เจาะ ท็อปไฟฟ์ค่าตัวแข้งไทยลีก "เมสซี่เจ" จ่อทุบสถิติใหม่ค่าตัวไทยลีก

ชั่วโมงนี้ ข่าวดังวงการฟุตบอลไทยจะเป็นข่าวไหนไม่ได้ นอกซะจากข่าว บิ๊กดีลที่ทุกคนกำลังเฝ้ารอคอยกับ ข่าวอย่างเป็นทางการ ว่า สุดท้ายแล้ว จะเป็นทีมไหน ที่ได้ตัว "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธิ์ นักเตะ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ไปครอบครอง นั่นเอง

หากเป็นไปตามกระแสข่าวที่ว่า ค่าตัวสำหรับดีลนี้จะอยู่ที่ราว 70 ล้านบาท นั่นหมายถึง "เมสซี่เจ" จะเป็นเจ้าของสถิติใหม่ นักเตะที่มีค่าตัวอันดับ 1 ของไทยลีก 1 ไปทันที  

จริงแล้ว ชนาธิป เป็นนักเตะที่มีมูลค่าการซื้อขายมากสุดก็ว่าได้กับดีลที่ผ่านมาของเขา ทั้งจาก เมืองทอง ฯ ไป ซัปโปโร ราว 100 ล้านบาท , ซัปโปโร ไป คาวาซากิ ราว 134 ล้านบาท และหากจบดีลกับทีมในไทย อีก 70 ล้านบาท รวมแล้ว "เมสซี่เจ" มีตัวเลขค่าตัวทะลุถึง 300 ล้านบาท ไปแล้ว  

ก่อนหน้านี้ ท็อปไฟฟ์ ของมูลค่าค่าตัวนักเตะไทยกับการซื้อขายเงินก้อนโต มีใครบ้างไปดูกันเลย  

อันดับ 1 วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ  

กำลังจะโดนทำลายสถิติสำหรับเจ้าของอันดับ 1 ค่าตัวมากสุด อย่าง "ยิม" วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่ย้ายจาก ชลบุรี เอฟซี ไป บีจีปทุม ฯ ปี 1 ธ.ค. 2564  เมื่อฤดูกาล 2021-2022 แม้จะไม่มีการยืนยันค่าตัว ชัดเจน อย่างเป็นทางการเป็นแค่การคาดการณ์  แต่ทว่า ก็มีรายงานมาว่าค่าตัว วรชิต อยู่ที่ 60-70 ล้านบาท เลยทีเดียว ไม่รวมค่าเซ็นอีก 7-8 ล้านบาท   

อันดับ 2 ธนบูรณ์ เกษารัตน์

"เจ้าตั้ม" ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เคยเป็นเจ้าของสถิติค่าตัวมากสุดตอนย้ายจากเมืองทอง ยูไนเต็ดไป ร่วมทัพให้ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยมูลค่า ราว 50.82 ล้านบาท เมื่อปี ค.ศ. 2017  

อันดับ 3 เควิน ดีรมรัมย์  

เควิน ดีรมรัมย์ ถูกการท่าเรือฯ ซื้อไปจาก ราชบุรีฯ เมื่อฤดูกาล 2018 ด้วยมูลค่า 40.25 ล้านบาท

อันดับ 4 ธนบูรณ์ เกษารัตน์

นอกจากจะเป็นอันดับ 2 แล้ว "เจ้าตั้ม" ยังมีอีกดีล ตอนเขาย้ายจาก ลีโอ เชียงราย ฯ ไปอยู่กับ บีจีปทุมฯ ปี ค.ศ. 2018 ด้วยมูลค่า 40.11 ล้านบาท 

อันดับ 5 ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

"นิว" ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ นักเตะที่เคยไปฝากผลงานในเจลีก มาแล้ว เป็นนักเตะที่ติดอันดับค่าตัวมากเป็นท็อปไฟฟ์ แต่หาก ดีล ของ ชนาธิป จบกับที่ว่าทีมใหม่ ของ "เจ" จะทำให้ ตัวเลขค่าตัวของ ฐิติพันธ์ หลุดจากท็อปไฟฟ์ ทันที โดยครั้งที่ เขาย้ายจาก ลีโอ เชียงรายฯ ไป บีจีปทุมฯ เมื่อปี ค.ศ. 2018 นั้น อยู่ที่ 30.10 ล้านบาท  

"Singhnok  Hk vp 9"


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport