[ 4 ] เมืองทอง ยูไนเต็ด

ผู้เล่นในตำแหน่งนี้: ธีระพล เยาะเย้ย, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท, กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์, วงศกร ชัยกุลเทวินทร์, คคนะ คำยก, พิชา อุทรา

   ฟุตบอลของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ คือเล่นกับพื้นเป็นหลัก โดยมีโจทย์หลักคือการคอนโทรลเกมให้ได้ ซึ่งพื้นที่สำคัญคือกองกลางนี่แหละที่กุนซือชาวเซอร์เบีย เน้นหนักมาตลอด และผลงานในสนามที่ออกมาก็เป็นภาพชัดเจนว่า เมืองทอง คือทีมที่โดดเด่นในเรื่องนี้

   พิชา อุทรา และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ คือสองคู่ขาในแผงมิดฟิลด์ โดยมีจุดเด่นแตกต่างกันไป รายแรกฉลาดเป็นกรด เล่นน้อยจังหวะ เสียบอลยาก จนทำให้คู่ต่อสู้ต้องลำบากเมื่อเผชิญหน้า

   ขณะที่ วีระเทพ นั้นแสดงให้เห็นถึงคลาสฟุตบอลอันล้ำเลิศ ลูกแทงทะลุช่องหรือการจ่ายที่แม่นยำคืออาวุธหนักที่กิเลนผยองใช้โจมตีฝั่งตรงข้าม และประตูต่างๆ ที่ทำได้ ก็มักจะมีจุดเริ่มต้นจากเขานี่แหละ

   การที่มีดูโอ้ที่รู้ใจเช่นนี้ทำให้ เมืองทอง ครองยุทธศาสตร์ในแดนกลางได้เกือบทุกเกมที่ลงสนาม และการได้ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร มาเพิ่มอีกราย มันทำให้แฟนๆ ต่างฝันหวานถึงความสำเร็จในอนาคตอันใกล้

   อดีตแข้ง เลสเตอร์ ซิตี้ อาจจะยังไม่ฟิตเต็มร้อย แต่สิ่งที่เขาแสดงให้เห็นยามเล่นในนามทีมชาติไทย นั้นสามารถยกระดับให้เพื่อนรอบข้างได้ชัดเจน

   ดังนั้น 3 ประสาน พิชา, วีระเทพ และ ธนวัฒน์ จึงกลายเป็นส่วนผสมที่น่าจะลงตัว เผลออาจจะเป็นแผงมิดฟิลด์ที่ลงตัวที่สุดในลีกได้เลยทีเดียว

   นอกเหนือไปจาก 3 คนนี้ กิเลนผยองก็ยังมี ธีระพล เยาะเย้ย, กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ และ วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ ที่สามารถทดแทนได้แบบไม่เคอะเขิน ซึ่งเมื่อบวกกับสองวัยรุ่นอย่าง ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท กับ คคนะ คำยก ก็น่าจะทำให้พวกเขาเป็นที่อิจฉาจากทั่วทุกสโมสรในเมืองไทย

[ 5 ] บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ผู้เล่นในตำแหน่งนี้: เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, สารัช อยู่เย็น, ฉัตรมงคล ทองคีรี, เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ณัฐพล วรสุทธิ์, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล

   การมาของ ชนาธิป ทำให้แดนกลางของ บีจี ปทุม กลายเป็นพื้นที่ที่แข็งแกร่งที่สุดใน ไทยลีก แบบไม่ต้องสงสัย เพราะนอกจากเพลย์เมเกอร์ชาวนครปฐม แล้ว พวกเขายังมี สารัช อยู่เย็น และ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล สองมิดฟิลด์ทีมชาติไทย ปักหลักอยู่

   เท่านั้นไม่พอ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ นักเตะคลาสสูงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นๆ เลย และเมื่อรวมกับ ฉัตรมงคล ทองคีรี กับ ณัฐพล วรสุทธิ์ ก็ถือได้ว่าทีมกระต่ายแก้วแทบจะเอาชนะคู่แข่งไปครึ่งตัว

   ไม่เพียงแค่แดนกลางที่ เดอะ บลู แมชีน อุดมไปด้วยนักเตะชั้นนำของประเทศ เพราะแนวรับหรือแดนหน้า บีจี ปทุม ก็มีผู้เล่นประเภทพลิกเกมได้ในชั่วพริบตา 

   การที่พวกเขาสะสมแข้งชั้นยอดไว้มากมายเช่นนี้นั้นบ่งบอกถึงความทะเยอทะยานที่จะกลับมาประสบความสำเร็จให้ได้ และด้วยชื่อของแต่ละคน เป้าหมายสิ่งเดียวคือ 'แชมป์' เท่านั้น

   ความได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งของทีมกระต่ายแก้วคือการที่ ชนาธิป, สารัช และ พิธิวัตต์ เล่นร่วมกันในทีมชาติมานาน แถมยังมี ธีรศิลป์ แดงดา เป็นตัวเชื่อม มันจึงทำให้แทบไม่ต้องปรับจูนอะไรมาก เพราะมองตาก็รู้ใจ

   หากไม่มีเรื่องฟอร์มสะดุดติดๆ กัน รับประกันเลยว่าอย่างน้อย บีจี ทุม จะต้องหยิบถ้วยได้อย่างน้อย 1 ใบ ในฤดูกาล 2023-24

[ 6 ] ชลบุรี เอฟซี 

ผู้เล่นในตำแหน่งนี้: กฤษดา กาแมน, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์, เบน เดวิส, อี ชาน-ดง, รัฐธรรมนูญ ดียิ่ง, สิรภพ วันดี, รัฐภูมิ หม่อมพิบูลย์, พัชรพล เหล็กกุล

   ฉลามชลยังคงอุดมไปด้วยนักเตะดาวรุ่งล้นทีม โดยซีซั่นนี้พวกเขามี กฤษดา กาแมน เป็นแกนกลาง ซึ่งคาดว่าน่าจะทำหน้าที่คู่กับ อี ชาน-ดง นักเตะตัวรับชาวเกาหลีใต้ ที่เพิ่งย้ายมาใหม่ 

   ดังนั้นจึงเหลืออีกเพียงหนึ่งที่ว่างสำหรับ 11 ตัวจริง เนื่องจาก มาโกโตะ เทกูระโมริ มักจะใช้ระบบมิดฟิลด์ 3 คน ซึ่งคงมีความเป็นไปได้ว่า ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว จะได้รับบทบาทเพลย์เมเกอร์ แต่แนวรุกทีมชาติไทย ก็สามารถขยับออกไปด้านข้างได้เช่นกัน

   อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีอาวุธลับที่ชื่อ เบน เดวิส อีกราย เพราะหมอนี่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนบน จะกองกลางตัวรุกก็ได้ หรือจะริมเส้นก็ดี

   สิ่งที่น่าสนใจของ ชลบุรี คือการมีนักเตะอายุน้อยหลายราย ไล่ตั้งแต่ รัฐธรรมนูญ ดียิ่ง, สิรภพ วันดี, รัฐภูมิ หม่อมพิบูลย์ และ พัชรพล เหล็กกุล ซึ่งจากที่ผ่านๆ มา พวกเขามักจะให้โอกาสกับเหล่าวัยรุ่นเสมอ 

   วรขิต กนิตศรีบำเพ็ญ, กฤษดา มาถึง ชาญณรงค์ ต่างก็แจ้งเกิดกับตำแหน่งกองกลางของฉลามชล กระทั่งก้าวสู่ทำเนียบทีมชาติไทย 

   เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าพวกเขาคงจะปั้นดาวรุ่งขึ้นมาอีกแน่ในฤดูกาล 2023-24 ที่กำลังจะมาถึง


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport