หนองบัวและภารกิจหนีโซนแดงที่ต้องสู้

หนองบัว พิชญ เอฟซี ทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์กับการกระโดดมาอยู่อันดับ 6 เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2021-22 พร้อมกับฟอร์มการเล่นที่น่าชื่นชม และล้มสโมสรใหญ่ได้หลายนัด

   ทว่าการปล่อย แฮมิลตอน โซอาเรส กับ แอร์ตอน 2 ผู้เล่นสำคัญออกไปให้ การท่าเรือ เอฟซี ก่อนเปิดซีซั่นใหม่ ส่งผลกระทบต่อพวกเขาอย่างใหญ่หลวง 

   ปัจจุบัน ทีมพญาไก่ชนมีเพียง 10 คะแนน จากการลงสนาม 16 นัด หรือผ่านครึ่งทางของ ไทยลีก ไปแล้ว และอยู่อันดับ 15 ซึ่งเป็นรองบ๊วยของตาราง โดยตามหลังโซนปลอดภัยอยู่ 4 แต้ม

   คะแนนที่ห่างจากพื้นที่สีเขียวอาจจะไม่เยอะมาก สามารถไล่ทันได้อยู่ แต่ถ้า หนองบัว พิชญ ยังไม่ชนะใครติดๆ กัน บางทีอาจจะสายเกินไปเสียแล้ว

   พวกเขาเสริมนักเตะเข้ามามากมายก่อนเปิดเลกที่สอง ซึ่งแต่ละรายล้วนแล้วแต่เจนจัดใน ไทยลีก แถมยังมีดีกรีทีมชาติพ่วงท้าย ไล่ตั้งแต่ อดิศร พรหมรักษ์ กับ พีระพงษ์ เรือนนินทร์ และรวมไปถึง อัลวิน ฟอร์เตส ปีกฟอร์มร้อนแรงที่มาจาก ราชบุรี เอฟซี แบบสุดเซอร์ไพรส์

   เมื่อบวกกับขุมกำลังดั้งเดิมอย่าง ปิยพล ผานิชกุล, วัฒนา พลายนุ่ม, สถาพร แดงศรี, ซีเกต หมาดปูเต๊ะ, วันเฉลิม ยิ่งยง และ บาร์รอส ทาร์เดลี่ จริงๆ แล้วทีมพญาไก่ชนไม่ควรจะตกมาอยู่ถึงตรงนี้

   ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ หนองบัว พิชญ ผลงานไม่สู้ดีนัก คือการที่นักเตะต่างชาติที่นำเข้ามาก่อนเปิดซีซั่น 2021-22 นั้นถือว่า 'สอบตก'

   ฤดูกาลที่พวกเขาสร้างความตื่นตะลงให้วงการลูกหนังไทย คือการมี แฮมิลตอน, แอร์ตอน, ทาร์เดลี่, มะห์มู๊ด ไอด์ บวกกับสองอาเซียน อามานี่ อากินัลโด้ และ เอียน แรมเซย์ 

   ผู้เล่นกลุ่มนี้คือกำลังหลักที่ทำให้ หนองบัว พิชญ ต่อกรกับทีมอื่นๆ ได้อย่างสูสี แต่ผ่านพ้นเพียงซีซั่นเดียว เหลือเพียง ทาร์เดลี่ เท่านั้นที่ยังอยู่กับทีม

   ขณะที่ผู้มาใหม่อย่าง ฮอร์เก้ เฟลิเป้, มาร์ลอน เดอ เชซุส, อิสลาม บาตราน  หรือ โจนาธาน เฮส ที่คุ้นเคยกับ ไทยลีก เป็นอย่างดี กลับไม่สามารถทำผลงานได้ดั่งหวัง 

   ความเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหันนั้นส่งผลกระทบมหาศาล จากทีมที่อยู่กลุ่มบน ตกลงสู่โซนล่างในทันที

   อย่างไรก็ตาม ฤดูกาล 2022-23 ยังเหลือโปรแกรมอีก 14 นัด มีแต้มให้ตามเก็บอีกเพียบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันต้องขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะสามารถคืนฟอร์มเก่งได้เมื่อไหร่

   วันเสาร์ที่ 28 มกราคมนี้ ทีมพญาไก่ชนจะเปิด พิชญ สเตเดี้ยม ต้อนรับ เชียงราย ยูไนเต็ด หนึ่งในทีมที่เหนียวแน่นที่สุดในสยามประเทศ

   นี่คือเกมที่อาจจะเป็น 'จุดเปลี่ยน' ให้กับพวกเขา เพราะถ้าได้รับชัยชนะ อะไรๆ จะเริ่มเป็นใจให้แน่

   แม้แต้มต่อ ทั้งเรื่องของผลงาน, อันดับและตัวผู้เล่นจะเป็นรองอาคันตุกะจากแดนล้านนา

   แต่สิ่งที่ หนองบัว พิชญ เหนือกว่า คือการที่พวกเขาได้เล่นต่อหน้าแฟนๆ และอย่าลืมว่าแม่ทัพของพญาไก่ชนนั้นชื่อ เอแมร์ซอน ซึ่งเป็นโค้ชอยู่กับ เชียงราย มานาน ดังนั้นเขาย่อมมีวิธีที่จะจัดการกับกว่างโซ้งมหาภัยแน่ๆ

   ภารกิจหนีตกชั้นของพวกเขายังคงต้องลุ้นแบบเกมต่อเกม ซึ่งต่อจากนี้ไป หนองบัว พิชญ จะต้องลงสนามประหนึ่งว่าเป็นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยไปจนจบฤดูกาล

   เริ่มจากแมตช์กับ เชียงราย วันเสาร์นี้ หากได้ 3 คะแนน มันจะเป็นการปลดล็อกไร้ชัย 4 เกมติด หากทำสำเร็จ รับประกันเลยว่างานข้างหน้าของพวกเขาจะเบาใจลงได้อีก 

   แต่ถ้ายังไม่เป็นไปตามเป้า ก็คงจะเหนื่อยหนักขึ้นไปอีก และมันจะยิ่งทวีคูณเรื่อยๆ เพราะความมั่นใจที่ถดถอย

   หนองบัว พิชญ และภารกิจหนีโซนแดงที่ต้องสู้สุดใจ

ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport